กรมอนามัยแนะวิธีเตรียมพร้อมร่างกายก่อนสวดมนต์ข้ามปี เผยกินพออิ่ม เน้นอาหารย่อยง่าย "ปลา ผัก ผลไม้" เผยท่ายืดเหยียดคลายเมื่อยก่อนและระหว่างสวดมนต์ เตือนผู้สูงอายุ-ผู้มีปัญหาเข่าเลี่ยงนั่งพับเพียบ ขัดสมาธิ
นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ ประชาชนนิยมสวดมนต์ข้ามปีเพื่อสร้างความเป็นสิริมงคลให้กับตนเองและครอบครัว และเป็นการเริ่มต้นที่ดีในปีใหม่ แต่ด้วยวิธีการปฏิบัติและระยะเวลาในการสวดมนต์ที่ยาวนาน อาจทำให้ร่างกายเมื่อยล้า ส่งผลกระทบต่อสุขภาพตามมาได้ ดังนั้น จึงควรมีการเตรียมร่างกายให้พร้อม โดยบริโภคอาหารในปริมาณที่ไม่มากเกินความจำเป็นของร่างกาย เลี่ยงอาหารประเภทเนื้อสัตว์ที่ย่อยยาก ให้เน้นปลา ผักสด และผลไม้สดแทน เนื่องจากการกินอาหารมากเกินไปเมื่อนั่งสวดมนต์นาน ๆ จะทำให้เกิดการกดทับกระเพาะอาหาร ทำให้ท้องอืด อาหารไม่ย่อย เป็นอุปสรรคต่อการสวดมนต์ได้ นอกจากนี้ ผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านข้อเข่า ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ อาจนั่งเก้าอี้แทนการนั่งกับพื้น เพื่อลดอาการปวดเข่าและทำให้สามารถสวดมนต์ได้ยาวนานขึ้น
นพ.วชิระ กล่าวว่า ผู้สูงอายุและผู้ที่มีปัญหาข้อเข่า ควรหลีกเลี่ยงท่าที่พับข้อมากเกิน 90 องศา เช่น การนั่งพับเพียบ ในกรณีนั่งสวดมนต์ควรสลับท่านั่งระหว่างการนั่ง พับเพียบกับการนั่งขัดสมาธิ และอย่าลืมการยกลำตัวหรือกระบังลมขึ้นเป็นช่วงๆ เพื่อช่วยการกดน้ำหนักลงเฉพาะจุด ท่านั่งให้ยกลำตัวหรือกระบังลมขึ้น เป็นการ ออกแรงต้านทานแรงดึงดูดของโลก โดยทำเป็นช่วงๆ ช่วงละ10 นาที และคลายกล้ามเนื้อลงประมาณ 1 นาที สลับทำอย่างนี้ไปตลอดขณะทำการสวดมนต์จะทำให้กล้ามเนื้อลำตัวแข็งแรงขึ้นและไม่ปวดเมื่อยจากการกดน้ำหนักของลำตัวส่วนบน
“สำหรับประชาชนทั่วไป ก่อนสวดมนต์ประชาชนควรเตรียมพร้อมโดยยืดเหยียดกล้ามเนื้อด้วยการยกแขน ขึ้นลง เอียงตัวไปทางซ้าย ขวา กำมือ แบมือ ซึ่งทุกกลุ่มวัยสามารถทำได้ทั้งในลักษณะการยืนและนั่ง และหากมีเวลาพักในช่วงสวดมนต์ก็ควรเปลี่ยนอิริยาบถด้วยการเดิน หรือการบริหาร ยืดเหยียดกล้ามเนื้อแบบค้างนิ่งไว้ประมาณ 10-30 วินาที แต่ละท่าทำอย่างน้อย 4 ครั้ง และเพื่อให้ได้ผลดียิ่งขึ้น ในการยืดเหยียดกล้ามเนื้อให้ยืดจนถึงจุดที่รู้สึก ตึงแต่ไม่ใช่เจ็บ แล้วนิ่งค้างไว้ในท่านั้น ระหว่างการยืดเหยียดให้หายใจเข้า-ออกตามปกติ อย่ากลั้นหายใจ” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
นพ.วชิระ กล่าวว่า ท่ายืดเหยียดกล้ามเนื้อที่ทำได้ง่ายและเหมาะในช่วงพักของการสวดมนต์ คือการยืดเหยียดคอ โดยให้เอียงศีรษะไปทางขวาลู่ไหล่ลงทั้ง 2 ช้าง ใช้มือขวาวางบนศีรษะด้านซ้าย แล้วดึงศีรษะเบาๆ ไปทาง ไหล่ขวา ค้างไว้ 10-30 วินาที สลับข้างและทำซ้ำแบบเดียวกัน และการยืดเหยียดน่อง โดยยืนห่างจากฝาผนัง 2-3 ฟุต แล้วก้าวเท้าซ้ายเข้าใกล้ผนัง ให้เท้าทั้งสองข้างตั้งฉากกับฝาผนัง งอเข่าซ้าย เข่าไม่ควรเลยปลายเท้า แขนทั้งสองข้างแนบฝาผนัง ขาขวาตึงและส้นเท้าแนบพื้น ค้างไว้ 10-30 วินาที สลับข้างและทำซ้ำ แบบเดียวกัน พยายามให้เท้าทั้งสองข้างขนานกันและตั้งฉากกับฝาผนัง ส้นเท้าหลังแนบพื้นและเข่าหลังสามารถงอได้เล็กน้อยระหว่างการยืดเหยียด
