xs
xsm
sm
md
lg

“เมื่อรัฐไทยสับสนทางนโยบาย ดันทุรังเอา world class destination อย่างกระบี่มาสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นายแพทย์ สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ

ความสับสนทางนโยบายประการสำคัญของรัฐไทย คือ การจะสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินบนพื้นที่จังหวัดกระบี่ ที่เป็น world class destination หรือเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ซึ่งสองอย่างนี้ขัดแย้งในตัวเองในระดับรากฐาน เป็นความมึนงงของนักวางยุทธศาสตร์ระดับนโยบายชาติที่ไร้ทิศทางแม้ในยุคที่ทหารผู้อ้างว่าตนคือนักยุทธศาสตร์ที่แม่นยำกำลังครองแผ่นดิน
เหตุผลที่ต้องเป็นกระบี่แท้จริงมีเหตุผลเดียว คือ ที่กระบี่มีโรงไฟฟ้าลิกไนต์เก่าอยู่ที่นั่นแล้ว มีที่ดินอยู่แล้ว มีพนักงานอยู่แล้ว มีฐานมวลชนอยู่ที่นั่นบ้างแล้ว จึงดันทุรังจะขอสร้างที่เดิมให้จงได้ ทั้งๆ ที่โรงไฟฟ้าเดิมกับโรงไฟฟ้าใหม่นั้นคนละเรื่องกัน
โรงไฟฟ้าลิกไนต์เดิม ขุดถ่านหินลิกไนต์จากเหมืองข้างโรงไฟฟ้ามาใช้เป็นเชื้อเพลิง กำลังผลิตเพียง 60 เมกะวัตต์ ผลกระทบต่อทางทะเลและการท่องเที่ยวจึงจำกัด แต่โรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ใหม่นี้ ขนาด 800 เมกะวัตต์ และต้องขนถ่านหินมาจากอินโดนีเซียมาขึ้นฝั่งที่บ้านคลองรั้ว เส้นทางขนถ่านหินต้องผ่านพื้นที่อนุรักษ์ พื้นที่การท่องเที่ยว พื้นที่ดำน้ำ แหล่งหญ้าทะเลที่หายาก แหล่งปะการังที่สวยงาม แหล่งทำประมงพื้นบ้านของชุมชน การขนถ่านหินยังต้องผ่านป่าชายเลนในพื้นที่ชุ่มน้ำ หรือ แรมซ่าไซต์ ที่สมบูรณ์
แม้ว่า กฟผ. และกระทรวงพลังงาน จะยืนยันว่า ผลกระทบมีน้อยและมีการแก้ไขป้องกันอย่างดี ยอมทำอุโมงค์ขนถ่านหินลอดป่าชายเลน ยอมติดตั้งเครื่องดักปรอท ยอมลดขนาดเรือขนถ่านหินให้สามารถเข้าถึงท่าเรือโดยไม่ต้องขุดร่องน้ำ แต่ทั้งหมดนี้ยังไม่สามารถตอบคำถามของคนกระบี่ ว่า ทำไมจึงต้องดันทุรังสร้างที่นี่ ซึ่งจะส่งผลต่อนิเวศวิทยา การท่องเที่ยว วิถีชีวิต สิ่งแวดล้อม และสุขภาพในทุกด้าน
เมื่อถกเถียงด้วยเหตุด้วยผลไม่ชนะ การใช้มวลชนจัดตั้งด้วยวิชามารจึงเป็นอีกไม้ตายสุดท้าย เอารายชื่อคนที่เคยไปร่วมเข้าประชุมกับ กฟผ. รายชื่อคนเคยไปดูงานกับ กฟผ. รายชื่อรับแจกของในโอกาสต่างๆ ของ กฟผ. รวมทั้งรายชื่อที่กำนันผู้ใหญ่บ้านหัวคะแนนไปหามาโดยที่ลูกบ้านไม่ได้รับข้อมูลที่เพียงพอ มาประกอบร่างเป็นผู้สนับสนุนโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ 15,000 รายชื่อ ซึ่งถ้าหากกระทรวงพลังงานยอมให้เปิดเผยชื่อตามที่ชาวบ้านฝ่ายคัดค้านขอตรวจสอบรายชื่อนั้น เชื่อว่า จะโกลาหลเพราะพบการแอบอ้างจน กฟผ.หมดความชอบธรรมและเสียคนอย่างแน่นอน
