ภรรยาสุดเศร้า ไร้หน่วยงานเหลียวแล หลังสามีช่วยคนรถเสียแต่ถูกแท็กซี่ชนดับ พม. เร่งส่งเจ้าหน้าที่เยี่ยมบ้าน ให้การช่วยเหลือ พร้อมเยียวยาจิตใจ เผยต้องเลี้ยงลูกวัย 7 เดือน เพียงลำพัง
จากกรณีชายหนุ่มชาวลำปาง อายุ 28 ปี จอดรถลงไปช่วยเหลือหญิงสาวที่รถเสียกลางสะพานต่างระดับเหนือสี่แยกตากสิน แต่เคราะห์ร้ายถูกคนขับรถแท็กซี่ขับพุ่งชนจนตกสะพานเสียชีวิต เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่หญิงสาวที่ลงมาขอความช่วยเหลือได้รับบาดเจ็บไปด้วย ล่าสุด วันนี้ (29 มี.ค.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า ภรรยาผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดยื่นมือเข้ามาให้การช่วยเหลือแต่อย่างใด และยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากเพิ่งมีลูกคนแรกด้วยกันวัยเพียง 7 เดือน ที่ย่านธนบุรี กรุงเทพฯ ตนจึงได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมเร่งเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจของภรรยาและครอบครัวโดยด่วน
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า ส่วนหญิงวัย 47 ปี ต้องรับภาระเพียงลำพังเลี้ยงดู 3 ชีวิต ทั้งสามีวัย 51 ปี ที่พิการขาขาด และป่วยเป็นโรคไต ต้องฟอกไตอาทิตย์ละ 3 ครั้ง ลูกสาวคนโตวัย 25 ปี ป่วยเป็นโรคมะเร็งที่สมอง และลูกสาวคนเล็กวัย 17 ปี เพิ่งจบชั้น ม.6 และอยากเรียนต่อครู แต่ไม่มีเงินส่งให้เรียนต่อ ครอบครัวมีฐานะยากจน ที่จังหวัดนครสวรรค์ ได้กำชับให้ พมจ. นครสวรรค์ เร่งลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นเช่นกัน พร้อมมอบของใช้ที่จำเป็น และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องการรักษาพยาบาลของผู้ที่ป่วย และดูแลเรื่องการศึกษาของลูกสาวคนเล็กในระยะยาวต่อไป
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
