เมื่อขึ้นรถไฟฟ้าในชั่วโมงเร่งด่วน อยู่ในลิฟต์ที่มีคนเบียดเสียด บางครั้งเราอาจได้กลิ่นตัวหรือกลิ่นเต่าจากใครบางคนที่เหม็นโชยมาซะจนทำให้เราแทบอาเจียนหรือเกือบจะเป็นลมไปเลยทีเดียว เราลองมาดูกันว่า กลิ่นตัวเหล่านี้เกิดจากอะไรและมีวิธีป้องกันอย่างไร
1. เรามีกลิ่นตัวแรงมากที่สุดเมื่อใด
ก. เมื่อเครียด
ข. เมื่อออกกำลังกาย
ค. เมื่อร้อน
คำตอบที่ถูกคือ ข้อ ก. เมื่อเครียด เพราะเมื่อเราเหงื่อออกจะมีกลิ่นออกมาไม่แรง แต่เมื่อเราเกิดความเครียดผสมอยู่ด้วย แบคทีเรียจะออกมาทางผิวหนังมากกว่าปกติ ซึ่งทำให้มีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้มากกว่าเหงื่อออกธรรมดา
2. อะไรคือสิ่งที่ทำให้ลมหายใจเหม็น
ก. การออกกำลังกายมากๆ
ข. การแปรงฟันมากเกินไป
ค. การทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ
คำตอบที่ถูกคือ ค. การรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ เพราะร่างกายต้องเผาผลาญไขมันเพื่อพลังงาน และก่อให้เกิดสารเคมีที่เป็นกรด เรียกว่า คีโทน ทำให้ลมหายใจมีกลิ่นคล้ายผลไม้ หรือน้ำยาล้างเล็บ และเกิดการเสียสมดุลของอินซูลิน และเมื่อมีการสะสมของ คีโทนมากๆ จะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้
3. เราควรซักเสื้อชั้นในกางเกงในบ่อยแค่ไหน
ก. หลังจากที่ใส่ทุกครั้ง
ข. หลังจากใช้ประมาณ 2 - 3 ครั้ง
ค. เดือนละครั้ง
อาจจะมีหลายคนคิดว่าคำถามนี้ไม่น่าจะต้องเอามาถามกันเลย เพราะคนไทยโดยส่วนใหญ่ก็มักจะซักเสื้อชั้นในกับกางเกงในหลังจากที่ใส่ทุกครั้ง แต่จากผลสำรวจพบว่ามีวัยรุ่นทั้งหญิงและชายจำนวนไม่น้อยที่ใส่เสื้อชั้นในกางเกงในซ้ำกัน 2 - 3 ครั้ง ถึงจะนำไปซัก คำตอบที่ถูกของคำถามนี้ ก็คือ ก. เราควรซักกางเกงในและเสื้อชั้นหลังจากที่ใส่แล้วทุกครั้ง เพื่อรักษาความสะอาดและไม่ให้มีกลิ่นเหม็นหมักหมม
4. ปัสสาวะมีกลิ่นเหม็นมีสาเหตุมาจาก
ก. การกลั้นปัสสาวะ
ข. ใช้สบู่ที่มีน้ำหอม
ค. ขี่จักรยาน
คำตอบที่ถูกคือ ก. การกลั้นปัสสาวะ จะทำให้เกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบ และปัสสาวะมีกลิ่นเหม็นเพราะแบคทีเรียในระบบการขับถ่ายปัสสาวะ อีกประการหนึ่งที่จะเป็นสาเหตุของการเกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบ คือ จากการมีเพศสัมพันธ์ และการทำความสะอาดที่ผิดวิธี คือ การล้างก้นจากด้านหลังมาด้านหน้า ถ้าปัสสาวะของคุณมีกลิ่นเหม็น และมีสีขุ่นอีกทั้งเมื่อปัสสาวะแล้วรู้สึกปวดแสบปวดร้อนนั่นหมายความว่า นั่นอาจจะเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ให้ไปพบแพทย์ ซึ่งเมื่อทานยาแก้อักเสบและยาฆ่าเชื้อก็จะทำให้หายจากโรคนี้ได้
