อย.ยกร่างข้อความห้ามโฆษณาเครื่องสำอางเสร็จแล้ว ห้ามข้อความ 3 ลักษณะ “บำบัดรักษา-เปลี่ยนโครงสร้างร่างกาย-อ้างผลวิจัยแต่ไร้เอกสารยัน” เล็งชง คกก.พิจารณา คาดเรียบร้อยในปี 58 ก่อนเสนอ รมว.สธ.และ ครม.ประกาศเป็นกฎกระทรวง ช่วยสื่อชัดเจนอะไรโฆษณาได้ ผู้บริโภคใช้เป็นข้อมูลพิจารณาสินค้า
ภก.ประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและมีผลบังคับใช้แล้ว โดยตามมาตรา 41 (7) กำหนดว่าการโฆษณาเครื่องสำอางต้องไม่ใช้ข้อความที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค ซึ่งเป็นข้อความตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ขณะนี้ อย.ได้ยกร่างกฎกระทรวงข้อความห้ามโฆษณาเครื่องสำอางเสร็จเรียบร้อยแล้ว รอนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการเครื่องสำอาง คาดว่าจะเสร็จเรียบร้อยภายในปี 2558 ก่อนเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อพิจารณานำเข้าสู่คณะรัฐมนตรี (ครม.) และออกเป็นกฎกระทรวงสาธารณสุข
ภก.ประพนธ์กล่าวว่า ร่างกฎกระทรวงข้อความห้ามใช้ในการโฆษณาเครื่องสำอาง จะแบ่งข้อความเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1. ข้อความที่โฆษณาว่ามีผลบำบัด บรรเทารักษา ป้องกันโรค 2. ข้อความที่โฆษณาว่าส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างหรือการทำหน้าที่ของอวัยวะ เช่น ทาแล้วหน้าเรียว ต้นขาลด ลดอ้วน และ 3. ข้อความที่โฆษณาระบุถึงผลวิจัยเกี่ยวกับการรักษาทางการแพทย์ แต่ไม่มีเอกสารทางวิชามายืนยันหรือรับรอง โดยทั้งส่วนจะมีข้อความกำหนดอย่างชัดเจนว่าข้อความใดที่เข้าข่ายทั้ง 3 ส่วนบ้าง ผู้ใดที่ฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งเป็นโทษที่ขยับเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า จากโทษเดิมที่จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
“เมื่อกฎกระทรวงนี้มีผลบังคับใช้ ผู้ใดที่โฆษณาเครื่องสำอางในลักษณะข้อความที่ห้าม ถือว่าผิดกฎหมาย โดยจะครอบคลุมการโฆษณาในทุกสื่อทั้งสิ่งพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์และสื่อออนไลน์ด้วย ซึ่งการออกกฎกระทรวงนี้ จะส่งผลใน 2 ประเด็นสำคัญ คือ 1. สื่อจะมีความชัดเจนขึ้นว่าข้อความลักษณะใดใช้ได้ ต่อไปจะไม่สามารถอ้างได้ว่าอะไรโฆษณาได้หรือไม่ได้ และ 2. ผู้บริโภคใช้เป็นข้อมูลในการพิจารณาสินค้านั้นได้ เพราะรู้ว่าข้อความไหนจริงไม่จริงเพราะหน่วยงานราชการมีการประกาศชัดแล้วว่าข้อความแบบใดโฆษณาไม่ได้” รองเลขาธิการ อย.กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่