xs
xsm
sm
md
lg

ไม่ใช่ชี้โพรงให้กระรอก!! ถึงเวลาชุมชนต้องคิดใหม่ “ถุงยางอนามัย” ช่วยแก้ท้องวัยเรียน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โดย...สิรวุฒิ รวีไชยวัฒน์

อุปสรรคหนึ่งในการแก้ปัญหา “ท้องในวัยเรียน” มาจากสำนวนที่ว่า “รักนวลสงวนตัว” ทำให้หลายคนยังติดอยู่ในกรอบความคิดที่ว่า การส่งเสริมให้วัยรุ่นมีการใช้ “ถุงยางอนามัย” เพื่อป้องกันการติดโรคทางเพศสัมพันธ์และป้องกันการท้องวัยเรียนกลายเป็นเรื่องที่ผิด เพราะถือเป็นการส่งเสริมให้วัยรุ่นมีเซ็กซ์เร็วขึ้น

จริงๆ แล้ว “รักนวลสงวนตัว” ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่เป็นเรื่องที่ควรทำเป็นอันดับแรกด้วยซ้ำในการป้องกันและแก้ปัญหาการมีเซ็กซ์และท้องในวัยเรียน เพราะหากไม่มีเซ็กซ์ก็ไม่มีทางเกิดปัญหาการตั้งครรภ์แน่นอน เพียงแต่ต้องเข้าใจบริบทของประเทศไทยก่อนว่า ทุกวันนี้อัตราการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียนของประเทศไทยมันสูงขึ้นไปมากเกินกว่าที่ “รักนวลสงวนตัว” เพียงอย่างเดียวจะช่วยแก้ปัญหาได้ “ถุงยางอนามัย” จึงต้องเข้ามามีบทบาทในการช่วยป้องกัน

นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การไม่มีเพศสัมพันธ์เป็นวิธีป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นที่ดีที่สุด ซึ่ง พ.ร.บ.การป้องกันและการแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ.2559 ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วเมื่อ ก.ค. 2559 ก็กำหนดชัดเจนว่า “วัยรุ่น” จำเป็นต้องได้รับการเรียนการสอนเรื่องเพศวิถี เพื่อให้เข้าใจร่างกายตัวเอง รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของร่างกายตัวเองจากวัยเด็กไปเป็นวัยรุ่น เรื่องของฮอร์โมน อารมณ์ทางเพศที่เกิดขึ้นจะแก้ปัญหาอย่างไร การมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยทำอย่างไร รวมไปถึงต้องเรียนรู้เรื่องของการให้เกียรติเพศตรงข้าม ไม่ฉวยโอกาส และทักษะการใช้ชีวิตต่างๆ เช่น ทักษะการปฏิเสธ ที่จะไม่ถูกคารมณ์ของฝ่ายตรงข้ามล่อหลอกให้มีเพศสัมพันธ์ด้วย เป็นต้น ซึ่งการเรียนรู้เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่การส่งเสริมให้วัยรุ่นไปมีเพศสัมพันธ์ แต่เป็นการสอนให้เขารู้เท่าทัน เพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้มีเพศสัมพันธ์และไม่เกิดการตั้งครรภ์ในวัยเรียนขึ้น ซึ่งถือเป็นการปูพื้นฐานเด็กยุคใหม่ให้รู้เท่าทันและสามารถป้องกันตัวเองจากการมีเพศสัมพันธ์ได้ หรือหากอยู่ในสถานการณ์ที่สุดท้ายจำเป็นต้องมี ก็สามารถมีได้อย่างปลอดภัย เช่น การใช้ถุงยางอนามัย เป็นต้น เพื่อป้องกันโรคและการตั้งครรภ์ได้

ที่ผ่านมาเมื่อภาครัฐมีการพูดหรือขับเคลื่อนเรื่องการติดตั้งตู้ถุงยางอนามัยในโรงเรียนหรือชุมชน มักจะถูกพ่อแม่ผู้ปกครองหรือคนในชุมชนบางส่วนที่ออกมาคัดค้าน เพราะยังมองว่าเป็นการส่งเสริมให้เด็กมีเพศสัมพันธ์ที่รวดเร็วขึ้นนั่นเอง แต่หากชุมชนมีความเข้าใจและเปิดใจรับฟังถึงปัญหาจะพบว่า การให้วัยรุ่นใช้ถุงยางอนามัยสามารถช่วยป้องกันปัญหาการตั้งครรภ์ได้จริงๆ เพียงแต่ต้องอยู่บนพื้นฐานที่ว่า การป้องกันอันดับแรกคือการ “รักนวลสงวนตัว” แต่เมื่อถึงเวลาที่ไม่สามารถห้ามการมีเซ็กซ์ได้ ก็ควรจะมีเซ็กซ์แบบปลอดภัย

