สธ. แจง “ปลวก” กินเอกสารการเงิน รพ.ชัยภูมิ ไม่เอี่ยวทุจริต ชี้ เก็บเอกสารไม่เรียบร้อย ยันเงินไม่หาย เผย ตามต้นขั้วใบเสร็จเงินได้แล้ว 80 - 90% ระบุ สอบวินัยทั้งฝ่ายทำเอกสารหายและฝ่ายทิ้งเอกสาร รับกรณีตรวจสอบ รพ.สตึก เกิดจากเหตุพยาบาลปลอมลายเซ็น คาด เม.ย. นี้ รู้ผลทั้ง 2 รพ.
จากกรณีคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) มีการรายงานผลการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ในการใช้งบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) ประจำปี 2558 โดยพบความผิดปกติของการเบิกจ่ายงบประมาณในโรงพยาบาล 2 แห่ง คือ รพ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เบิกจ่ายเงิน 3.1 ล้านบาท แต่ไม่มีการดำเนินโครงการจริง และ รพ.ชัยภูมิ ไม่มีหลักฐานการจ่ายเงิน 432 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้
วันนี้ (7 เม.ย.) นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะผู้รับผิดชอบกรณีวินัยของข้าราชการ กล่าวว่า ส่วนของ รพ.สตึก สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้มีการตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน และมีการแจ้งความไปตั้งแต่สมัยปี 2557 เนื่องจากพบว่า พยาบาลปลอมลายเซ็น จากนั้นทางจังหวัดตั้งกรรมการสืบข้อเท็จจริงตั้งแต่ พ.ค. 2558 และ สตง. ก็ลงไปตรวจสอบและเจอเรื่องนี้ แต่จะมีประเด็นอื่นๆ หรือผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ หรือไม่ ขณะนี้ต้องรอการสืบสวนข้อเท็จจริง คาดว่า เม.ย. นี้ น่าจะทราบ
นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนกรณี รพ.ชัยภูมิ เกิดขึ้นในปีงบประมาณ 2557 - 2558 ซึ่งพบว่า รพ.ชัยภูมิ มีปัญหาห้องเก็บเอกสาร เพราะก่อสร้างอาคารหลังใหม่ และห้องเก็บเอกสารนั้นๆ ได้เก็บเอกสารหลายส่วนไว้ด้วยกัน ซึ่งปรากฏว่า กลุ่มงานประกันของ รพ. บอกว่า มีปลวกกินเอกสาร จึงขอนำไปทิ้ง แต่เมื่อกลุ่มการเงินมาตรวจสอบกลับพบว่า มีเอกสารของฝ่ายตนหาย ซึ่งเอกสารการเงินตามกฎหมายต้องเก็บไว้เป็น 10 ปี แต่เข้าใจว่าอาจกองใกล้กันหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ทางการเงินได้รายงานไปยัง ผอ.รพ. และได้แจ้งความบันทึกประจำวันตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค. 2558 โดย รพ.ชัยภูมิ ก็ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงทันที และตรวจสอบเกือบ 1 เดือน จึงแจ้ง ผอ.รพ. ให้เห็นควรสอบวินัย 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายที่ทำหาย และฝ่ายเอาออกไปทิ้ง ซึ่ง รพ. ก็รายงานผลไปที่ สสจ. และมีการตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งด้วย
“สำหรับเอกสารต้นขั้วการเงินที่โรงพยาบาลมีการตรวจสอบนั้นเป็นเงินจำนวน 312 ล้านบาท โดยติดตามต้นขั้วจากใบเสร็จเงินได้แล้วประมาณ 80 - 90% และน่าจะเหลืออีกประมาณ 10% หรือคิดเป็นวงเงินประมาณ 29 ล้านบาท ที่ยังหาต้นขั้วเอกสารไม่ได้ แต่ขณะนี้ก็กำลังทวนกลับไปยังบริษัทต่างๆ อยู่ และกรณีนี้เงินไม่ได้หาย แต่ที่หายคือเอกสาร อย่างไรก็ตาม สตง. ก็ได้มาตรวจสอบพบว่า การจัดเก็บเอกสารไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย และไม่พบประเด็นทุจริตแต่อย่างใด โดยน่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือน เม.ย. นี้” นพ.สมศักดิ์ กล่าว
ด้าน นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 9 กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นทางโรงพยาบาลชัยภูมิได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบอยู่ก่อนแล้ว ตั้งแต่รู้ว่าต้นขั้วใบเสร็จหาย และยังมีการรายงานมาที่ สสจ. และผู้ว่าราชการจังหวัดให้ได้รับทราบตลอด โดยสิ่งที่หายเป็นเพียงเอกสารไม่ใช้เงินแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจสอบกำลังได้ข้อสรุปภายในเดือน เม.ย. นี้ และโรงพยาบาลก็เป็นคนรายงานให้ สตง. ได้รับทราบกรณีดังกล่าวเองด้วย