สพฉ. แนะญาติ โทร.ประสาน รพ. สิทธิประกันสังคม หากผู้ป่วยหมดสติ ย้ำค่าใช้จ่าย รพ. ตามสิทธิรับผิดชอบ ย้ำหากเจ็บป่วยฉุกเฉิน โทร.สายด่วน 1669
จากกรณีโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งย่านศรีราชา จ.ชลบุรี เรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยที่เกิดอุบัติเหตุล้มหัวฟาดพื้นจนหมดสติประมาณ 40,000 บาท กับการรักษาเพียง 2 ชั่วโมง และไม่ประสานการส่งตัวไปโรงพยาบาลตามสิทธิประกันสังคม จนต้องมีการวางสร้อยคอทองคำเป็นหลักประกัน
วันนี้ (18 ก.พ.) นพ.ภูมินทร์ ศิลาพันธ์ รองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ อันดับแรก ตนขอแนะนำประชาชนก่อนว่า หากพบเห็นผู้ป่วยฉุกเฉินทุกกรณีให้ โทร.สายด่วน 1669 เพราะในระบบสายด่วนจะช่วยประเมินอาการเจ็บป่วยฉุกเฉินของผู้ป่วย และจัดรถพยาบาลที่เหมาะสมกับอาการเจ็บป่วย เพื่อรีบนำส่งไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด เครื่องมือพร้อมที่สุดให้ทำการรักษาอย่างทันท่วงทีได้ ส่วนผู้ป่วยรายดังกล่าวมีสิทธิประกันสังคม เมื่อส่งผู้ป่วยไปรักษายังโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ แต่ไม่ใช่โรงพยาบาลตามสิทธิ หากผู้ป่วยไม่รู้สติ ญาติสามารถแจ้งเรื่องไปยังโรงพยาบาลที่ผู้ป่วยขึ้นทะเบียนตามสิทธิ เพื่อให้โรงพยาบาลเจ้าของสิทธิส่งรถพยาบาลมารับไปทำการรักษาต่อ โดยค่าใช้จ่ายต่างๆ โรงพยาบาลตามสิทธิจะเข้ามาดูแลและอำนวยความสะดวกให้
นพ.ภูมินทร์ กล่าวว่า สำหรับ รพ. เอกชน ที่ถูกประชาชนร้องเรียนต้องรอการชี้แจงจากโรงพยาบาลว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นมีค่าใช้จ่ายในส่วนไหนบ้าง และราคาเหมาะสมหรือไม่ และหากประชาชนรู้สึกว่าไม่เป็นธรรม ก็มีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เข้ามาดูแล นอกจากนี้ พ.ร.บ. สถานพยาบาลฉบับปรับปรุงใหม่ ก็ระบุชัดเจนว่า ให้ รพ. เอกชน ต้องแสดงอัตราค่ารักษาพยาบาล ค่ายาและเวชภัณฑ์ ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าบริการอื่นๆ และสิทธิของผู้ป่วย ไว้อย่างชัดเจน จะเรียกเก็บเกินอัตราที่แสดงไม่ได้ และต้องให้บริการผู้ป่วยตามสิทธิที่ได้แสดงไว้ และต้องเยียวยาผู้ป่วยฉุกเฉิน ซึ่งอยู่ในสภาพอันตราย จำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลให้พ้นจากอันตรายก่อนส่งต่อไปสถานพยาบาลอื่นด้วย ซึ่งหากไม่ทำตามก็ถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ. ฉบับนี้
“ส่วนแนวทางในการดำเนินงานตามนโนบาย “เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่” หรือ ucep นั้น สพฉ.กำลังเร่งจัดทำตารางราคาและอัตราจ่าย (Fee Schedule) เพื่อเป็นราคาการบริการการแพทย์ฉุกเฉินที่โรงพยาบาลจะเรียกเก็บจากกองทุนสุขภาพ และวางระบบการดำเนินการเพื่อให้ทันใช้ก่อนสงกรานต์ตามนโยบายขิง รมว.สาธารณสุข” นพ.ภูมินทร์ กล่าว