เรียกได้ว่าชุมชนต้องเข้าใจถึงปัญหาและลำดับวิธีในการแก้ไขก่อน คือป้องกันตัว ไม่มีเซ็กซ์เป็นอันดับหนึ่ง แต่หากต้องมีไม่ว่าด้วยเหตุผลใดต้องมีอย่างปลอดภัย ซึ่งพื้นที่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ถือเป็นต้นแบบของชุมชนที่มีความเข้าใจและเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น และเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่เข้าร่วมโครงการอำเภออนามัยเจริญพันธุ์ และสามารถลดอัตราการตั้งครรภ์ในวัยเรียนลงได้

พญ.ไพเราะ เพชราภิรัชต์ ผู้อำนวยการ รพ.ท่าใหม่ จ.จันทุบรี กล่าวว่า รพ.ท่าใหม่เข้าร่วมโครงการอำเภออนามัยเจริญพันธุ์มาตั้งแต่ปี 2557 โดยมีการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นทั้งในส่วนของสถานพยาบาล โดยการจัดบริการที่เป็นมิตรกับวัยรุ่น เข้าถึงง่าย สะดวกและรวดเร็ว โดยทำงานร่วมกับสถานศึกษา ภาคชุมชน ในการวางแผนร่วมกัน กำหนดจุดยืนที่เข้าถึงใจวัยรุ่น เพราะเมื่อวัยรุ่นไว้ใจก็จะช่วยให้ผลลัพธ์ในการแก้ปัญหาประสบความสำเร็จ ซึ่งเดิมในปี 2555 อ.ท่าใหม่ มีอัตราการคลอดของแม่วัยรุ่นอายุ 15-19 ปีอยู่ที่ 50 ต่อ 1,000 ประชากร โดยปี 2559 สามารถลดอัตราดังกล่าวลงได้เหลือ 33 ต่อ 1,000 ประชากร

ผลการดำเนินงานทีเด่นชัดของ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี คือ ชุมชนที่เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาคือ ศูนย์บริการอนามัยเจริญพันธุ์ชุมชน ต.ยายร้า อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ที่ดำเนินการโดยสองคู่สามีภรรยา นางมาลินี เวชสุข ประธานศูนย์บริการอนามัยเจริญพันธุ์ และนายปัญญา ชูศิริ กรรมการศูนย์ฯ ที่เปลี่ยนบ้านให้เป็นศูนย์บริการที่ช่วยให้วัยรุ่นเข้าถึงการป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยเรียนที่มากขึ้น

ความสำเร็จดังกล่าวนั้น นายปัญญา เล่าว่า เดิมพวกตนทำงานเป็นจิตอาสาอยู่ใน รพ.ท่าใหม่ ก็เห็นว่าผู้มารับบริการฝากครรภ์นั้น อายุน้อยลงเรื่อยๆ และมีวัยรุ่นท้องซ้ำมากขึ้น จึงคิดว่าน่าจะมีการป้องกันอะไรที่มากกว่าการตั้งรับแค่ในโรงพยาบาล จึงหารือกันและตัดสินใจตั้งศูนย์แห่งนี้ขึ้นในพื้นที่บ้านของตนเอง เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2557 โดยยึดหลักการที่ว่าต้องเข้าถึงง่าย เป็นกันเอง เพื่อให้เด็กวัยรุ่นกล้าเข้ามารับบริการ แต่ช่วงปีแรกพบว่ามีปัญหา เพราะคนไม่เข้าใจคำว่าอนามัยเจริญพันธุ์คืออะไร ผู้มารับบริการจึงน้อย จึงเปลี่ยนวิธีใหม่โดยติดป้ายหน้าบ้านว่า “แจกถุงยางอนามัยฟรี” ปรากฏว่ามีคนเข้ามาขอจำนวนมาก ทั้งวัยรุ่นในพื้นที่และต่างพื้นที่ โดยวัยรุ่นในพื้นที่จะนิยมมาขอตอนกลางคืน ส่วนต่างพื้นที่ก็จะขับมอเตอร์ไซค์มาขอกันตอนกลางวัน แต่ด้วยความที่ยังต้องประกอบอาชีพและวัยุร่นบางคนไม่กล้ามาขอ จึงมีการตั้งไหที่ใส่ถุงยางอนามัยไว้หน้าบ้าน มี 2 ไห 2 ขนาดคือ ไหถุงยางอนามัยขนาด 49 มิลลิเมตร (มม.) และ 52 มม. เรียกว่า “ไหกันน็อก” เพื่อให้วัยรุ่นมาเปิดและหยิบไปใช้เองตลอด 24 ชั่วโมง ผลปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก โดยปี 2559 มีผู้มารับบริการ 258 ราย

