ศธ.แถลงผลงาน 1 ปีชี้ทำงานตอบโจทย์รัฐบาลในปฏิรูปพัฒนาคน “ดาว์พงษ์” พอใจการทำงานที่ผ่านมา ระบุปี 59 เร่งพัฒนาคนทุกช่วงวัย ยกเครื่องระบบบริหารของ สพฐ.
วันนี้ (24 ธ.ค.) พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) พร้อมด้วย พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ และนพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมช.ศึกษาธิการ ร่วมแถลงผลการดำเนินงานของกระทรวงศึกษาธิการ รอบ 1 ปี โดย พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังปฏิรูปทั้งระบบ โดย ศธ.เป็นส่วนหนึ่งที่ต้องปฏิรูป พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบโจทย์ว่าต้องวางแผนการผลิตคนไทยเจเนอเรชั่นในอีก 20 ปีข้างหน้า ดังนั้น ศธ.ต้องบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันวางแผนพัฒนาคนทุกช่วงวัย
รมว.ศธ. กล่าวว่า ตลอดปี 2558 ศธ.ได้รวบรวมปัญหาต่างๆ และกำหนดจุดเน้นเร่งด่วน 6 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1.การปฏิรูปหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ 2. ครู 3.การทดสอบ การประเมิน การประกันคุณภาพและการพัฒนามาตรฐานการศึกษา 4. การผลิตกำลังคน และงานวิจัยที่ตรงกับความต้องการของประเทศ 5.ไอซีทีเพื่อการศึกษา และ6.การบริหารจัดการ ผ่านโครงการสำคัญรวม 20 โครงการ โดยมอบให้ รมช.ศึกษาธิการ ทั้ง 2 ท่านรับผิดชอบ เช่นโครงการลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ เริ่มดำเนินการในโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.)แล้วจำนวน 4,100 โรง พร้อมกันนี้ได้ตั้งเป้าปี 2559จะขยายเพิ่มอีก 10,669 โรง และปี 2560 จะขยายให้ครบทุกโรงเรียน ขณะเดียวกันยังได้จัดทำโครงการคืนครูสู่ห้องเรียนเพื่อแก้ปัญหาขาดครู ผ่านโครงการคืนครูผู้ทรงคุณค่าแห่งแผ่นดิน หรือ การจ้างครูเกษียณที่มีความเชี่ยวชาญ 10,000 คน และโครงการผลิตครูเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น (คพท.) จำนวน. 4,000 คนต่อปี อย่างไรก็ดีโครงการนี้จะสิ้นสุดในปี 2567
พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาหนี้ครูนั้นตนจะเรียกแหล่งเงินกู้ 4 แห่ง ได้แก่ สหกรณ์ออมทรัพย์ครู ธนาคารออมสิน โครงการสวัสดิการเงินกู้การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการ ศึกษา (ช.พ.ค.)และกองทุนเงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินครูมาหารือ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการปล่อยกู้และสอดคล้องกับรายได้ของครูด้วย ที่ต้องเร่งแก้ไขหนี้ครู เพราะมีผลกระทบต่อการเรียนการสอนต่อนักเรียนด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะให้คะแนนความพอใจการทำงานในรอบ 1 ปีเท่าไหร่ พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวว่า ผมคงตอบไม่ได้ เพราะไม่เคยให้คะแนนตัวเอง ต้องให้คนอื่นประเมิน ผมยอมรับว่าช่วงแรกที่เข้ามาทำงาน รู้สึกไม่พอใจ รู้สึกว่าช้า เมื่อทำงานไปเรื่อยๆ จึงเข้าใจว่า บางเรื่องต้องใช้เวลา อย่างเช่น เรียนซ้ำชั้น มีบางคนว่าศธ.ถอยหลังเข้าคลอง ซึ่งความจริงเรื่องนี้ผมคิดโดยผูกโยงกับการปลูกฝังให้เด็กมีความรับผิดชอบ ไม่ใช่ คอยอุ้มเด็กถ้าปล่อยผ่านไปทำให้การศึกษาไม่ได้คุณภาพ ผมรู้ว่าเป็นเรื่องยากและเหนื่อย ซึ่งผมไม่ได้เหนื่อยคนเดียวแต่คนทำงานเหนื่อยกว่า เพราะฉะนั้น หากให้ประเมินการทำงานของผู้บริหารและข้าราชการ ศธ. ในภาพรวม ผมให้ผ่านหมด
พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้เรื่องที่จะขับเคลื่อนให้เห็นผลในปี2559 อันดับแรก ปรับระบบการบริหารของ สพฐ. ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค แผนการพัฒนาคุณภาพคนตลอดช่วงชีวิต จัดตั้งกรมวิชาการ และการควบรวบอาชีวศึกษารัฐและเอกชน ตลอดจนผลักดันโครงการ คพท.เป็นต้น
ติดตาม Facebook Fanpage ของ "Quality of Life" ได้ที่