อาจารย์วิทยาลัยแพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี วิจัยสารสกัดจาก “ถั่วหรั่ง” พบมีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินได้ดีกว่าสารในปัจจุบัน ช่วยต้านสารอนุมูลอิสระทั่วไป ป้องกันการทำลายดีเอ็นเอระดับเซลล์และเนื้อเยื่อ กระตุ้นเสริมสร้างคอลลาเจนในผิวหนัง นำไปเป็นสารในการผลิตเครื่องสำอางได้ คาด ผลักดันเป็นพืชเศรษฐกิจและส่งออกได้
ผศ.ดร.กรวินท์วิชญ์ บุญพิสุทธินันท์ อาจารย์ประจำวิทยาลัยการแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี กล่าวว่า ประเทศไทยมีสมุนไพรที่มีคุณค่าจำนวนมาก ทำให้ต่างชาติให้ความสนใจและยอมรับเรื่องคุณประโยชน์ของสมุนไพรไทย แต่ยังมีพืชอีกหลายชนิดที่ยังไม่ทราบถึงฤทธิ์ทางชีวภาพ หรือฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาและความปลอดภัย หากรู้ถึงประโยชน์ของพืชเหล่านั้นก็จะสามารถนำไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ยา เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารได้ต่อไป โดยล่าสุด ตนได้ทำโครงการวิจัยถั่วหรั่ง (Bambarra Groundnut) ซึ่งเป็นพืชที่ปลูกในภาคใต้ โดยได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (iTAP) โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
ผศ.ดร.กรวินท์วิชญ์ กล่าวว่า ผลของการวิจัยทำให้ค้นพบสารสกัดจากถั่วหรั่งที่มีจุดเด่นหลักอยู่ที่ 3 กลไก คือ 1. กลไกยับยั้ง เนื่องจากสารจากถั่วหรั่งจะยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ “ไทโรซิเนส” ที่มีส่วนกระตุ้นสร้างเม็ดสีเมลานิน และยังยับยั้งการสังเคราะห์เมลานินของเซลล์เมลาโนไซส์ได้ดีกว่าสารที่ใช้ในปัจจุบัน เช่น กรดโคจิก หรือ กลูตาไธโอน ซึ่งจากกลไกนี้จะช่วยลดความหมองคล้ำ ฝ้า กระ และรอยจุดด่างดำ ทำให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใสได้อย่างเป็นธรรมชาติ 2. กลไกต่อต้าน โดยสารสกัดที่ค้นพบจะต่อต้านการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันในร่างกายได้ถึง 3 กลไก ซึ่งมีฤทธิ์ที่ดีกว่าสารต้านอนุมูลอิสระทั่วไป (antioxidant) เช่น วิตามินซีและวิตามินอี เป็นต้น โดยจะช่วยในเรื่องของการป้องกันการทำลายดีเอ็นเอในระดับเซลล์และเนื้อเยื่อ ลดการทำลายคอลลาเจนในชั้นผิวหนังของสารอนุมูลอิสระที่พบในชีวิตประจำวัน ซึ่งทำให้สามารถลดริ้วรอยและการแก่ก่อนวัยได้
และ 3. กลไกฟื้นฟู โดยสารสกัดที่ได้จากถั่วหรั่งจะช่วยกระตุ้นเซลล์ผิวหนังได้ดี และมีการเสริมสร้างคอลลาเจนในเซลล์ผิวหนัง ซึ่งจะเป็นการปรับสภาพผิวและฟื้นฟูโครงสร้างของผิว รวมทั้งกระตุ้นให้ผิวชั้นนอกแข็งแรงได้อีกด้วย ทั้งนี้ จากความโดดเด่นทั้ง 3 กลไกของถั่วหรั่ง ทำให้งานวิจัยดังกล่าวได้รับรางวัลชนะเลิศเหรียญทอง จากการประกวดระดับโลกในงาน “World Innovation Contest, WiC 2016 ที่ประเทศเกาหลีใต้ เนื่องจากงานวิจัยดังกล่าวทำให้ได้สารสกัดที่เป็นนวัตกรรมใหม่จากธรรมชาติ ที่ออกฤทธิ์ทางชีวภาพในการยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสและการต้านอนุมูลอิสระและสามารถนำไปสู่การพัฒนาให้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางที่ปลอดภัย รวมทั้งช่วยลดการนำเข้าสารเคมีและเครื่องสำอางจากต่างประเทศสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนหันมาบริโภคสินค้า หรือผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากภูมิปัญญาของคนไทยเอง นอกจากนี้แล้ว หากผลการวิจัยที่อาจทำให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และสามารถนำไปผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากถั่วหรั่ง จะทำให้ตลาดมีความต้องการสารสกัดและสามารถส่งออกต่างประเทศได้ ซึ่งจะทำให้ถั่วหรั่งอาจกลายเป็นพืชเศรษฐกิจได้ในอนาคต สามารถช่วยเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรทางภาคใต้