สธ. ร่วม ศธ. จัดการเรียนเรื่อง “พยาธิใบไม้ตับ - มะเร็งท่อน้ำดี” ตั้งแต่ปฐมวัยถึง ม.3 ในโรงเรียนพื้นที่เสี่ยง 459 แห่ง ใน 27 จังหวัด หวังปลูกฝังเยาวชนรุ่นใหม่ เข้าใจ เลิกกินอาหารสุกๆ ดิบๆ เสี่ยงรับพยาธิใบไม้ตับ
วันนี้ (8 มี.ค.) นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ เรื่อง “การจัดการเรียนการสอนพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี” เพื่อขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ทศวรรษกำจัด ปัญหาพยาธิใบไม้ตับ และมะเร็งท่อน้ำดี ตามมติสมัชชาสุขภาพเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 ในการแก้ไขและป้องกัน ปัญหา โรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีอย่างยั่งยืน
นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า การปลูกฝังจิตสำนึกของเยาวชนตั้งแต่ปฐมวัย ให้มีความรู้ความเข้าใจในปัญหาโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยง จะนำไปสู่การปฏิบัติตัวที่ถูกต้องเหมาะสม เกิดพฤติกรรมสุขภาพและเป็นประโยชน์ทั้งต่อตนเอง ครอบครัว และชุมชน ซึ่งปี 2560 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ สนับสนุนการจัดการเรียนรู้เพื่อให้เยาวชนมีความรู้ความเข้าใจ และมีทักษะปฏิบัติที่ถูกต้องเรื่องโรคพยาธิใบไม้ตับ และมะเร็งท่อน้ำดีตั้งแต่ระดับปฐมวัยถึงระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในโรงเรียนพื้นที่เสี่ยง 459 แห่ง ใน 27 จังหวัด ส่วน สธ. จะร่วมมือในการสนับสนุนองค์ความรู้และคู่มือแนวทางในการจัดทำหน่วยการเรียน การจัดการเรียนรู้หรือสื่อการเรียนรู้ เรื่องโรคพยาธิใบไมตับและมะเร็งท่อน้ำดี โดยตั้งเป้าให้เยาวชนไทยมีความรู้ ความเข้าใจ เรื่องโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี
“ความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ทศวรรษการกำจัดปัญหาพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2559 ขับเคลื่อนโครงการกำจัดปัญหาพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีถวายเป็นพระราชกุศลฯ ซึ่งมีมาตรการ ดังนี้ คือ 1. การสร้างเสริมสุขภาพ 2. การควบคุมป้องกันคัดกรองพยาธิ 3. การคัดกรองมะเร็งท่อน้ำดี 4. การผ่าตัดการดูแลและประคับประคอง 5. การสื่อสารสาธารณะ โดยกระทรวงสาธารณสุขได้จัดกิจกรรมรณรงค์ และสร้างกระแสปรุงปลาสุก สนับสนุนผู้ประกอบการร่วมมือปรุงปลาปลอดพยาธิ พื้นที่เป้าหมาย 27 จังหวัดเสี่ยงสูง 138 อำเภอ 209 ตำบล” รมว.สธ. กล่าว
นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกกระทรวง โดยการคัดกรองพยาธิใบไม้ตับ ในประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไป ให้ยาและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม จำนวน 80,000 ราย ตรวจคัดกรองมะเร็งท่อน้ำดี ในประชาชนกลุ่มเสี่ยงอายุ 40 ปีขึ้นไป จำนวน 160,000 ราย ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยและผ่าตัด จำนวน 800 ราย ได้รับการดูแลรักษาแบบประคับประครอง จำนวน 800 ราย การคัดกรองเพื่อค้นหาผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดีเพื่อให้เข้าสู่การรักษาผ่าตัดที่รวดเร็วจะทำให้ผู้ป่วยมีอายุยืนยาว และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น