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ ประชาชนนิยมสวดมนต์ข้ามปีเพื่อสร้างความเป็นสิริมงคลให้กับตนเองและครอบครัว และเป็นการเริ่มต้นที่ดีในปีใหม่ แต่ด้วยวิธีการปฏิบัติและระยะเวลาในการสวดมนต์ที่ยาวนาน อาจทำให้ร่างกายเมื่อยล้า ส่งผลกระทบต่อสุขภาพตามมาได้ ดังนั้น จึงควรมีการเตรียมร่างกายให้พร้อม โดยบริโภคอาหารในปริมาณที่ไม่มากเกินความจำเป็นของร่างกาย เลี่ยงอาหารประเภทเนื้อสัตว์ที่ย่อยยาก ให้เน้นปลา ผักสด และผลไม้สดแทน เนื่องจากการกินอาหารมากเกินไปเมื่อนั่งสวดมนต์นาน ๆ จะทำให้เกิดการกดทับกระเพาะอาหาร ทำให้ท้องอืด อาหารไม่ย่อย เป็นอุปสรรคต่อการสวดมนต์ได้ นอกจากนี้ ผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านข้อเข่า ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ อาจนั่งเก้าอี้แทนการนั่งกับพื้น เพื่อลดอาการปวดเข่าและทำให้สามารถสวดมนต์ได้ยาวนานขึ้น
นพ.วชิระ กล่าวว่า ผู้สูงอายุและผู้ที่มีปัญหาข้อเข่า ควรหลีกเลี่ยงท่าที่พับข้อมากเกิน 90 องศา เช่น การนั่งพับเพียบ ในกรณีนั่งสวดมนต์ควรสลับท่านั่งระหว่างการนั่ง พับเพียบกับการนั่งขัดสมาธิ และอย่าลืมการยกลำตัวหรือกระบังลมขึ้นเป็นช่วงๆ เพื่อช่วยการกดน้ำหนักลงเฉพาะจุด ท่านั่งให้ยกลำตัวหรือกระบังลมขึ้น เป็นการ ออกแรงต้านทานแรงดึงดูดของโลก โดยทำเป็นช่วงๆ ช่วงละ10 นาที และคลายกล้ามเนื้อลงประมาณ 1 นาที สลับทำอย่างนี้ไปตลอดขณะทำการสวดมนต์จะทำให้กล้ามเนื้อลำตัวแข็งแรงขึ้นและไม่ปวดเมื่อยจากการกดน้ำหนักของลำตัวส่วนบน
“สำหรับประชาชนทั่วไป ก่อนสวดมนต์ประชาชนควรเตรียมพร้อมโดยยืดเหยียดกล้ามเนื้อด้วยการยกแขน ขึ้นลง เอียงตัวไปทางซ้าย ขวา กำมือ แบมือ ซึ่งทุกกลุ่มวัยสามารถทำได้ทั้งในลักษณะการยืนและนั่ง และหากมีเวลาพักในช่วงสวดมนต์ก็ควรเปลี่ยนอิริยาบถด้วยการเดิน หรือการบริหาร ยืดเหยียดกล้ามเนื้อแบบค้างนิ่งไว้ประมาณ 10-30 วินาที แต่ละท่าทำอย่างน้อย 4 ครั้ง และเพื่อให้ได้ผลดียิ่งขึ้น ในการยืดเหยียดกล้ามเนื้อให้ยืดจนถึงจุดที่รู้สึก ตึงแต่ไม่ใช่เจ็บ แล้วนิ่งค้างไว้ในท่านั้น ระหว่างการยืดเหยียดให้หายใจเข้า-ออกตามปกติ อย่ากลั้นหายใจ” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
นพ.วชิระ กล่าวว่า ท่ายืดเหยียดกล้ามเนื้อที่ทำได้ง่ายและเหมาะในช่วงพักของการสวดมนต์ คือการยืดเหยียดคอ โดยให้เอียงศีรษะไปทางขวาลู่ไหล่ลงทั้ง 2 ช้าง ใช้มือขวาวางบนศีรษะด้านซ้าย แล้วดึงศีรษะเบาๆ ไปทาง ไหล่ขวา ค้างไว้ 10-30 วินาที สลับข้างและทำซ้ำแบบเดียวกัน และการยืดเหยียดน่อง โดยยืนห่างจากฝาผนัง 2-3 ฟุต แล้วก้าวเท้าซ้ายเข้าใกล้ผนัง ให้เท้าทั้งสองข้างตั้งฉากกับฝาผนัง งอเข่าซ้าย เข่าไม่ควรเลยปลายเท้า แขนทั้งสองข้างแนบฝาผนัง ขาขวาตึงและส้นเท้าแนบพื้น ค้างไว้ 10-30 วินาที สลับข้างและทำซ้ำ แบบเดียวกัน พยายามให้เท้าทั้งสองข้างขนานกันและตั้งฉากกับฝาผนัง ส้นเท้าหลังแนบพื้นและเข่าหลังสามารถงอได้เล็กน้อยระหว่างการยืดเหยียด
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่