“หมอสมาน” เดินหน้าสู้คดี “การตลาดน้ำเมาใส่หน้ากาก” ย้ำ “น้ำ - โซดา” ใช้โลโก้เดียวกับ “เบียร์” ส่อโฆษณาแฝง ห่วงคนสานต่อการทำงานต้องมีประสบการณ์
นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการตลาดของธุรกิจน้ำเมาในปี 2560 ที่จะเดินหน้าในรูปแบบ “การตลาดน้ำเมาใส่หน้ากาก” มากยิ่งขึ้น ว่า การตลาดน้ำเมาใส่หน้ากาก คือ การนำผลิตภัณฑ์ตัวอื่น เช่น น้ำ โซดา เป็นต้น มาจดแจ้งในโลโก้รูปแบบเดียวกับเครื่องดื่มแลกอฮอล์ เชื่อว่า มีเจตนาแฝงที่จะเป็นการทำการโฆษณาตลอดเวลาแบบไม่ต้องรับผิดชอบทางสังคม เด็กและเยาวชนสามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลา เพื่อให้เกิดภาพจำ ถามว่า เมื่อเห็นโลโก้ ทุกคนคิดถึงน้ำ คิดถึงโซดาหรือไม่ แน่นอนว่า จากความคุ้นชินต้องคิดถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยี่ห้อนั้นๆ อยู่แล้ว
“หากให้เหตุผลว่าต้องการผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัท เกิดความเป็นหนึ่งเดียวกัน ข้อนี้เห็นว่าที่ผ่านมาโลโก้ของแต่ละผลิตภัณฑ์ที่ต่างกันอยู่แล้ว ก็ยังทำให้นึกถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ แต่ก็ยังเปลี่ยนโลโก้มาให้เหมือนกับโลโก้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีก หากมีเจตนาบริสุทธิ์จะเปลี่ยนทำไม อีกทั้งบางยี่ห้อที่มักมีการนำเสนอความเป็นไทย ก็มีการจดแจ้งน้ำดื่มเป็นโลโก้เดียวกับเครื่องดื่มแอกอฮอล์ และมีการโฆษณาในจอทีวี แต่น้ำดื่มตัวดังกล่าวกลับไม่มีวางจำหน่ายในท้องตลาด แบบนี้เจตนาคืออะไร” นพ.สมาน กล่าว
นพ.สมาน กล่าวว่า การตลาดน้ำเมาแบบใส่หน้ากาก โดยการจดแจ้งโลโก้ผ่านผลิตภัณฑ์อื่นๆ เป็นการส่อถึงเจตนาไม่สุจริตของเจ้าของธุรกิจ ซึ่งจากการทำหนังสือถึงกรมทรัพย์สินทางปัญญา ก็ได้รับคำตอบว่า หากไม่เห็นด้วยให้ทำหนังสือฟ้องร้อง ตนจึงทำหนังสือฟ้องร้องในนาม ผอ.สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอกอฮอล์ ถึงศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งเรื่องนี้ต่อสู้กันมาหลายปี คดีก็ยังไม่เป็นที่สิ้นสุด ทั้งนี้ จากเทคนิคการโฆษณาดังกล่าว ทำให้รู้เจตนาของเจ้าของผลิตภัณฑ์ว่าต้องการเข้าถึงเป้าหมายตลอดเวลา แต่ปัจจุบันการเอาผิดยากมาก เพราะเมื่อเกิดการฟ้องร้อง ทนายมักนำเอาใบจดแจ้งมาอ้างต่อศาล ดังนั้น ทางแก้ปัญหาจึงต้องไม่อนุญาตให้มีการจดแจ้งผลิตภัณฑ์อื่นในรูปแบบเดียวกันกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนการ CSR นั้น กฎหมายไม่ได้ห้ามไม่ให้คนทำบุญ เจ้าของผลิตภัณฑ์สามารถทำบุญด้วยการให้เงินบริจาคหรือวิธีอื่นได้ แต่ต้องไม่สื่อไปในการทำโฆษณา
เมื่อถามถึงกรณีข่าวสั่งย้าย แม้กรมควบคุมโรค ยืนยันว่า ยังไม่มีการพิจารณาโยกย้ายในตอนนี้ นพ.สมาน กล่าวว่า ตนไม่ได้กังวลใจว่าจะย้ายไปที่ไหน ห่วงเรื่องของคดีความใหญ่ๆ ที่มีการฟ้องร้องกับบริษัทใหญ่ๆ หากมีการโยกย้ายกลางคัน อาจเป็นปัญหา เพราะคนที่มาทำงานตรงนี้ต้องอาศัยประสบการณ์ เช่น การตลาดน้ำเมาแบบใส่หน้ากาก การฟ้องร้องกลุ่มดารา นักแสดงที่ถ่ายรูปคู่กับผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เผยแพร่ทางโซเซียล และฟ้องร้องบริษัทเบียร์ในการเอาโลโก้เบียร์ไปใช้โฆษณาในทางที่ขัดกับ พ.ร.บ. ทั้งกิจกรรมลานเบียร์ อีเวนต์ต่างๆ