xs
xsm
sm
md
lg

เอาผิด “หนุ่มเช็ก” จงใจแพร่เชื้อ “เอชไอวี” ต้องดูเจตนา แนะคนเคยมีเซ็กซ์ด้วยตรวจการติดเชื้อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

แฟ้มภาพ
กรมควบคุมโรค เผย “ชายชาวเช็ก” จงใจแพร่เชื้อ “เอชไอวี” ไม่เข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.โรคติดต่อ คาด เอาผิดทางอาญาได้ต้องดูที่เจตนา แนะคนเคยมีเซ็กซ์กับผู้ก่อเหตุตรวจเลือดหาการติดเชื้อ หากติดเชื้อรับยาต้านไวรัสฟรี ย้ำ มีเซ็กซ์ทุกครั้งต้องป้องกัน ด้านเอ็นจีโอชี้ไม่ควรตามหาใครเคยมีเซ็กซ์กับผู้ก่อเหตุ ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

จากกรณีตำรวจทำการจับกุม นายเซเดนิก ไฟยเฟอร์ อายุ 50 ปี สัญชาติเช็ก ในฐานะเป็นอาชญากรข้ามชาติ ก่อคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็ก โดยมีข้อมูลว่า นายไฟยเฟอร์ มีพฤติการณ์แพร่เชื้อเอชไอวีให้กับผู้ชายและหญิงไทย

วันนี้ (18 ม.ค.) นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า เบื้องต้นทราบว่า เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวได้แล้ว ส่วนพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจแพร่เชื้อเอชไอวีแก่ผู้อื่น ต้องรอการตรวจสอบอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เชื้อเอชไอวีไม่ได้ติดต่อกันง่ายๆ สามารถติดต่อได้แค่ 3 ช่องทางหลัก คือ การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน และการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูก
นพ.สุเมธ องค์วรรณดี
นพ.สุเมธ องค์วรรณดี ผู้อำนวยการโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คร. กล่าวว่า สำหรับคนที่เคยมีเพศสัมพันธ์กับชายคนดังกล่าว หากเพิ่งมีเพศสัมพันธ์ภายใน 1 - 2 วันนี้ สามารถไปพบแพทย์เพื่อแจ้งการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งแพทย์จะจ่ายยาเพร็พ (Prep) ให้กิน ซึ่งยานี้จะต้องกินภายใน 24 - 48 ชั่วโมง ภายหลังจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย กินต่อเนื่อง 28 วัน จากนั้นจึงควรตรวจเลือดว่ามีเชื้อหรือไม่ หากไม่มีก็สามารถหยุดกินยาได้ ซึ่งยาตัวนี้เป้นยาตัวเดียวกับที่เวลาบุคลากรทางการแพทย์เกิดอุบัติเหตุถูกเข็มตำ หรือกรณีถูกข่มขืน ซึ่งจะได้รับยานี้เพื่อป้องกันการติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม ชายคนนี้อยู่ในประเทศไทยมานานแล้ว หากทราบว่าเคยมีเพศสัมพันธ์กับชายคนดังกล่าว หรือแม้แต่คนทั่วไป หากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย ไม่ได้ป้องกัน ก็ขอให้ไปทำการตรวจหาการติดเชื้อ ซึ่งทุกคนมีสิทธิตรวจฟรีปีละ 2 ครั้งที่โรงพยาบาลรัฐทุกแห่ง ซึ่งสามารถทราบผลได้ในวันเดียว และหากมีการติดเชื้อก็จะได้รับยาต้านไวรัสฟรีตามสิทธิ

ผู้สื่อข่าวถามว่า การจงใจแพร่เชื้อเอชไอวีสู่ผู้อื่น ถือเป็นความผิดทางกฎหมายหรือไม่ นพ.สุเมธ กล่าวว่า ตนไม่ทราบรายละเอียดทางกฎหมายที่แน่ชัด แต่เบื้องต้นทราบว่าในทางกฎหมายไม่มีการเขียนไว้อย่างชัดเจนว่า การจงใจแพร่เชื้อเป็นความผิด แต่หากมีการฟ้องร้องก็น่าจะเป็นคดีอาญา การพิจารณาน่าจะดูจากเจตนาว่ามีความจงใจหรือไม่