“การดำเนินงานดังกล่าวเมื่อทำไปได้สักระยะก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดี วัยรุ่นและคนในชุมชนก็พูดถึงเรามากขึ้น อย่างคนในชุมชนเราก็มีการทำความเข้าใจและเขาก็เข้าใจว่าสิ่งที่เราทำอยู่ไม่ใช่การชี้โพรงให้กระรอก แต่เป็นการช่วยกันแก้ปัญหาการตั้งครรภ์ของวัยรุ่นในชุมชน ส่วนวัยรุ่นเมื่อเห็นเราดำเนินการอย่างนี้ มีท่าทีที่เป็นมิตร เขาก็กล้าเข้ามาปรึกษามาพูดคุย แต่บางคนอาจจะเข้ามาถามโดยทำทีเป็นว่าเพื่อนมีปัญหาอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งเราก็จะไม่ถามอะไร ก็ให้คำปรึกษาไป ตรงนี้เป็นการซื้อใจวัยรุ่น เมื่อได้ใจพวกเขาแล้วเขาจะกล้ามเข้ามาปรึกษาเรา เราก็จะให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ให้ทางเลือกแต่ละทางว่าเป้นอย่างไร แล้วให้เขาตัดสินใจเอง นอกจากนี้ ยังมีการจัดอบรมเด็กตั้งแต่อายุประมาณ 10 ปีขึ้นไป ให้เรียนรู้เรื่องเพศวิถี หรือคุยเรื่องเพศกันอย่างถูกต้องด้วย ทั้งเรื่องสรีระร่างกายชายหญิง การเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เช่น การฝันเปีกย การมีประจำเดือน ไปจนถึงการสอนใช้ถุงยางอนามัย การใช้ยาคุมกำเนิดต่างๆ เป็นต้น เพื่อป้องกันการมีเพศสัมพันธ์ไปด้วยอีกทาง” นายปัญญา กล่าว

นายปัญญา กล่าวว่า บางคนเข้ามาปรึกษาอย่างเรื่องการตั้งครรภ์ที่เกิดขึ้น ก็จะช่วยให้คำปรึกษาและความรู้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตั้งครรภ์ต่อหรือไม่ ที่บ้านรับรู้แล้วหรือไม่ สภาพที่บ้านเป็นอย่างไร โดยเอาตัวเด็กเป็นที่ตั้ง ซึ่งหากอยากเราช่วยคุยกับพ่อแม่ก็ยินดี หรือหากเด็กไม่อยากตั้งครรภ์ต่อ เราก็จะส่งต่อไปยังคลินิกวัยรุ่นเพื่อให้ได้รับบริการต่อ ก็จะมีการให้นามบัตรไปยื่นที่คลินิกโดยตรง ไม่ต้องไปผ่านผู้ป่วยนอก ตรงนี้ก็จะทำให้เด็กกล้ามเข้าไปรับบริการมากขึ้น ไม่ต้องถูกถามว่ามาทำอะไรให้ต้องอาย ไม่กล้าตอบ แต่ได้เข้าไปรับบริการที่เป็นส่วนตัวและเป็นความลับเลย วัยรุ่นก็สบายใจ

ขณะที่การดำเนินงานป้องกันในสถานศึกษาก็มีความสำคัญ โดย นายพรต สุภาพงษ์ ผอ.โรงเรียนท่าใหม่พูลสวัสดิ์ราษฎร์นุกูล กล่าวว่า โรงเรียนจะไม่มีการไล่เด็กออกหากตั้งครรภ์ แต่จะส่งเสริมให้ได้รับการศึกษาต่อ หรือหากอยากย้ายโรงเรียนก็จะประสานโอนหน่วยกิจ เป็นต้น ส่วนการป้องกันนั้นจะมีการระมัดระวังจุดเสี่ยง จุดลับตาต่างๆ ในโรงเรียน เพื่อป้องกันวัยรุ่นชิงสุกก่อนห่าม โดยมีอาจารย์และแม่บ้านช่วยตรวจตราและคอยแจ้งพฤติกรรมนักเรียน นอกจากนี้ ในการเรียนก็จะเน้นการสอนแบบ Active Learning เน้นการลงมือทำ เช่น มีการทำหนังสั้น คลิปวิดีโอ เพื่อให้ตระหนักถึงปัญหาการมีเพศสัมพันธ์และการตั้งครรภ์ในวัยเรียน ส่วนการเรียนการสอนเพศศึกษาก็มีหลักสูตรอยู่แล้ว และมีการสอนให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงชั้นว่าช่วงวัยไหนควรเรียนรู้เรื่องอะไร

หากชุมชนมีความเข้าใจและตระหนักในเรื่องนี้ ไม่มองว่าเป็นการชี้โพรงให้กระรอกและเข้าถึงจิตใจวัยรุ่นมากขึ้น ก็จะช่วยให้พื้นที่สามารถลดปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยเรียนลงไปได้ แต่ต้องไม่ลืมว่า การไม่มีเพศสัมพันธ์คือวิธีป้องกันที่ดีที่สุด แต่หากจะมีเซ็กซ์ก็ต้องมีอย่างปลอดภัย ไม่ก่อปัญหาอื่นให้สังคมตามมา!!




กำลังโหลดความคิดเห็น