กสร. แนะนายจ้างตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ในบริษัท และสถานประกอบการ ช่วย “ลูกจ้าง” มีการออม มีวินัยการใช้จ่าย ป้องกันการกู้หนี้นอกระบบ เผย มีกองทุน 260 ล้านบาท ให้สถานประกอบการกู้ยืมเป็นทุนหมุนเวียนสหกรณ์
นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ใช้แรงงานจำนวนมากมีรายได้ไม่เพียงพอต่อรายจ่าย และกู้เงินนอกระบบ มีหนี้สินจนส่งผลกระทบต่อการงาน ขณะที่ผู้ประกอบการเองก็ประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงาน จากปัญหาดังกล่าว พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้กำชับให้ กสร. เร่งดำเนินการส่งเสริมให้ผู้ใช้แรงงานมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีรายได้ที่เพียงพอต่อรายจ่าย กสร. จึงได้น้อมนำแนวพระราชดำริเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ได้พระราชทานแก่ปวงชนชาวไทยนำมาเป็นหลักในการส่งเสริมให้สถานประกอบการจัดสวัสดิการด้านเศรษฐกิจให้กับผู้ใช้แรงงาน ผ่านโครงการส่งเสริมให้จัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบการ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้แรงงาน ในการสร้างเสริมวินัยในการใช้จ่าย รู้จักพอประมาณ ความมีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกันด้วยการออม ในกรณีที่มีความขัดสนเรื่องค่าใช้จ่ายลูกจ้างก็สามารถจะกู้ยืมเงินผ่านสหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบกิจการ โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์มาค้ำประกันและเสียดอกเบี้ยในอัตราถูก ซึ่งจะเป็นหนทางในการป้องกันปัญหาการกู้ยืมเงินนอกระบบของลูกจ้าง
นายสุเมธ กล่าวว่า กสร. มีกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงานวงเงิน 260 ล้านบาท ไว้ให้บริการแก่สหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบการกู้ยืมเพื่อเป็นทุนหมุนเวียนในอัตราดอกเบี้ยต่ำ นายจ้างเจ้าของสถานประกอบการที่สนใจสอบถามได้ที่ กองสวัสดิการแรงงาน กสร. หรือ โทร. สายด่วน 1546 อย่างไรก็ตาม หากนายจ้างให้ความสำคัญกับการจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบการแล้ว ลูกจ้างเองก็ต้องให้ความสำคัญและตั้งใจที่จะแก้ปัญหาหนี้สินของตนเอง พร้อมน้อมนำแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง ไปปฏิบัติใช้ในชีวิตประจำวันให้เกิดเป็นนิสัยจนสามารถปลดหนี้ และ มีชีวิตที่ดียิ่งขึ้นตามศาสตร์พระราชา