ชู “เทพรัตนมณีกานท์” สอนภาษาไทย

สพฐ. จัดพิมพ์หนังสือเทพรัตนมณีกานท์ 35,000 เล่ม ซึ่งน้อมนำบทพระราชนิพนธ์สมเด็จพระเทพฯ เพื่อให้เด็กระดับประถมถึงมัธยม อ่านนอกเวลาเรียน เรียนรู้ภาษาไทย

วันนี้ (28 ก.ย.) ที่ห้องประชุมกระทรวงศึกษาธิการ นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน แถลงข่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้จัดพิมพ์หนังสือเทพรัตนมณีกานท์ ซึ่งรวมพระราชนิพนธ์บทร้อยกรอง ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเฉลิมพระเกียรติในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เม.ย. 2558 โดยหนังสือพระราชนิพนธ์ดังกล่าวกองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระเทพฯได้ดำเนินการจัดทำต้นฉบับ ซึ่งรวบรวมพระราชนิพนธ์บทร้อยกรอง จำนวน 60 บท พระองค์ทรงพระราชนิพนธ์ตั้งแต่ทรงพระชนมายุ 12 พรรษา จนถึงพระชนมายุ 45 พรรษา ซึ่งแบ่งเป็นหมวดหมู่ มีภาพประกอบภาพบรมฉายาลักษณ์ตั้งแต่ทรงพระเยาว์จนถึงปัจจุบัน ล้วนเป็นภาพพระจริยวัตรอันงดงามที่หาชมได้ยาก

“สมเด็จพระเทพฯทรงเป็นแบบอย่างอันดีในการดำเนินชีวิตแก่คนไทยทุกด้าน ทั้งเรื่องความกตัญญูกตเวทิตา ความใฝ่รู้ใฝ่เรียน คุณธรรมจริยธรรม พระวิริยะอุตสาหะ ทรงเป็นครูของปวงชนและทรงมีพระราชดำริว่าการศึกษาต้องประกอบด้วย 4 อย่างคือ พุทธิศึกษา หัตถศึกษา พลศึกษา และจริยศึกษา อยากให้นำกลับมาใช้พัฒนาการศึกษา”

นายกมล กล่าวว่า สพฐ. จัดพิมพ์หนังสือเทพรัตนมณีกานท์ จำนวน 35,000 เล่ม เพื่อแจกให้กับโรงเรียนในสังกัด สพฐ. ใช้เป็นหนังสืออ่านเพิ่มเติมกลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาภาษาไทย ตั้งแต่ระดับประถมจนถึงมัธยมศึกษาตอนแปลาย นอกจากนี้ ยังแจกให้กับสถานศึกษาในสังกัดอื่น ๆ เช่น โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนด้วย

ศ.(กิตติคุณ) กาญจนา นาคสกุล ราชบัณฑิต สมาคมครูภาษาไทยแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระอัจฉริยภาพด้านการคิดและการเขียน พบว่า ทรงเริ่มพระราชนิพนธ์ตั้งแต่เมื่อครั้งเรียนโรงเรียนจิตรลดา พระชนมายุเพียง 12 พรรษา ถือเป็นสิ่งที่น่าจะเป็นข้อเตือนใจและข้อคิดให้แก่เด็ก ๆ เพราะปัจจุบันเด็กไทยไม่ค่อยคิด ได้อ่าน หรือเขียน จึงอยากให้หนังสือเทพรัตนมณีกานท์นี้ เป็นหนังสืออ่านนอกเวลา นักเรียนจะสังเกตเห็นว่าภาษานั้นมีความไพเราะ มีสิ่งที่ดี และไม่จำเป็นต้องใช้ภาษา หรือคำที่ยาก เห็นได้จากบทพระราชนิพนธ์ที่คัดเลือกมาจะเป็นบทพระราชนิพนธ์ที่อ่านง่ายและน่าจดจำ ง่ายและควรค่าที่เด็กและครูจะได้เรียนรู้

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่