ร.ร.ขนาดเล็ก 9 พันแห่งยังไม่ผ่านเกณฑ์ประเมิน สมศ. เหตุงบประมาณน้อย ไร้ครู ไร้ผู้บริหาร บางพื้นที่มีครู ไม่มีนักเรียน จี้ สพฐ.เร่งแก้ปัญหา เสนอควงรวม ร.ร.ขนาดเล็กพื้นที่ใกล้เคียง หวังแชร์ทรัพยากร ชู ร.ร.วัดงิ้วเฒ่า ต้นแบบ ร.ร.ขนาดเล็กพัฒนาการเรียนการสอนมีประสิทธิภาพ
วันนี้ (26 พ.ย.) ศ.ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ. กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยม โรงเรียนวัดงิ้วเฒ่า อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ ว่า ร.ร.วัดงิ้วเฒ่ามีจำนวนนักเรียน 106 คน บุคลากรครู 12 คน ถือเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก แต่เป็นโรงเรียนขนาดเล็กต้นแบบที่สามารถนำผลการประเมินของสมศ.มาพัฒนาการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาสูงขึ้น เห็นได้ชัดจากผลการประเมินรอบสองที่อยู่ในระดับพอใช้ สามารถขึ้นมาอยู่ในระดับดีในการประเมินรอบที่สามได้ ทั้งที่โรงเรียนมีข้อจำกัดค่อนข้างมาก เช่น ครูไม่ครบชั้น ขาดแคลนงบประมาณ และนักเรียนส่วนใหญ่เป็นเด็กชาติพันธุ์ที่พูดภาษาไทยไม่ได้ เป็นต้น
ศ.ดร.ชาญณรงค์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีโรงเรียนขนาดเล็กอีกกว่า 9 พันแห่ง จากโรงเรียนขนาดเล็กทั้งหมด 24,805 แห่ง ที่ยังไม่ผ่านการประเมินของ สมศ. ปัญหาส่วนหนึ่งมาจากการได้รับงบประมาณค่อนข้างน้อย แม้จะได้รับเงินท็อปอัปจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) แล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ขณะเดียวกันบางพื้นที่ยังพบปัญหาโรงเรียนไม่มีผู้บริหาร อย่างล่าสุด ได้ลงพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี พบว่า มีโรงเรียนที่ยังไม่มีผู้บริหารถึง 170 โรงเรียน นอกจากนี้ ยังพบว่า บางจังหวัดนั้นโรงเรียนมีครูแต่ไม่มีนักเรียน บางแห่งมีผู้บริหารมากกว่าหนึ่งคน จึงอยากให้ สพฐ.เร่งแก้ไข ปัญหา เพราะครูและผู้บริหารมีส่วนสำคัญในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา
" ที่ผ่านมา สมศ.พยายามเสนอแนวทางให้มีการควบรวมโรงเรียนขนาดเล็กบริเวณใกล้เคียงกัน เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรครูและอุปกรณ์ต่างๆ ร่วมกัน แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจน ส่วนความคืบหน้าการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ (พ.ศ.2559-2563) ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำเกณฑ์และตัวบ่งชี้ ซึ่งคงต้องรอความชัดเจนของเกณฑ์การประเมินภายในของสถานศึกษาก่อน เพื่อให้เกณฑ์การประเมินภายในและภายนอกมีความสอดคล้องกัน และไม่สร้างภาระให้แก่ครูมากเกินไป " ผอ.สมศ. กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่