เครือข่ายยุวทัศน์ร้อง ปลัด สธ. ยกเลิกคำสั่งย้าย “หมอสมาน” เชื่อมีใบสั่ง บ.น้ำเมาหนุนหลัง ชี้ หากย้ายเพราะถูกตรวจสอบขอให้เปิดเผยถูกสอบเรื่องอะไร เผยติดตามการทำงาน “หมอนิพนธ์” 3 เดือน สานต่อคุมเหล้าได้ผลหรือไม่
วันนี้ (20 ก.พ.) เครือข่ายยุวทัศน์ กรุงเทพมหานคร และเครือข่ายข่ายเยาวชนจำนวนหนึ่ง นำโดย นายเมธชนนท์ ประจวบลาภ รองเลขาธิการเครือข่ายยุวทัศน์ ในฐานะรักษาการแทนเลขาธิการเครือข่ายยุวทัศน์ เดินทางมายื่นหนังสือถึง นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อขอให้ทบทวนคำสั่งย้าย นพ.สมาน ฟูตระกูล จากผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไปเป็นผู้อำนวยการสำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยมี นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ ที่ปรึกษากระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ เป็นผู้รับหนังสือ
นายเมธชนนท์ กล่าวว่า นพ.สมาน นับเป็นคนที่มีความรู้ทางด้านกฎหมายเป็นอย่างดี ทำงานเชิงรุก จนทำให้ปัจจุบันสถานการณ์ร้านเหล้ารอบสถานศึกษาลดลงจำนวนมาก การโยกย้ายครั้งนี้ เชื่อว่า มีบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามามีบทบาท ส่วนกระแสว่าโดนย้าย เพราะถูกตรวจสอบภายใน ถ้าเป็นจริงต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบไปแล้ว หรือไม่อย่างนั้นก็ขอให้เปิดเผยออกมาว่ามีการสอบจริงหรือไม่ และถูกสอบเรื่องอะไร ส่วน นพ.นิพนธ์ ชินานนท์เวช ซึ่งจะมาทำหน้าที่ ผอ.สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แทนนั้น เครือข่ายฯ มองว่า ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่เน้นงานด้านวิชาการเกินไป ดังนั้น ขอให้ปลัด สธ. ทบทวนและยกเลิกคำสั่งทันที หากไม่ยกเลิกทางเครือข่ายฯ จะมีการติดตามและประเมินผลการทำงานหลังจากนี้ไปอีก 3 เดือน ว่า การทำงานเกี่ยวกับการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผลจะเป็นอย่างไรหลังจากที่ไม่มี นพ.สมาน แล้ว
ด้าน นพ.ยงยศ กล่าวว่า ยอมรับว่า นพ.สมาน เป็นคนที่มีส่วนอย่างมากที่ทำให้งานควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประสบผลสำเร็จ ทั้งงานเชิงรุกและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เชื่อว่า ตอนนี้มาตรการทางด้านกฎหมาย ด้านสังคม รวมถึงความร่วมมือจากเครือข่ายเยาวชนที่คอยดูเรื่องนี้อยู่จะทำให้ผู้ประกอบการต้องทำให้ถูกกฎหมาย อย่างไรก็ตาม นพ.นิพนธ์ ก็เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ เป็นคนที่มีประสบการณ์เรื่องนี้เยอะ และเป็นรุ่นพี่ของ นพ.สมาน ด้วย ประเด็นที่สังคมเป็นห่วง คือ การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ซึ่งอธิบดีกรมควบคุมโรค ปลัด สธ. ก็เข้มงวดเรื่องนี้ และเข้มงวดทุกเรื่อง ถ้าหาก นพ.นิพนธ์ ทำงานได้ไม่ดี ก็เป็นเรื่องที่ นพ.นิพนธ์ ต้องรับผิดชอบ
นพ.สมาน กล่าวว่า หลังจากเครือข่ายข่ายเยาวชนได้ยื่นหนังสือ ก็แวะเข้ามาพบตน ซึ่งตนก็ได้บอกไปว่าคำสั่งออกแล้วก็ต้องย้ายไปตามระบบราชการ แต่ก็ไม่ได้ไปไหน เพราะงานใหม่ที่ได้รับมอบหมายเกี่ยวกับโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ก็มีความสัมพันธ์กับงานควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่แล้ว ทุกอย่างล้วนมีเป้าหมายเพื่อช่วยคุ้มครองเยาวชน ซึ่งเมื่อได้พูดคุยกับทางเครือข่ายฯ ก็มีท่าทีดีขึ้น ทั้งนี้ ต้องขอบคุณทางเครือข่ายที่ช่วยเหลือในการทำงานที่ผ่านมา เพราะลำพังตนคนเดียวคงทำงานไม่ได้ และยืนยันว่า ยังจะทำงานเพื่อคุ้มครองเยาวชนต่อไป
นพ.นิพนธ์ กล่าวว่า การถูกโยกย้ายเป็นเรื่องปกติของข้าราชการ พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพราะคงไม่มีใครรู้ทุกเรื่อง ส่วนเรื่องกฎหมายแม้ว่าตนจะไม่เชี่ยวชาญมากนักก็จะพยายามศึกษาให้เต็มที่ แต่ในสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เอง ก็มีทีมกฎหมายดูแลอยู่แล้ว สำหรับการมารับตำแหน่งแทน นพ.สมาน ที่ทำงานมาเกือบ 10 ก็กังวลบ้าง แต่จะพยายามทำให้ดีที่สุด และสานต่อการทำงาน สิ่งสำคัญคือ จะเน้นการทำงานร่วมกับเครือข่ายต่างๆ หากเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา จะขอเข้าพบก็ยินดี เพราะต้องทำงานร่วมกันอยู่แล้ว และภายในสัปดาห์นี้ก็ได้รับแจ้งว่าจะมีการประชุมเครือข่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากไม่ติดงานตนก็จะไปเข้าร่วมประชุมด้วย อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ นพ.สมาน เคยลงสมัครคัดเลือกเป็นรองอธิบดีกรมควบคุมโรค หากได้ตำแหน่งในครั้งนั้นก็ต้องหาคนมาทำแทนอยู่ดี ดังนั้น จึงขอยืนยันว่า ไม่มีการแทรกแซงในการโยกย้ายตำแหน่งครั้งนี้แน่นอน
