สวธ. จัดงานวันมวยไทย ระดม “ครูมวย - นักมวย” ทั่วประเทศเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าเสือ
วันนี้ (6 ก.พ.) ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในการเป็นประธานในพิธีบวงสรวงสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (สมเด็จพระเจ้าเสือ) เนื่องในโอกาสวันมวยไทย โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กระทรวงวัฒนธรรม และพันธมิตรมวยไทยจัดขึ้น ว่า จากการประกาศขึ้นทะเบียนมวยไทยเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมเมื่อปี 2553 และคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติประกาศให้วันที่ 6 ก.พ. ของทุกปี ซึ่งตรงกับวันเสด็จขึ้นครองราชย์ของสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 เป็นวันมวยไทย ทาง สวธ. จึงจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติเพื่อรำลึกถึงพระคุณของบูรพกษัตริยาธิราชเจ้า ที่ทรงเสียสละเลือดเนื้อ รักษาประเทศตลอดจนฟื้นฟูศิลปะการต่อสู้มวยไทย ให้เด็ก เยาวชน ทุกวัย ทุกระดับชั้น ตระหนักถึงคุณค่าและภาคภูมิใจในมวยไทยที่เป็นสมบัติของชาติที่บรรพบุรุษได้รักษาและสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน
พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า กิจกรรมวันมวยไทยปีนี้ มีการจัดพิธีไหว้ครูมวยไทย พิธีบูชาครูมวยไทย โดยการรำมวยบวงสรวงบูชาครู โดยนักมวยไทยทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังมีพิธีเปิดการแข่งขันยุทธลีลามวยไทย และการแข่งขันมวยไทย 8 พันธมิตร AEC 8 พันธมิตรนานาชาติ การแข่งขันมวยไทย แบบ “ONE ROUND KNOCK OUT” ซึ่งเป็นการชกแบบยกเดียวรู้ผล มีชกทั้งหมด 16 คู่ แบ่งเป็นชาย 14 คู่ หญิง 2 คู่ โดยมีนักมวยจากหลายประเทศเข้าร่วมแข่งขัน อาทิ นักมวยจากประเทศสิงคโปร์ อังกฤษ มาเลเซียอิตาลี สเปน อเมริกา ฝรั่งเศส กัมพูชา ลาว และ ไทย
พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า มวยไทยเป็นศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวที่มีมาแต่ช้านาน ซึ่งในอดีต แม่ทัพ นายกอง ส่วนใหญ่เป็นกษัตริย์ และ พระราชวงศ์ ทรงคุมทัพและฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้ โดยได้คิดค้นศาสตร์การต่อสู้ถ่ายทอดแก่ทหารในกองทัพดังปรากฏ “มวยไทยตำรับพระเจ้าเสือ” หรือสมเด็จพระสรรเพชรญ์ที่ 8 มีการถ่ายทอดกันมาจนถึงทุกวันนี้ มวยไทยนั้นเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรม ของเราผ่านรูปแบบการไหว้ครู ท่วงท่าลีลาการต่อสู้ และการใช้ร่างกายทุกส่วนเป็นอาวุธ มวยไทยเป็นสิ่งซึ่งคนทุกเพศ ทุกวัย สามารถเข้าถึงได้ ไม่ว่าจะเพื่อการต่อสู้ การป้องกันตัว การออกกำลังกาย หรือเพื่อประกอบอาชีพ จึงได้รับความนิยมและสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน และเป็นที่น่ายินดีที่ศิลปะการต่อสู้แบบมวยไทยได้รับความนิยมไปทั่วโลก