5. ถ้าเป็นคนเท้าเหม็น แช่เท้าของคุณด้วยอะไรที่จะช่วยให้เท้าไม่มีกลิ่น
ก. น้ำมันมะกอก
ข. น้ำส้มสายชู
ค.. น้ำมันงา
คำตอบที่ถูกคือ ข. น้ำส้มสายชู เพราะจะช่วยทำให้เท้าแห้งซึ่งช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของเท้าเหม็น วิธีการคือ ผสมน้ำส้มสายชู 250 มิลลิลิตร ลงในน้ำอุ่น 1 ลิตร แล้วแช่เท้าประมาณ 10 - 15 นาที หลังจากนั้น ให้ล้างด้วยสบู่ โดยให้ทำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
6. อาหารชนิดใดที่ทำให้เราผายลมบ่อยๆ และมีกลิ่นเหม็น
ก. แอปเปิ้ล
ข. ถั่วต่างๆ
ค. ขนมปัง
คำตอบที่ถูกคือ แอปเปิ้ล เพราะในแอปเปิ้ลมีน้ำตาลซอร์บิโทล (Sorbitol) ที่สร้างแก๊สในกระเพาะอาหารและลำไส้ในปริมาณมาก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการผายลมบ่อยๆและมีกลิ่นเหม็น
7. เมื่อเราดื่มแอลกอฮอล์มากๆ จะทำให้มีกลิ่นตัวได้
ก. ถูก
ข. ผิด
คำตอบที่ถูกคือ ก. ถูก เพราะเมื่อเราดื่มเหล้า เบียร์ หรือไวน์ต่างๆ ตับของเราจะเปลี่ยนแอลกอฮอล์ ให้เป็นกรด ซึ่งจะขับออกมาทางเหงื่อและทางลมหายใจ ดังนั้น เมื่อเราดื่มมากเท่าไหร่ลมหายใจก็จะมีกลิ่นแรง อีกทั้งจะมีกลิ่นเหม็นขับออกมาทางรูขุมขนอีกด้วย
8. มียากินรักษากลิ่นตัวเหม็นหรือไม่
ก. มี
ข. ไม่มี
คำตอบที่ถูกคือ ก. ไม่มียาที่รักษากลิ่นตัวให้หาย แต่เราสามารถป้องกันการเกิดกลิ่นตัวได้ด้วยการอาบน้ำชำระร่างกายเช้าและเย็นทุกๆ วัน โดยใช้สบู่ขจัดแบคทีเรีย ซึ่งมีอยู่มากมายหลายยี่ห้อ นอกจากนี้ควรใช้สารส้มหรือผลิตภัณฑ์ขจัดกลิ่นตัว เช่น โรลออนที่ช่วยหยุดยั้งการเติบโตของแบคทีเรียที่ทำให้กลิ่นตัวได้ชั่วคราว และถ้ารู้ว่าตัวเองเป็นคนมีกลิ่นตัวก็ควรสวมเสื้อผ้าจากเส้นใยธรรมชาติที่ระบายอากาศได้ดี เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน นอกจากนี้ การกินหัวหอม กระเทียม ยี่หร่าและอาหารเผ็ดร้อนก็ทำให้เกิดกลิ่นตัวได้ด้วย
การเป็นคนมีกลิ่นตัวจะทำให้เราเป็นที่รังเกียจของผู้อื่นจนกลายเป็นคนที่ขาดความมั่นใจในการเข้าสังคม ดังนั้นการรักษาสุขภาพและความสะอาดของร่างกายจึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่สุดเรื่องหนึ่งที่ทุกคนควรใส่ใจ
ข้อมูลบางส่วนอ้างอิงจาก
Webmd.com