กระบี่ ภูเก็ต พังงา ตรัง สตูล รวมถึงระนอง คือ พื้นที่ที่มีศักยภาพที่ควรส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คนทั้งโลกต้องมาเยี่ยมเยือน เป็น world class destination ด้านการท่องเที่ยวการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนสามารถสร้างงานสร้างรายได้สร้างความสุขแก่คนท้องถิ่น ตั้งแต่เจ้าของโรงแรมหมื่นล้าน จนถึงคนขายส้มตำข้าวเหนียวไก่ทอดโรงไฟฟ้าถ่านหิน จึงไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่ต้องมาสร้างที่กระบี่ หากรัฐบาลยังไม่สำนึกในปัญหาโลกร้อนและมลพิษจากถ่านหินที่ทำลายชีวิตและสิ่งแวดล้อม แต่ก็ควรยอมรับความจริงที่ว่ากระบี่ไม่เหมาะสมใดๆ เลย
ความจริงข้อนี้ที่ว่าพื้นที่กระบี่ไม่เหมาะสมโดยสิ้นเชิงนั้นจบแล้วในทางวิชาการ และในทางการตัดสินใจของคนกระบี่และคนไทย เรื่องนี้ทั้งรัฐบาล กระทรวงพลังงาน และ กฟผ. ต่างก็รู้ดี แต่ที่ยังไม่ยอมถอย เพราะกลัวว่าจะเกิดปรากฏการณ์โดมิโนของการหยุดโรงไฟฟ้าถ่านหินทั่วประเทศไทย เพราะถ่านหินสกปรกถูกไล่มาแล้วทั้งจากประจวบและนครศรีธรรมราช หากที่กระบี่สร้างไม่ได้ การสร้างที่อื่นก็จะเป็นโจทย์ที่ยากขึ้นการยืนยันจะสร้างที่กระบี่ให้ได้ จึงยืนอยู่บนหลักการข้อเดียวคือ “ความดันทุรังสูง” เท่านั้น
ความดันโลหิตสูงทำให้เส้นเลือดสมองแตกตายได้ ความดันทุรังสูงก็เช่นกันอาจทำให้รัฐบาลตายได้เช่นกัน เผด็จการทหารที่ความโหยหาความชอบธรรมอยู่แล้วจะยิ่งหมดความชอบธรรม ตายไปจากการยอมรับของประชาชน
ความสับสนทางนโยบายกรณีโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ควรต้องยุติได้แล้ว คนกระบี่เขาสถาปนาแนวทางพึ่งตนเองทางพลังงาน 100% ได้ด้วย โดยใช้ไฟฟ้าจากกากผลผลิตปาล์มและแสงอาทิตย์ที่ทำได้จริงและได้นำเสนอรัฐบาลไปแล้วด้วย รัฐบาลควรฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ด้วยการส่งเสริมการท่องเที่ยวอันดามันอย่างเป็นระบบ ให้เป็นปอดเป็นแหล่งพักผ่อนชื่นชมธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ที่คนทั้งโลกต้องมาเยี่ยมเยือน
การยุติการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ คือ หมุดหมายของความเจิดจรัสแห่งอันดามัน อันดามันควร go green การท่องเที่ยวยั่งยืน คือ การกระจายรายได้ที่จีรังนับพันปีไม่ใช่ต้องมารับความเสี่ยงจากถ่านหินสีดำที่มีอายุของโรงไฟฟ้าเพียง 30 ปี ที่อาจเกิดหายนะที่กู่ไม่กลับโดยไม่จำเป็น
กำลังโหลดความคิดเห็น