ภาค ปชช. ห่วงข่าวลือ “ธุรกิจน้ำเมา” แทรกแซงอำนาจรัฐ เตรียมสั่งเด้งฟ้าผ่า “หมอสมาน” ขวางทำมาค้าขาย ขัดเศรษฐกิจขยายตัว จ่อเข้าพบ รมว.สธ.- อธิบดี คร. ปกป้อง ขรก. คนทำงาน ไม่ให้ถูกรังแก
วันนี้ (11 ก.พ.) นายชูวิทย์ จันทรส เลขานุการเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ (ครปอ.) เปิดเผยว่า ทราบมาว่า มีการส่งต่อข้อความในกลุ่มไลน์ รวมถึงมีการพูดคุยกันชัดเจนในงานสัมมนาเครือข่ายผู้ประกอบการธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ว่า ในเร็วๆ นี้ จะมีคำสั่งฟ้าผ่า ย้าย นพ.สมาน ฟูตระกูล ผอ.สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ออกจากตำแหน่ง โดยงานนี้มีธุรกิจน้ำเมายักษ์ใหญ่ค่ายหนึ่งอยู่เบื้องหลังคำสั่งย้าย และอยู่เบื้องหลังในการจัดตั้งเครือข่ายผู้ประกอบการดังกล่าว เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการตอบโต้กับฝ่ายที่ต้องการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
“สาเหตุที่มีการสั่งย้าย เนื่องจากเขาระบุว่า นพ.สมาน ไม่เอื้อต่อการทำมาค้าขาย ขัดขวางการขยายตัวด้านเศรษฐกิจ ซึ่งจะมีคำสั่งย้ายแน่นอน อย่างไรก็ตาม เครือข่ายภาคประชาชนขอคัดค้านเรื่องนี้จนถึงที่สุด และในเร็วๆ นี้ จะเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องข้าราชการคนทำงาน ไม่ให้ถูกรังแก รวมถึงจะขอเข้าพบอธิบดีกรมควบคุมโรค และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อสอบถามถึงข้อเท็จจริงดังกล่าว เพราะหากธุรกิจน้ำเมาเข้ามามีอิทธิพลต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐที่ทำตามกฎหมาย แสดงว่าผู้ที่วางตนเหนือกฎหมายอยู่ในประเทศนี้ มีอยู่จริง ตามที่มีหลายฝ่ายกังขา ดังนั้น สธ. ต้องชี้แจงเรื่องนี้ให้ชัดเจน” นายชูวิทย์ กล่าว
นายชูวิทย์ กล่าวว่า ไม่ว่าข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร เราจะขอปกป้องคนทำงานเพื่อลดปัญหาสังคม ลดการบาดเจ็บล้มตาย อีกทั้งงานบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ มีคดีสำคัญอยู่ในชั้นศาล ถ้าเปลี่ยน ผอ. จะทำให้การต่อสู้คดีไม่เป็นผลดีต่อราชการและการปกป้องสังคม โดยเฉพาะคดีที่ธุรกิจน้ำเมาหลีกเลี่ยงกฎหมายควบคุมการโฆษณา ใช้โลโก้น้ำเมา ไปใช้กับน้ำดื่ม และเครื่องดื่มอื่นๆ เพื่อเป็นช่องทางในการโฆษณาแฝง จึงต้องการกำจัดนพ.สมาน ที่ต่อสู้เรื่องนี้อย่างจริงจัง และขอตั้งข้อสังเกตว่า ปัจจุบันกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีความใกล้ชิดกับภาครัฐอย่างมาก ตั้งแต่ระดับล่างจนถึงระดับบริหารประเทศ นี่คือ หนึ่งตัวอย่างที่เครือข่ายเป็นห่วงและกังวลมานาน หลังจากความแนบแน่นในสายสัมพันธ์มีมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่นับรวมการบังคับใช้กฎหมายที่แทบจะพบเห็นได้น้อยมาก ในพื้นที่ กทม. ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็มีข่าวผู้นำระดับสูงรับเงินที่ปรึกษาจากธุรกิจน้ำเมา ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้าเครือข่ายที่ทำงานภาคประชาสังคม จะมีการประชุมเพื่อหารือการเคลื่อนไหวในประเด็นนี้
ด้าน นพ.สมาน กล่าวว่า ตนเป็นข้าราชการ หากมีคำสั่งย้ายจริง ก็คงทำอะไรมากไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ตนห่วงเพียงงานที่ยังมีเรื่องต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 อีกมาก ทั้งผู้กระทำผิดในรูปแบบต่างๆ ลานเบียร์ที่เปิดตระเวนไปแต่ละจังหวัด หรือแม้แต่ดารานักแสดงฝ่าฝืนกฎหมาย แต่ถ้าอีก 1 - 2 ปี จะโดนย้ายก็ไม่กังวล ต้องขอบคุณภาคประชาสังคมที่จะต่อสู้และให้กำลังใจ