กรมอนามัยห่วง 7 ปัญหาสุขภาพปากผู้สูงวัย กระตุ้นคนไทยดูแลสุขภาพฟันตั้งแต่เด็กจนแก่ ช่วยมีฟันใช้ยาวนาน พร้อมจัดประกวดผู้สูงอายุ 10 ยอดฟันดี วัย 80 ปี และ 90 ปี ระดับประเทศ
วันนี้ (19 ต.ค.) นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการรณรงค์ คนไทยฟันดี สดุดีสมเด็จย่า เพื่อพัฒนาการสมวัย ณ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ว่า ผู้สูงอายุเป็นกลุ่มที่มีการสูญเสียฟันสูงที่สุดถึงร้อยละ 88 เหลือฟันใช้งานไม่ถึง 20 ซี่ ร้อยละ 37 ปัญหาสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุที่พบได้บ่อย 7 อันดับ ได้แก่ การสูญเสียฟัน ฟันผุ และรากฟันผุ เหงือกอักเสบ ภาวะน้ำลายแห้ง แผลและมะเร็งช่องปาก ฟันสึก และโรคช่องปากที่เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวาน จากผลการสำรวจสภาวะทันตสาธารณสุข ครั้งที่ 7 ในปี 2555 พบว่า ผู้สูงอายุมีการสูญเสียฟันทั้งปาก ร้อยละ 7.2 ยังคงต้องการใส่ฟันเทียมทั้งปาก ร้อยละ 2.5 หรือประมาณ 236,000 คน และพบว่า ภาคใต้มีการสูญเสียฟันทั้งปากและความต้องการบริการใส่ฟันเทียมทั้งปากสูงสุด ร้อยละ 11.2 และ 8.8 ตามลำดับ ขณะที่ภาคอื่น ๆ ความต้องการบริการใส่ฟันเทียมทั้งปากเป็นร้อยละ 2.0 - 4.6
นพ.ธงชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมา กรมอนามัยร่วมกับวิชาชีพทันตกรรมและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ดำเนินโครงการฟันเทียมพระราชทานและการส่งเสริมสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา เพื่อสนองกระแสพระราชดำรัสของพระองค์ ความว่า “เวลา ไม่มีฟัน กินอะไรก็ไม่อร่อย ทำให้ไม่มีความสุข จิตใจก็ไม่สบาย ร่างกายก็ไม่แข็งแรง” ทำให้ปัจจุบันมีผู้สูงอายุที่สูญเสียฟันทั้งปากทั่วประเทศได้รับบริการใส่ฟันเทียมพระราชทาน เพื่อการเคี้ยวอาหารแล้วกว่า 390,000 คน ส่งผลต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุอย่างชัดเจนทั้งด้านกายภาพ อารมณ์ สังคม ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศเดียวที่ให้สิทธิ์ประชาชนได้ใส่ฟันเทียม โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะการใส่ฟันเทียมทั้งปากให้กับผู้สูงอายุที่มีต้นทุนประมาณ 6,000 บาทต่อคน และในปี 2558 กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้โครงการฟันเทียมพระราชทานเป็นของขวัญปีใหม่แก่ผู้สูงอายุไทย นอกเหนือจากรากฟันเทียมและหมอประจำครอบครัว โดยเพิ่มการเข้าถึงบริการจาก 35,000 ราย เป็น 40,000 ราย
นพ.ธงชัย กล่าวว่า สำหรับวันที่ 21 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและเทิดพระเกียรติพระมารดาแห่งวงการทันตแพทย์ไทย กรมอนามัยได้ร่วมกับมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) จัดโครงการรณรงค์คนไทยฟันดี สดุดีสมเด็จย่า เพื่อพัฒนาการสมวัย ในครั้งนี้ขึ้น เพื่อให้เดือนตุลาคมเป็นเดือนแห่งการรณรงค์ดูแลสุขภาพช่องปากของคนไทย กระตุ้นให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพช่องปากตลอดชีวิตตั้งแต่เด็กไปจนสูงอายุ โดยปีนี้ยังคงจัดการประกวดผู้สูงอายุ 10 ยอดฟันดี วัย 80 ปี และ 90 ปี ระดับประเทศ มีผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศวัย 90 ปี จำนวน 4 ราย ได้แก่ นายพิศ สุทธิฤกษ์ จังหวัดชุมพร นางหลง สิงห์ทอง จังหวัดขอนแก่น นายเหลือ บุญแจ้ง จังหวัดเพชรบูรณ์ และ นายผัน แท่นจันทร์ จังหวัดกาฬสินธุ์ สำหรับรางวัลชนะเลิศ วัย 80 ปี มีจำนวน 6 ราย ได้แก่ นางสุทิน แจงเจริญ จังหวัดฉะเชิงเทรา นายบุญชู สาวิกันย์ จังหวัดร้อยเอ็ด นายวิญาสิษฐ์ สุนทรนนท์ จังหวัดนนทบุรี นางสีม่วง ชอบสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา นางซอย ทุ่งทอง จังหวัดอุทัยธานี และ นางนุ้ย มูลแจ้ง จังหวัดตาก
“นอกจากนี้ มีการมอบเกียรติบัตรแก่ผู้แทนสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดที่สนับสนุนการประกวดผู้สูงอายุฟันดี ผู้ประกอบการแปรงสีฟันที่ได้รับการรับรองจากกรมอนามัย ประจำปี 2559 ได้แก่ บริษัท ซี.พี.คอนซูมเมอร์ โปรดักส์ จำกัด บริษัท สยามเฮลท์ กรุ๊ป จำกัด และห้างหุ้นส่วนจำกัด ไดรว์อินเด็นทั่ลซัพพลาย และหน่วยงานที่สนับสนุนงานทันตสาธารณสุข ได้แก่ บริษัท คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ (ประเทศไทย) จํากัด พร้อมทั้งจัดแสดงนิทรรศการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี นิทรรศการส่งเสริมทันตสุขภาพของประชาชนทุกกลุ่มวัย เสวนาเรื่องพัฒนาคนเริ่มต้นที่พัฒนาการสมวัย และกิจกรรมแปรงสีฟันเก่าแลกแปรงสีฟันใหม่ เป็นต้น” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว