ปลัด สธ. เผย ยังไม่พบโรคระบาด กรณีน้ำจากบ่อจากขยะนครศรีธรรมราชลงพื้นที่สาธารณะ พร้อมมอบ สสจ. ส่งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ตรวจสุขภาพประชาชน เฝ้าระวังอาการเจ็บป่วย คุณภาพอากาศและน้ำต่อเนื่อง พบคนป่วยภูมิแพ้มีอาการมากขึ้น
จากกรณีชาวบ้านตำบลนาเคียน และตำบลนาทราย อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับผลกระทบจากการปล่อยน้ำบ่อขยะเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ซึ่งมีปริมาณขยะสะสมกว่า 1.2 ล้านตัน ลงพื้นที่เกษตรกรรมและแหล่งน้ำสาธารณะ
วันนี้ (29 ม.ค.) นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ตนได้มอบหมายให้ นพ.บัญชา ค้าของ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) นครศรีธรรมราช ดำเนินการเฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดกับประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงบ่อขยะดังกล่าว โดยให้ได้ร่วมกับสำนักควบคุมป้องกันโรค (สคร.) เขต 11 นครศรีธรรมราช สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมือง เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) บ้านทุ่งโหนด และอาสาสมัครสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ลงพื้นที่สอบสวนโรคพร้อมให้บริการตรวจรักษาประชาชน ที่บ้านหัวทะเล ต.นาเคียน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
“ผลการดำเนินงานเบื้องต้น มีดังนี้ 1. จากการสอบถามได้ข้อมูลว่าประชาชนใน ต.นาเคียน ต.นาทราย ค่ายวชิราวุธ และหมู่บ้านจัดสรรในละแวกถนนอ้อมค่าย ได้รับความเดือดร้อนจากกลิ่นเหม็นขยะแห่งนี้เป็นระยะเวลานับสิบปี และหลังจากประสบอุทกภัยในครั้งนี้ พบว่า ขยะส่งกลิ่นเน่าเหม็นมากขึ้น 2. ข้อมูลการเฝ้าระวังสอบสวนโรคของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ร่วมกับสำนักควบคุมป้องกันโรค เขต 11 ยังไม่พบโรคระบาด หรืออาการเจ็บป่วยจากสารพิษ หรือเชื้อโรคใดที่ผิดปกติ 3. จากการให้บริการของหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พบว่า มีประชาชนจำนวนหนึ่งเป็นโรคภูมิแพ้มาก่อน พร้อมยืนยันว่า มีอาการคัน หอบ และเป็นภูมิแพ้มากขึ้น ทั้งนี้ ได้ส่งทีมออกค้นหาผู้ป่วยโรคผิวหนัง โรคหอบหืด ให้การตรวจรักษาและให้คำแนะนำการสวมหน้ากากอนามัย สวมรองเท้ากันเชื้อโรคเข้าร่างกาย” ปลัด สธ. กล่าว
ทั้งนี้ ปัญหาสำคัญของประชาชนส่วนใหญ่ คือ ความหวาดวิตกว่าจะเกิดอันตรายต่อสุขภาพจากกลิ่นขยะและน้ำเสียที่ไหลผ่านขยะมา ได้กำชับให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช กำหนดแผนและมาตรการเฝ้าระวังอาการเจ็บป่วยประชาชนในบริเวณใกล้เคียงบ่อขยะ ให้สำนักควบคุมป้องกันโรค เขต 11 และศูนย์อนามัยเขต11 เฝ้าระวังคุณภาพอากาศและน้ำต่อเนื่อง พร้อมแจ้งเตือนประชาชนเพื่อความปลอดภัยต่อไป