สบส. สั่งตรวจสอบ “คลินิกศัลยกรรมความงาม” ย่านลาดพร้าว หลังมีกรณีร้องเรียนทำลูกค้าหน้าเบี้ยว หลับตาไม่ได้ เร่งให้เสร็จใน 1 สัปดาห์ หากตกเกณฑ์มาตรฐานดำเนินการตามกฎหมายทันที
วันนี้ (24 ม.ค.) นพ.วิศิษฎ์ ตั้งนภากร อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีชายหนุ่มร้องเรียนเรื่องผลกระทบจากการทำศัลยกรรมกับคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว ทำให้ไม่สามารถหลับตาได้สนิท และใบหน้าบิดเบี้ยว ซึ่งยังมีลูกค้าอีกหลายรายร้องเรียนเช่นกัน ว่า ตนได้สั่งการให้สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ และกองกฎหมายของ สบส. เข้าตรวจสอบคลินิกเสริมความงามดังกล่าวแล้ว เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ และให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย โดยเร่งให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ โดยจะตรวจสอบมาตรฐานซึ่งต้องมีครบถ้วน 5 ด้าน ตามที่กฎหมายกำหนด ได้แก่ 1. สถานที่ต้องสะอาด มีห้องตรวจ หรือห้องให้การรักษาเป็นสัดส่วน มิดชิด ปลอดภัยต่อผู้รับบริการ
2. แพทย์ผู้ให้บริการ มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่ออกโดยแพทยสภา และต้องประจำอยู่ที่คลินิกตลอดเวลาทำการ 3. การบริการต้องได้คุณภาพมาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด 4. เครื่องมือ ยา และเวชภัณฑ์ที่ใช้ในคลินิก ต้องขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และ 5. ด้านความปลอดภัย คลินิกต้องจัดเตรียมอุปกรณ์ปฐมพยาบาล และช่วยชีวิตเบื้องต้นกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน หากพบว่าตกมาตรฐานด้านใดด้านหนึ่งจะดำเนินการตามกฎหมายโดยทันที และในส่วนของแพทย์ผู้ให้บริการจะส่งเรื่องให้แพทยสภาพิจารณามาตรฐานการประกอบวิชาชีพเวชกรรม ต่อไป
ด้าน ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กล่าวว่า ขอเน้นย้ำให้แพทย์ และสถานพยาบาลทุกแห่งปฏิบัติตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 และที่แก้ไขเพิ่มเติม อย่างเคร่งครัด ดูแลสถานที่ แพทย์ เครื่องมือ และเวชภัณฑ์ต้องได้มาตรฐาน ปลอดภัย ส่วนประชาชนสามารถสังเกตมาตรฐานสถานพยาบาลจากหลักฐานดังนี้ 1. มีป้ายชื่อสถานพยาบาลและเลขที่ใบอนุญาต 13 หลัก ติดอยู่ที่หน้าสถานพยาบาล 2. มีใบอนุญาตประกอบกิจการ และดำเนินการสถานพยาบาลที่ออกโดย กรม สบส. 3. มีป้ายชื่อ สกุล รูปถ่ายของแพทย์ที่ตรวจรักษา โดยรูปต้องตรงกับตัวจริงที่ให้บริการขณะนั้น 4. มีหลักฐานการชำระค่าธรรมเนียมประจำปีปัจจุบัน และ 5. แสดงอัตราค่ารักษา สอบถามราคาได้ หากมีหลักฐานไม่ครบถ้วนตามที่กล่าวมาแสดงว่าไม่ได้มาตรฐาน ไม่ควรใช้บริการ และขอให้แจ้งที่เฟชบุ๊กมือปราบสถานพยาบาลเถื่อน, เฟซบุ๊กสารวัตรสถานพยาบาลออนไลน์ หรือ โทร.สายด่วน กรม สบส. 0-2193-7999