สบส. เตือนอย่าใช้ “น้ำท่วม” ล้างเท้า เสี่ยงเจอเชื้อฉี่หนู แนะกำจัดขยะใส่ถุงมัดปากให้มิดชิด ป้องกันหนูมาเยือน
นพ.ประภาส จิตตาศิรินุวัตร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า ในช่วงหลังน้ำลด เป็นช่วงของการฟื้นฟูบ้านเรือนและชุมชนให้กลับสู่สภาวะปกติ รวมทั้งเป็นช่วงที่ต้องเฝ้าระวังโรคที่จะเกิดขึ้นในช่วงหลังน้ำลด ที่สำคัญ คือ โรคฉี่หนู ซึ่งขณะนี้มีรายงานพบผู้ป่วยและเสียชีวิต 1 ราย ที่ จ.กระบี่ สบส. จึงขอความร่วมมือให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เร่งให้ความรู้ประชาชนทุกหลังคาเรือน ในการปฏิบัติตัวป้องกันโรคและให้รู้จักสัญญาณอาการเฉพาะของโรคฉี่หนู คือ มีไข้สูงแบบทันทีทันใด ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อหลัง น่อง ต้นคอ มีอาการไอ คลื่นไส้อาเจียน ตาแดง หากมีอาการที่กล่าวมา ขอให้นึกถึงโรคนี้และรีบแจ้ง อสม. หรือไปพบเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่อยู่ใกล้ เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง โรคนี้มียารักษาหายขาด แต่อาจมีการติดเชื้อซ้ำอีกได้ หากประชาชนปฏิบัติตัวป้องกันโรคไม่ดีพอ
“โรคนี้เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ส่วนใหญ่มาจากหนูทุกชนิด ในช่วงน้ำท่วมใหญ่ หนูจะหนีน้ำมาหาที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหารตามบ้านเรือน กองขยะ โดยเชื้อจะแพร่กระจายผ่านฉี่ของหนูสู่แหล่งน้ำ โดยเฉพาะน้ำที่ขังเป็นแอ่งๆ พื้นดินโคลนแฉะๆ และจะเข้าสู่ร่างกายที่พบมาก คือ เข้าทางบาดแผล รอยขีดข่วนที่ผิวหนัง รวมทั้งผิวหนังที่แช่น้ำเป็นเวลานานด้วย และจากอาหาร/น้ำดื่มที่มีเชื้อปนเปื้อน ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อจึงขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการวักน้ำจากแอ่งน้ำท่วมขังมาล้างขา ล้างเท้า เนื่องจากในแหล่งน้ำประเภทนี้อาจมีเชื้อโรคฉี่หนูปนเปื้อน ขอให้ใช้น้ำสะอาดชำระล้างแทน เช่น น้ำประปา หรือน้ำที่ผ่านการปรับสภาพและฆ่าเชื้อจากคลอรีนแล้ว หากจำเป็นต้องเดินลุยน้ำย่ำโคลน ขอให้สวมรองเท้าบูต เพื่อป้องกันการเกิดบาดแผล และป้องกันไม่ให้บาดแผลหรือรอยขีดข่วนที่มีอยู่แล้วสัมผัสกับน้ำท่วมขัง และระมัดระวังอย่าให้มีน้ำขังในรองเท้าบูทที่ใส่ เพราะหากเท้าแช่น้ำเป็นเวลานานจะทำให้ผิวหนังอ่อนนุ่ม เชื้อโรคฉี่หนูสามารถไชเข้าได้เช่นกัน” นพ.ประภาส กล่าว
นพ.ประภาส กล่าวว่า สำหรับการป้องกันโรคฉี่หนูทางอาหารและน้ำดื่ม ขอให้ประชาชนดื่มน้ำต้มสุก น้ำดื่มบรรจุขวด ดูแลปกปิดอาหารที่ปรุงแล้วให้มิดชิด เพื่อป้องกันหนูเข้าไปกินอาหาร และรับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ๆ หากเป็นอาหารค้างมื้อให้นำไปอุ่นด้วยความร้อนให้เดือดก่อน ประการสำคัญ ขอให้เก็บกวาดขยะทั้งในและนอกบ้านเรือน โดยเฉพาะขยะประเภทเศษอาหาร ขอให้ใส่ถุง มัดปากถุงให้มิดชิดหรือใส่ในถังขยะที่มีฝาปิด เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งอาหารของหนู