จากเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ของประเทศไทย ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมากมายต่ออาคาร บ้านเรือน และทรัพย์สิน สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัย จนต้องอพยพออกจากพื้นที่ไปอาศัยอยู่ตามพื้นที่สาธารณะหรือพื้นที่ในความช่วยเหลือ โดยส่วนใหญ่ใช้เต็นท์ผ้าใบเป็นที่อยู่อาศัยชั่วคราว จนกว่าจะได้รับการช่วยเหลือและซ่อมแซมที่อยู่อาศัยถาวรให้แล้วเสร็จ
ทั้งนี้ แม้เต็นท์ผ้าใบจะสะดวกในการขนส่ง ติดตั้ง แต่วัสดุผ้าใบมีความแข็งแรงไม่เพียงพอ มีปัญหาในเรื่องความร้อน และการอยู่ร่วมกันเป็นจำนวนมาก เกิดผลกระทบต่อการดำรงชีวิตและการทำกิจกรรมของครอบครัว ขาดความเป็นส่วนตัวและก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขอนามัยตามมา แม้ประเทศไทยจะมีการพัฒนาที่พักอาศัยชั่วคราว แต่ยังไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร ซึ่งภัยพิบัติทางธรรมชาติไม่มีใครสามารถคาดเดาได้อย่างแม่นยำ ดังนั้น การเตรียมความพร้อมเรื่องที่พักอาศัยเพื่อรองรับและบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชนในอนาคตจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ล่าสุด มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี มีการออกแบบที่พักอาศัย แนวคิด “นวัตกรรมที่พักอาศัยฉุกเฉินสำเร็จรูปถอดประกอบได้” ไอเดียและฝีมือการออกแบบโดย ผศ.ดร.วชิระ แสงรัศมี อาจารย์คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ และ นายประชุม คำพุฒ อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ มทร.ธัญบุรี
โดย ผศ.ดร.วชิระ เล่าว่า แนวคิดและแรงบันดาลใจในการออกแบบที่พักฉุกเฉินนี้ มาจากบ้านท่อนซุงในอดีตที่นำท่อนไม้มาประกอบเป็นที่พัก โดยเลือกใช้ท่อพีวีซี (PCV) ที่มีรูกลวงตรงกลาง มาทำเป็นแผ่นผนัง (ท่อนไม้เทียม) เพราะจากผลการศึกษาพบว่า คุณสมบัติของท่อพีวีซีสามารถใช้ประกอบเป็นแผ่นผนังที่มีน้ำหนักเบากว่าผนังอิฐมอญถึง 5 เท่าและมีค่าการต้านทานความร้อนสูงกว่า ค่าการรับแรงอัดเทียบเท่าอิฐมอญ รวมถึงมีน้ำหนักเบา ขนส่งและติดตั้งได้สะดวก เป็นวัสดุสามารถรีไซเคิลได้ จึงเลือกใช้ประโยชน์จากท่อพีวีซีมาประกอบเป็นแผ่นผนังสำเร็จรูป
“รูปแบบและพื้นที่ใช้สอยของที่พักฉุกเฉินถอดประกอบได้นี้ ใช้ระบบประสานทางพิกัดหรือระบบโมดูลาร์ (Modular Coordination) ในการออกแบบเพื่อให้ง่ายต่อการขยายพื้นที่ การผลิต - ประกอบ และรื้อถอน โครงสร้างชิ้นส่วนสำเร็จรูปต่าง ๆ ถูกยึดกันด้วยน๊อต โดยมีชุดชิ้นส่วนสำเร็จรูปหลัก คือ ชุดชิ้นส่วนด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง ชุดชิ้นส่วนพื้น ชุดชิ้นส่วนฝ้าเพดาน ชุดชิ้นส่วนหลังคา และชุดชิ้นส่วนผนังสำเร็จรูปจากท่อพีวีซี ที่พักฉุกเฉินสำเร็จรูปนี้สามารถเพิ่มขยายตามจำนวนผู้พักอาศัยและปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้สอยและดัดแปลงได้หลากหลาย เช่น ใช้เป็นที่พักอาศัยหลับนอน ใช้เป็นห้องน้ำส้วม ใช้เป็นศูนย์สถานพยาบาลเคลื่อนที่ ใช้เป็นที่พักอาศัยชั่วคราวในพื้นที่น้ำท่วม (เพิ่มฐานด้วยถังน้ำมัน) หรือใช้เป็นสำนักงานชั่วคราวได้” ผศ.ดร.วชิระ กล่าว
ผศ.ดร.วชิระ กล่าวว่า เมื่อมีผู้ประสบภัยต้องการที่พักก็ทำการเลือกรูปแบบ เพื่อกำหนดขนาดของที่พักตามจำนวนตามสมาชิกและความจำเป็นในแต่ละครอบครัว และนำชุดชิ้นส่วนประกอบต่างๆ จากพื้นที่ส่วนกลาง (หน่วยงานบรรเทาสาธารณภัย) ที่ได้จัดเตรียมชิ้นส่วนต่างๆ ไว้ล่วงหน้า มาประกอบกันเพื่อพักอาศัยชั่วคราวในระยะเวลาหนึ่ง เมื่อบ้านของผู้ประสบภัยสร้างหรือซ่อมแซมเสร็จ ก็จะทำการรื้อถอดที่พักฉุกเฉิน แล้วนำไปเก็บในพื้นที่ส่วนกลางและซ่อมแซมก่อนนำไปใช้อีกครั้งหนึ่ง
ลวดลายและสีสันของผนังสามารถทาสีเพิ่มความสวยงามและสร้างบรรยากาศให้น่าอยู่ได้ แต่ครั้งนี้ผู้สร้างสรรค์ผลงานเลือกที่จะใช้สีลายไม้ เพื่อทำให้ผู้ประสบภัยรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย และกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม ที่พักฉุกเฉินสำเร็จรูปถอดประกอบได้ มีน้ำหนักประมาณ 750 กิโลกรัมต่อหลัง สามารถประกอบติดตั้ง และรื้อถอนได้ด้วยแรงงานคนเสร็จได้ภายในหนึ่งวัน ส่วนราคาค่าการสร้างอยู่ที่ 55,000 บาทต่อหลัง
ทั้งนี้ นวัตกรรมดังกล่าว ได้รับ The 4th Top Ten Innovation Awards จากมหาวิทยาลัย พร้อมด้วยรางวัล CDAST DESIGN AWARDS 2014 ระดับดี ผลงานสร้างสรรค์ดีเด่นคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทย และกำลังอยู่ในขั้นตอนการจดทะเบียนสิทธิบัตร