เครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา ชี้ ยังขาดมาตรการควบคุมบริษัทน้ำเมารุกจัดอีเวนต์คอนเสิร์ต ขายน้ำเมารับ 7 วันอันตรายสงกรานต์ เย้ยกฎหมายส่งเสริมการขายนับพันแห่งทั่วประเทศ เพิ่มเสี่ยงเมาแล้วขับเกิดอุบัติเหตุ จี้ เข้มงวดมอเตอร์ไซค์แทนกระบะ
วันนี้ (10 เม.ย.) นายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา (Alcohol Watch) เปิดเผยว่า จากกระแสคัดค้านจนทำให้รัฐบาลยอมถอย กรณีใช้มาตรา 44 ห้ามผู้โดยสารนั่งแค็บ - นั่งท้ายกระบะนั้น หากมองยานพาหนะตัวการสำคัญ คือ จักรยานยนต์ ปัญหาอุบัติเหตุ 80% มาจากการขับขี่รถจักรยานยนต์ด้วยความเร็ว การไม่สวมหมวกนิรภัย และที่สำคัญ มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ยังไม่มีมาตรการใดๆ ออกมาควบคุมในจุดนี้เลย โดยเฉพาะความเชื่อมโยงกับกิจกรรมคอนเสิร์ตของค่ายน้ำเมาสารพัดยี่ห้อ ที่กระหน่ำจัดกันในช่วงนี้ ซึ่งปล่อยให้มีการขายการดื่มกันอย่างเต็มที่ อารมณ์สนุกสุดเหวี่ยง ขาดสติ ส่งผลให้ในคอนเสิร์ตน้ำเมาค่ายต่างๆ จะมีข่าวการตีรันฟันแทง แทบทุกงาน และหลังจากนั้น คนที่อยู่ในอาการมึนเมาจำนวนมหาศาล ตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่นคน ก็จะออกไปขับขี่บนท้องถนนในอาการที่มึนเมาเต็มที่ และส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่น
“กรณีความสูญเสียล่าสุด ที่เป็นประจักษ์พยานได้ขัดเจน คือ หนุ่มอุทัยธานี เมาแล้วขับรถจักรยานยนต์กลับจากงานคอนเสิร์ตของธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยี่ห้อดัง กระทั่งมาเกิดอุบัติเหตุจนเสียชีวิต ขณะที่ธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พร้อมที่จะกอบโกยกระตุ้นยอดขายช่วงสงกรานต์ โหมงานคอนเสิร์ต งานอีเวนต์ ลดแลกแจกแถม ส่งโปรโมชั่นให้กับร้านค้ารายย่อยผับบาร์ เพื่อรองรับเทศกาลสงกรานต์ และทราบมาว่า มีการเตรียมจัดงานคอนเสิร์ตกว่าพันแห่งทั่วประเทศในช่วงนี้” นายคำรณ กล่าว
นายคำรณ กล่าวว่า หลายพื้นที่พบว่ามีความพยายามรณรงค์จัดพื้นที่เล่นน้ำปลอดเหล้า ปลอดภัย แต่พอออกจากพื้นที่ปลอดภัย ก็ยังถูกดักขายน้ำเมา ก่อนขับรถกลับบ้าน เมื่อเข้าไปขายในงานไม่ได้ก็ขายใกล้งาน ปิดหัวปิดท้าย ก็เสี่ยงทำให้เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตมากขึ้น ตราบใดที่ไม่แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ธุรกิจน้ำเมากำลังทำสวนทางที่ทุกภาคส่วนพยายามลดการเสียชีวิต แต่ธุรกิจนี้กับส่งเสริมการตาย ด้วยการระดมจัดงานคอนเสิร์ต งานอีเวนต์ โดยไม่ได้ห่วงความปลอดภัย หรือการสูญเสียช่วงเทศกาลสงกรานต์ หากเกิดอุบัติเหตุต้นตอของปัญหา คือ ธุรกิจน้ำเมาต้องมีส่วนรับผิดชอบ ไม่ใช่โกยเงินเข้ากระเป๋าเพียงอย่างเดียว อย่าลืมว่ายอดขายของคุณมันสร้างผลกระทบต่อสังคมเป็นวงกว้าง ควรหยุดฉวยโอกาสจากเทศกาลอันดีงามของไทย เพื่อมาสร้างความร่ำรวยบนความสูญเสียและเอาเปรียบสังคมแบบนี้ และสังคมควรร่วมกันประณามการกระทำที่ขาดจิตสำนึก อาศัยช่องว่างที่เจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอในช่วงเทศกาลนี้
“อย่างไรก็ตาม ขอให้กำลังใจทุกหน่วยงานที่ได้ร่วมกันเตรียมป้องกันปัญหาความสูญเสีย เจ็บตายช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ ซึ่งทางเครือข่ายฯได้ส่งจดหมายขอความร่วมมือจากผู้ว่าฯในฐานะประธานควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัด ทุกแห่งให้เข้มงวดและเอาจริง และมีการเฝ้าระวังจากอาสาสมัคร หากมีการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย อีกทั้งรัฐบาลควรหันมาใส่ใจเข้มงวดกับรถจักรยานยนต์มากกว่าจะไปโฟกัสที่รถกระบะ ยิ่งถ้ามีการเล่นสาดน้ำ ยิ่งทำให้ถนนลื่น เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุเท่าตัว และจัดการกับคอนเสิร์ตน้ำเมาที่สร้างคนเมาแล้วขับกันเกลื่อนเมือง” นายคำรณ กล่าว