โซเชียลมีเดียแชร์กระหน่ำ รบ. ตัดงบบัตรทองเหลือ 500 ล้านบาท โฆษก สปสช. แจงชัดไม่ใช่เรื่องจริง ชี้ บัตรทองรับงบประมาณเพิ่มขึ้น 5 พันล้านบาท ต่อรองสำนักงบฯ ได้เพิ่มอีก 500 ล้านบาท ไม่ได้ลดลง เพียงแต่ได้ไม่เท่าที่เสนอ ย้ำไม่กระทบสิทธิประโยชน์เดิม
จากกรณีมีการเผยแพร่อินโฟกราฟิกผ่านทางโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตัดงบบัตรทองจาก 13,000 ล้านบาท เหลือ 500 ล้านบาท ให้ประชาชนร่วมจ่าย เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี รัฐมีภาระรายจ่ายมาก จนจำเป็นต้องตัดงบ โดยมีการใส่รูป ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ โฆษกสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ด้วยนั้น
วันนี้ (22 ก.พ.) ทพ.อรรถพร กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า ภาพดังกล่าวไม่เคยเห็นมาก่อนและไม่ทราบว่ามาได้อย่างไร แต่ข้อมูลที่นำเสนอไม่ตรงกับข้อเท็จจริง โดยเฉพาะที่ระบุว่าตัดงบบัตรทองจาก 13,000 ล้านบาท เหลือ 500 ล้านบาท เนื่องจากงบเหมาจ่ายรายหัวในปี 2561 ที่เสนอไปในตอนแรกจำนวน 1.41 แสนล้านกว่าบาท แม้สำนักงบประมาณจะต่อรองให้เหลือเพียง 1.28 แสนล้านบาท หรือถูกปรับลดไปกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ได้เพิ่มจากปี 2560 ถึง 5 พันล้านบาท เพียงแต่ บอร์ด สปสช. เห็นว่า แม้งบประมาณจะเพิ่มขึ้นแต่ก็ไม่เพียงพอกับสิทธิประโยชน์ใหม่ๆ ที่จะดำเนินการเพิ่มในปี 2561 จึงต่อรองขอเพิ่มงบประมาณอีก ซึ่งสำนักงบประมาณก็เข้าใจ จึงปรับงบเพิ่มให้อีก 500 ล้านบาท เท่ากับว่า ได้รับงบบัตรทองเพิ่มขึ้นรวมกว่า 5.5 พันล้านบาท ไม่ได้ถูกปรับลดลงแต่อย่างใดหรือรับงบประมาณเพียง 500 ล้านบาทตามที่มีการเผยแพร่
ทพ.อรรถพร กล่าวว่า เรื่องงบบัตรทองที่เป็นกระแสสังคมอย่างมากในขณะนี้ เนื่องจากบัตรทองถือเป็นสวัสดิการภาครัฐที่ให้กับประชาชนในด้านการรักษาพยาบาล โดยครอบคลุมผู้มีสิทธิถึง 48 ล้านคนซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ ดังนั้น เมื่อมีข่าวกระทบความรู้สึกประชาชนจึงกลายเป็นประเด็นที่อ่อนไหว แม้ว่าข้อเท็จจริงจะไม่ได้เป็นไปตามข้อมูลที่นำเสนอ
“ขอย้ำว่า งบประมาณบัตรทอง รัฐบาลได้ปรับเพิ่มทุกปีและไม่ได้ลดลงเลย เพียงแต่บางปีอาจปรับเพิ่มมากบ้างน้อยบ้าง โดยเป็นไปตามภาระงบประมาณรัฐบาล สำหรับในปี 2561 การปรับเพิ่มงบประมาณอาจไม่ได้เพิ่มตามจำนวนตัวเลขที่ สปสช. นำเสนอขาขึ้น จึงทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนจนเป็นประเด็นอย่างที่ปรากฏ แต่ยืนยันว่า ไม่กระทบสิทธิประโยชน์การรับบริการ โดยสิทธิการรักษาต่างๆ ยังคงเดิม ไม่ได้มีการปรับลดแต่อย่างไร” โฆษก สปสช. กล่าว