ศธ.จี้ทุกหน่วยงานสางปัญหาทุจริต ขู่พบเอี่ยวโกง ฟันวินัยและอาญา
พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาการทุจริต กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าว่า ขณะนี้ได้เร่งรัดให้ทุกหน่วยงานติดตามและสรุปผลคดีสำคัญๆ 3 เรื่อง ได้แก่ คดีทุจริตสอบบรรจุครูผู้ช่วย คดีทุจริตจัดสร้างสนามฟุตซอล และคดีทุจริตการทำธุรกิจสลากกินแบ่งรัฐบาลในสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ซึ่งคดีทุจริตแต่และเรื่องคืบหน้า โดยคณะทำงานฯตรวจสอบแล้ว 12 คดี สร้างความเสียหายมีมูลค่าหลายพันล้านบาท โดยล่าสุดสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้มีคำสั่งยึดทรัพย์บริษัทเอกชน นอกจากนี้ยังได้ดำเนินคดีทั้งทางวินัยและอาญาแก่ผู้บริหารสหกรณ์ออมทรัพย์ครูหลายราย
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวต่อว่า ขณะนี้เร่งให้ผู้บริหารและทุกหน่วยงานเร่งสะสางปัญหาโดยเร็ว และตนจะเอาเป็นเกณฑ์ประเมินการทำงานด้วย ซึ่งการดำเนินการจะทำควบคู่ไปกับนโยบายของรัฐบาล หากพบว่ามีข้าราชเข้าไปเกี่ยวข้อง จะเอาผิดทั้งทางวินัยและอาญา
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาการทุจริต กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าว่า ขณะนี้ได้เร่งรัดให้ทุกหน่วยงานติดตามและสรุปผลคดีสำคัญๆ 3 เรื่อง ได้แก่ คดีทุจริตสอบบรรจุครูผู้ช่วย คดีทุจริตจัดสร้างสนามฟุตซอล และคดีทุจริตการทำธุรกิจสลากกินแบ่งรัฐบาลในสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ซึ่งคดีทุจริตแต่และเรื่องคืบหน้า โดยคณะทำงานฯตรวจสอบแล้ว 12 คดี สร้างความเสียหายมีมูลค่าหลายพันล้านบาท โดยล่าสุดสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้มีคำสั่งยึดทรัพย์บริษัทเอกชน นอกจากนี้ยังได้ดำเนินคดีทั้งทางวินัยและอาญาแก่ผู้บริหารสหกรณ์ออมทรัพย์ครูหลายราย
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวต่อว่า ขณะนี้เร่งให้ผู้บริหารและทุกหน่วยงานเร่งสะสางปัญหาโดยเร็ว และตนจะเอาเป็นเกณฑ์ประเมินการทำงานด้วย ซึ่งการดำเนินการจะทำควบคู่ไปกับนโยบายของรัฐบาล หากพบว่ามีข้าราชเข้าไปเกี่ยวข้อง จะเอาผิดทั้งทางวินัยและอาญา
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่