คกก. จัดสร้างพระเมรุมาศ มีมติเห็นชอบจัดสร้างพระโกศทองคำทรงพระบรมอัฐิ รัชกาลที่ ๙ ทูลเกล้าฯ ถวายรัชกาลที่ ๑๐ ขึ้นใหม่ เผยออกแบบพิเศษรอบฐานลายครุฑยุดนาค
วันนี้ (24 มี.ค.) เมื่อเวลา 9.30 น. ที่โรงละครแห่งชาติ (โรงเล็ก) พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ และบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ทั้งนี้ ภายหลังการประชุม ได้ลงพื้นที่ท้องสนามหลวงด้านทิศใต้ เพื่อตรวจความคืบหน้าการจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ
พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดสร้างพระโกศทองคำลงยาประดับรัตนชาติทรงพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชสำหรับทูลเกล้าฯถวายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขึ้นใหม่ โดยมี นายสมชาย ศุภลักษณ์อำไพพร นายช่างศิลปกรรมอาวุโส กลุ่มงานศิลปประยุกต์ และเครื่องเคลือบดินเผา สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากรเป็นผู้ออกแบบ ซึ่งออกแบบเป็นพระโกศแปดเหลี่ยม มีลักษณะพิเศษส่วนฐานโดยรอบทำเป็นลายครุฑยุดนาคแบบลอยตัว เป็นการถวายพระเกียรติและแสดงความเคารพอย่างสูง เพราะตามคติความเชื่อครุฑเปรียบได้กับพาหนะของพระนารายณ์
รองนายกฯ กล่าวถึงความคืบหน้างานโครงสร้างพระเมรุมาศ ว่า ขณะนี้โครงสร้างมีความคืบหน้ากว่า 45% มีการวางฐานราก ตั้งเสาบุษบกประธานและบุษบกซ่างทั้ง 4 มุมเสร็จแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการประกอบเสาบุษบกหอเปลื้องที่โรงงานเพื่อนำมาติดตั้งในพื้นที่ก่อสร้างภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้ ทั้งนี้ ได้มีการติดตั้งกล้องตรวจจับแรงสั่นสะเทือนจากแรงลมที่เสาพระเมรุมาศทุกต้นเพื่อให้วิศวกรสามารถคำนวณความปลอดภัย และมั่นคงแข็งแรง
ส่วนพระที่นั่งทรงธรรมงานโครงสร้างได้วางฐานรากและขึ้นโครงเสาอาคารทั้งหมดแล้ว และกำลังดำเนินการขึ้นโครงจั่วหลังคาและหลังคาปะรำ ปูพื้นไฟเบอร์ซีเมนต์ภายในอาคารและเริ่มติดตั้งงานระบบใต้พื้น
ส่วนศาลาลูกขุน 1 งานโครงสร้างคืบหน้าประมาณ 60% วางฐานรากอาคารและขึ้นโครงเสา - พื้นอาคาร - หลังแล้วเสร็จ 1 หลัง หลังอื่นๆ อยู่ระหว่างการวางฐานราก ขึ้นโครงเสาและพื้นตามลำดับ ศาลาลูกขุน 2 งานโครงสร้างคืบหน้าประมาณ 10% วางฐานรากแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างการขึ้นโครงเสาและคานพื้น สำหรับทิม ทับเกษตร งานโครงสร้างคืบหน้าประมาณ 10% ปักผังและปรับระดับพื้นเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างการทำฐานราก ส่วนพลับพลายกหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม พลับพลาหน้าพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท และพลับพลายกท้องสนามหลวงด้านหน้าทางเข้ามณฑลพิธี งานโครงสร้างคืบหน้าประมาณ 10% ปักผังและปรับระดับพื้นเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างการทำฐานราก
พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับการบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ ในส่วนของพระที่นั่งราเชนทรยานน้อย สำนักช่างสิบหมู่ ได้ดำเนินการขยายแบบแล้วเสร็จ และเริ่มดำเนินการแปรรูปไม้ และประกอบฐานเขียงชั้นที่ 1 และเตียงลาของบุษบก ส่วนราชรถปืนใหญ่ สำนักช่างสิบหมู่จัดทำแบบแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างการปรับรายละเอียดฐานรับพระบรมโกศและกลไกต่างๆ ขณะที่กรมสรรพาวุธเริ่มประกอบช่วงล่าง ณ กองโรงงานซ่อมสร้างยุทโธปกรณ์สายสรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบก จ.นครราชสีมา
สำหรับกำหนดวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชนั้น พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า คณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้ทูลเกล้าฯถวายผลการประชุมเรื่องกำหนดวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงฯ ระหว่างวันที่ 26 - 30 ตุลาคม 2560
ขณะที่ นายสุรัฐกิจ พีรพงศ์ศิลป์ หัวหน้ากลุ่มจิตรกรรม สำนักช่างสิบหมู่ กล่าวว่า ความคืบหน้าการจัดสร้างประติมากรรมประกอบพระเมรุมาศในส่วนของพระพรหม หนึ่งในองค์มหาเทพ ดำเนินการทดลองลงสีน้ำมัน โดยเลือกใช้โทนสีเขียว เหตุที่ทดสอบสีนี้ เพราะต้องการให้ดูคล้ายประติมากรรมโลหะ เป็นมหาเทพที่มีความขรึมขลัง จากนั้นจะให้คณะกรรมการพิจารณา หากมีความเห็นชอบอาจจะใช้เป็นแนวทางลงสีมหาเทพอีก 3 องค์
“วางแผนไว้ว่าเมื่อลงสีน้ำมันเสร็จเรียบร้อยแล้วจะยกชิ้นงานนี้ไปตั้งกลางแจ้ง เพื่อดูความงามขององค์พระพรหม เมื่อพระพรหมต้องแสงแดดจะปรากฏสี แสงเงาอย่างไร” นายสุรัฐกิจ กล่าว