สธ. เฝ้าระวัง “โรคตาแดง” หลังน้ำลด แนะประชาชนดูแลรักษาความสะอาดร่างกาย ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หากป่วยเป็นโรคตาแดง ไม่ควรซื้อยามาหยอดเอง ควรรีบไปพบแพทย์ทันที ไม่ควรลงเล่นน้ำในสระหรือคลอง ป้องกันเชื้อโรคแพร่กระจาย
วันนี้ (15 ม.ค.) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และโฆษก สธ. ให้สัมภาษณ์ถึงการเฝ้าระวังโรคติดต่อในพื้นที่ประสบอุทกภัย ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการประชาชนในพื้นที่ประสบภัย ขณะนี้เริ่มพบผู้ป่วยโรคตาแดง ได้กำชับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เฝ้าระวังป้องกันโรคที่มากับน้ำท่วมด้วย โรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัส หรือเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในน้ำสกปรก ติดต่อกันง่ายจากการสัมผัสกับน้ำตา หรือติดจากการใช้สิ่งของเครื่องใช้ร่วมกัน เช่นผ้าขนหนู ผ้าเช็ดหน้า หลังติดเชื้อประมาณ 1 - 2 วัน จะมีอาการระคายเคืองตา ปวดตา น้ำตาไหล แสบตาเวลาถูกแสง มีขี้ตามากกว่าปกติ ผู้ที่เป็นโรคนี้ ขอให้ใช้กระดาษทิชชูเช็ดขี้ตา ซับน้ำตาแล้วทิ้งในถุงพลาสติก ไม่ควรใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดน้ำตา เนื่องจากจะทำให้เชื้อโรคสะสมอยู่ในผ้าเช็ดหน้า
ในการป้องกันโรคตาแดง ขอให้ล้างมือฟอกสบู่บ่อยๆ ไม่ควรขยี้ตา อย่าให้แมลงวันแมลงหวี่ตอมตา แยกของใช้ส่วนตัวเช่นผ้าห่ม ผ้าขนหนู ไม่ใช้รวมกับผู้อื่น และหากป่วยเป็นโรคตาแดง ไม่ควรซื้อยามาหยอด ควรไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่อยู่ใกล้ และปฏิบัติตามคำแนะนำ
“ขอความร่วมมือประชาชนที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขัง อย่าทิ้งขยะทุกชนิด หรือขับถ่ายของเสียลงน้ำท่วมขัง ให้ทิ้งขยะ สิ่งปฏิกูลลงในถุงพลาสติกและมัดปากถุงแล้วเก็บไว้ในที่ที่แห้ง นำไปกำจัดให้ถูกวิธี ซึ่งจะเป็นการป้องกันโรคตาแดงและโรคอื่น เช่นโรคอุจจาระร่วง ได้ด้วย ทั้งนี้ อย่าให้ลูกหลานลงเล่นน้ำท่วมขัง เนื่องจากในท่วมจะมีสิ่งสกปรกปนเปื้อนอยู่ในน้ำ เชื้อโรคมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น และหากน้ำท่วมกระเด็นเข้าตาหรือมีฝุ่นละอองเข้าตา ขอให้ใช้น้ำสะอาดเช่นน้ำดื่มบรรจุขวดล้างหน้าให้สะอาด” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว