“บิ๊กหนุ่ย” นำ 999,999 นศ.อาชีวะ ร่วมปฏิญาณตนทำดีถวาย “ในหลวง ร.๙” เลิกใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา ดึงพลังในตัวทำประโยชน์เพื่อสังคมตามรอยพ่อหลวง
วันนี้ (9 พ.ย.) ที่วิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จัดกิจกรรม “999,999 คน ปฏิญาณตนเพื่อพ่อ อาชีวะสมานฉันท์” โดยมี พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธาน พร้อมด้วย ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัด ศธ. ดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ผู้บริหาร และอาจารย์เข้าร่วม โดยในส่วนกลาง ได้แก่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล จัดขึ้นที่วิทยาลัยเทคปทุมธานี และส่วนภูมิภาค จัดในสถานศึกษาอาชีวศึกษารวม 914 แห่ง โดยกิจกรรมได้มีการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และการปฏิญาณตนทำความดีเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงให้ความสำคัญกับการเรียนอาชีวศึกษาไม่น้อยไปกว่าการพัฒนาประเทศด้านอื่น ดังพระบรมราโชวาทที่ทรงพระราชทานในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา ตั้งแต่ปี 2530 ตอนหนึ่งว่า “เมื่อจะทำงานสิ่งใด ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ขอให้พิจารณาจุดมุ่งหมายและประโยชน์ของงานนั้นให้เห็นชัด จนเกิดความมั่นใจและพอใจที่จะกระทำเมื่อมั่นใจแล้วจึงกำหนดขั้นตอนการทำงานให้เหมาะแก่การปฏิบัติและลงมือปฏิบัติให้ได้ครบถ้วนตามขั้นตอนนั้นโดยสม่ำเสมอจนกว่าจะสำเร็จ จะได้ชื่อว่าเป็นนักปฏิบัติงานที่ดี” ซึ่งเทียบได้กับหลักธรรมในพุทธศาสนา คือ “พรหมวิหาร 4” ได้แก่ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา ที่ทุกคนต้องขยัน หมั่นเพียร อดทนอดกลั้น ยึดมั่นในหน้าที่
“ขอให้นักเรียน นักศึกษาทุกคนน้อมนำไปปฏิบัติและขอให้ทุกคนภูมิใจ ในเกียรติและศักดิ์ศรีของชาวอาชีวะ เพราะอาชีวศึกษาคือกำลังสำคัญของประเทศและเป็นฟันเฟืองที่จะสามารถนำพาประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน และขอให้พวกเราทุกคนร่วมสานต่อพระราชปณิธานของพระองค์ท่านโดยการลงมือปฏิบัติในสิ่งที่เราทำได้ศึกษาและพัฒนาตัวเองให้มีความรู้และความเชี่ยวชาญตามสาขาวิชาชีพที่เรียน มีความซื่อสัตย์สุจริตและจริงใจต่อกันรวมทั้งต้องรู้รักสามัคคี” พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าว
พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวว่า กิจกรรมปฏิญาณตนเองมีจุดประสงค์เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ นักแสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช และร่วมกันปฏิญาณตนว่าต่อไปจะไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา เพื่อทำความดีถวายพระองค์ นับเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่และสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกให้ชาวอาชีวศึกษา ทั้งนี้ เด็กอาชีวะถือเป็นกลุ่มคนที่มีพลังสูง จึงต้องดึงเอาพลังออกมาเพื่อทำประโยชน์ต่อตัวเองและสังคม โดยการเดินตามรอยพ่อหลวงช่วยเหลือสังคม ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ทำมาโดยตลอด โดยนำความรู้ความสามารถเชิงช่างและสาขาวิชาชีพออกปฏิบัติงานจริงในรูปแบบกิจกรรม จิตอาสาเพื่อสังคม ออกพื้นที่ให้บริการชุมชนในรูปแบบ Fix it Center หรือศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน เช่น ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า เดินสายไฟฟ้า ทาสีให้วัด บริการย้อมผ้า เป็นต้น
เมื่อถามว่า ภายหลังปฏิญาณตนหากเกิดเหตุวิวาทในเด็กอาชีวะจะมีบทลงโทษอย่างไร พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวว่า จริงๆ แล้วเด็กอาชีวะที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทมีอยู่ไม่กี่แห่ง และไม่กี่กลุ่ม ถือเป็นส่วนน้อย แต่อยากให้กลุ่มนี้ตระหนักให้ดี อยากให้เอาพลังที่ตนมีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมจะดีกว่า ครูอาจารย์ต้องคอยดูแล เพื่อนต้องคอยช่วยรั้งเตือนด้วย
“ขณะนี้แม้จะเปิดเทอมแล้วก็ยังโอเค ไม่มีเหตุตีกัน แต่หากมีก็ต้องลงโทษตามกฎหมาย อยากให้ตระหนักว่าตอนนี้เราง้ออาชีวะมาก เพราะเป็นวิชาชีพที่จะผลักดันในการช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ พัฒนาประเทศ แนวโน้มการเรียนอาชีวะกำลังจะดีขึ้น หากมีการตีกันอีกก็จะทำให้ความนิยมลดลง จึงอยากให้ตระหนักตรงนี้ให้มาก” รมว.ศธ.กล่าว