อยากย้ำว่า การมีเพศสัมพันธ์ไม่ว่ากับบุคคลใดก็ตาม ขอให้มีการป้องกัน อันดับแรกคือ การใช้ถุงยางอนามัย นอกจากนี้ ยังมียาเพร็พ (PreP) ที่สามารถรับประทานต่อเนื่องเป็นเวลา 7 วันก่อนการมีเพศสัมพันธ์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อได้ ซึ่งประสิทธิภาพสูงกว่า 90% ส่วนหากเกิดเหตุฉุกเฉินก็สามารถใช้ยาเพร็พได้ ทั้งนี้ การติดเชื้อเอชไอวีไม่ได้น่ากลัวเหมือนในอดีต เพราะมียาต้านไวรัสที่ช่วยให้ผู้ติดเชื้อสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ซึ่งจากการศึกษาของต่างประเทศ พบว่า ผู้ติดเชื้อสามารถมีอายุขัยได้ใกล้เคียงกับคนปกติ และปัจจุบันก็มีการพัฒนายาต้านไวรัสใหม่ๆ เพื่อลดผลข้างเคียงจากการใช้ยาลง รวมถึงการวิจัยยาต้านไวรัสชนิดฉีดเพื่อไม่ต้องกินยาทุกวัน” นพ.สุเมธ กล่าว

นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยา กล่าวว่า พ.ร.บ. โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ไม่ครอบคลุมเอาผิดผู้ติดเชื้อรายนี้ เพราะจะครอบคลุมในเรื่องของโรคติดต่อเฉียบพลัน อย่างกรณีโรคเมอร์ส หรือโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หากผู้ป่วยจงใจแพร่เชื้อให้แพทย์ แบบนี้เอาผิดได้ แต่กรณีผู้แพร่เชื้อเอชไอวี ไม่เคยมีมาก่อน

นายนิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิการเข้าถึงเอดส์ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นไม่อยากให้มองภาพผู้ติดเชื้อเอชไอวีในแง่ร้าย เพราะการจงใจมาแพร่เชื้อเช่นนี้ เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ส่วนการติดเชื้อเอชไอวีในปัจจุบันกว่า 90% มาจากการติดเชื้อโดยที่ไม่รู้ตัว คือ ไม่ทราบว่าตัวเองติดเชื้อแล้วไปมีเพศสัมพันธ์ ทำให้เกิดการติดเชื้อไปสู่ผู้อื่น ดังนั้น จึงอยากย้ำว่าการมีเพศสัมพันธ์ไม่ว่ากับใครก็ตามควรมีการป้องกันทุกครั้ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีผู้ร้องเรียนเข้ามายังเครือข่ายหรือไม่ ว่า เกิดการติดเชื้อจากชายคนนี้ และควรลงไปตรวจสอบหรือไม่ว่ามีใครที่ติดเชื้อเอชไอวีจากชายคนนี้บ้าง นายนิมิตร์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีใครมาร้องเรียนเรื่องการติดเชื้อ ส่วนการจะลงไปสอบสวนโรค หรือตรวจสอบว่าใครติดเชื้อจากชายคนนี้บ้างนั้น เป็นเรื่องยากและไม่ควรทำ อันดับแรก คือ เป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัว และไม่สามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่าเชื้อที่ติดนั้น ติดมาจากผู้ใด แต่หากมั่นใจว่ามีเพศสัมพันธ์กับชายคนดังกล่าว แนะนำว่า ควรไปตรวจหาการติดเชื้อ และหากพบการติดเชื้อก็สามารถรับยาต้านไวรัสได้ฟรี
กำลังโหลดความคิดเห็น