แพทย์จบใหม่บรรจุ รพ.รัฐ ไม่ได้เงินเดือนเลยถึง 9 เดือน ค่าตอบแทนพีฟอร์พีได้บ้าง ไม่ได้บ้าง สพศท. เผย ปัญหาตกเบิกปี 2559 นานกว่าปกติ จากเดิมที่รอเพียง 2 - 3 เดือน หวั่นสร้างภาพลักษณ์ไม่ดี ดึงแพทย์ไว้ รพ. ไม่ได้ ไหลไป รพ.เอกชน ด้านปลัด สธ. รับมีปัญหาเรื่องประสานข้อมูลกับ ก.พ. จนล่าช้า
แหล่งข่าวในโรงพยาบาลขนาดใหญ่สังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า แพทย์จบใหม่ที่มาใช้ทุนตามโรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อ พ.ค. 2559 ขณะนี้ยังไม่ได้รับเงินเดือนเลย ที่ได้รับจะมีเพียงแค่ค่าเวร และค่าตอบแทนตามภาระงาน (พีฟอร์พี) เท่านั้น ซึ่งค่าตอบแทนพีฟอร์พีนั้น ก็มีแค่บางวอร์ดที่เบิกได้ บางวอร์ดก็ไม่มี ซึ่งรวมแล้วก็เป็นเวลากว่า 9 เดือน ที่ไม่ได้รับเงินเดือนเลย
ด้าน นพ.ประดิษฐ์ ไชยบุตร ประธานสมาพันธ์โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป (สพศท.) กล่าวว่า ขณะนี้พบปัญหาว่า แพทย์จบใหม่ในโรงพยาบาลรัฐสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ที่บรรจุตั้งแต่ พ.ค. 2559 จนถึง ธ.ค. 2559 ยังไม่ได้รับเงินเดือนเลย ยังรอตกเบิกอยู่ ทราบว่า บางแห่งเริ่มมีการทยอยตกเบิกตั้งแต่ปีใหม่ 2560 เป็นต้นมา ส่วนใหญ่น่าจะได้รับเงินเดือนตกเบิกราวๆ ก.พ. ทั้งนี้ เงินเดือนของแพทย์จบใหม่และบุคลากรสาขาอื่นๆ ที่บรรจุเป็นข้าราชการจะขึ้นอยู่กับขั้นตอนการบรรจุ ซึ่งต้องมีเลขตำแหน่งที่จะบรรจุ ซึ่งปีนี้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ส่งเลขตำแหน่งไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ในเดือน ธ.ค. 2559 ทำให้แพทย์จบใหม่ยังไม่ได้บรรจุและไม่ได้รับเงินเดือนนาน 8 - 9 เดือน ซึ่งที่ผ่านมาๆ มา ไม่เคยนานขนาดนี้ จะรอประมาณ 2 - 3 เดือนก็ตกเบิกแล้ว สธ. คงมีปัญหาในการบริหารตำแหน่งข้าราชการในปี 2559 แต่ยังไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริง และไม่แน่ใจเรื่องว่าระหว่างผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบรรจุข้าราชการใน สธ. ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร สธ. ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) และกระทรวงการคลัง มีการประสานกันดีหรือไม่ แต่ที่ผ่านมา เรามีการพูดคุยกันและสะท้อนกันในแวดวงสาธารณสุขมาตลอด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลปัญหาและผลกระทบเพื่อเสนอต่อผู้บริหาร สธ. ได้รับทราบต่อไป
“เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ น้องๆ จบใหม่ รับราชการนอกจากภาระงานที่หนักแล้ว เงินเดือนก็ไม่ออกหลายเดือน แถมค่าตอบแทนพีฟอร์พีในหลายๆ โรงพยาบาลก็ค้างจ่าย เป็นภาพที่ไม่ค่อยดี ซึ่งเมื่อความประทับใจแรกไม่ดี จะทำให้คนรักองค์กร รักระบบราชการได้อย่างไร ยิ่งตอนนี้โรงพยาบาลเอกชนกำลังบูมมาก มีกำไร ให้ค่าตอบแทนสูง มีการขยายโรงพยาบาลออกไปในแทบทุกจังหวัด ขณะที่โรงพยาบาลของรัฐมีแต่ขาดทุน ทำงานลำบาก ค่าตอบแทนน้อยแล้วยังค้างจ่ายอีก ถ้าคนของเราอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ แล้วมีแรงดึงจากภาคเอกชนที่มีค่าตอบแทนสูง ภาระงานไม่หนักมากก็น่าเป็นห่วงเรื่องการไม่สามารถดึงคนให้อยู่ในระบบได้ ซึ่งที่ผ่านมา เราคุยกันอยู่เสมอว่าบุคลากรเป็นทรัพยากรที่สำคัญเราต้องดูแลคุณภาพชีวิตของเขาด้วย ซึ่งที่ผ่านมา คิดว่ายังดูแลเขาน้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าตอบแทน ภาระงาน เรื่องการฟ้องร้องต่างๆ เราคิดว่ายังได้รับการดูแลน้อยอยู่” นพ.ประดิษฐ์ กล่าว
ด้าน นพ.โสภณ เมฆธน ปลัด สธ. กล่าวว่า วิชาชีพแพทย์ ทันตแพทย์ และเภสัชกร เป็น 3 สาขา ที่ สธ.จะขอตำแหน่งไปที่ ก.พ. ทุกปี ซึ่งจะมีคณะกรรมการดูแล แต่ปีนี้มีปัญหา คือ ก.พ. บอกว่า สธ. ให้ข้อมูลไม่ครบและไม่ใช่ตำแหน่งของ สธ. ซึ่งกว่าจะส่งข้อมูลกลับมา สธ. ก็เดือน พ.ย. สธ. จึงต้องเอามาเข้าคณะอนุกรรมการสามัญประจำกระทรวงสาธารณสุข (อ.ก.พ.สธ.) พิจารณา ซึ่งแล้วเสร็จเมื่อต้นเดือน ธ.ค. แล้วก็ต้องมาทำเรื่องตกเบิกภายหลัง จึงทำให้มีปัญหาว่าข้าราชการใหม่ไม่ได้รับเงินเดือนมา 8 - 9 เดือน ซึ่งการแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างยั่งยืนต้องแก้กันทั้งระบบ และเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ สธ. เพียงฝ่ายเดียว ซึ่ง สธ. พยายามขอตำแหน่งไปแล้ว แต่ส่วนอื่นๆ ต้องช่วยเหลือด้วย เพราะหากมีความล่าช้าก็จะกระทบกับคนทำงานและขวัญกำลังใจ อาจทำให้รักษาคนในระบบไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ในเรื่องค่าใช้จ่ายส่วนตัวของข้าราชการบรรจุใหม่ โรงพยาบาลมีเงินให้บุคลากรยืมโดยไม่เสียดอกเบี้ยอยู่แล้ว