ศูนย์เอราวัณรายงานผู้บาดเจ็บเหตุบึ้มแยกราชประสงค์ 108 ราย ตาย 8 ราย อยู่ที่ รพ.จุฬาฯ 3 ราย รพ.ตำรวจ 4 ราย และ รพ.กลาง 1 ราย ขณะที่ รพ.จุฬาฯ ออกแถลงการณ์ฉบับ 2 ระบุ รับผู้ป่วยดูแล 27 ราย ส่วนใหญ่โดนสะเก็ดระเบิด ล่าสุดกลับบ้านได้แล้ว 6 ราย พบตายเพิ่ม 1 ราย เป็นผู้หญิง
วันนี้ (18 ส.ค.) ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร (ศูนย์เอราวัณ) รายงานสรุปจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา ข้อมูลเมื่อเวลา 10.00 น. มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 108 ราย เสียชีวิต 8 ราย แบ่งเป็น 1. รพ.จุฬาลงกรณ์ 27 ราย 2. รพ.ตำรวจ 13 ราย 3. รพ.ราชวิถี 9 ราย 4. รพ.รามาธิบดี 6 ราย 5. รพ.กลาง 7 ราย 6. รพ.หัวเฉียว 14 ราย 7. รพ.เลิดสิน 7 ราย 8. รพ.พระมงกุฏเกล้า 10 ราย 9. รพ.พญาไท 1 จำนวน 6 ราย 10. รพ.กรุงเทพคริสเตียน 5 ราย 11. รพ.เซ็นต์หลุยส์ 1 ราย 12.รพ. กล้วยน้ำไท 1 จำนวน 2 ราย 13. รพ.พระราม 9 จำนวน 1 ราย 14. รพ.บำรุงราษฎร์ 1 ราย 15. รพ.มเหสักข์ 1 ราย 16. รพ.ปิยะเวท 1 ราย 17. รพ.บางปะกอก 1 จำนวน 3 ราย 18. สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (รพ.เด็ก) 1 ราย และ 19. รพ.บีเอ็นเอช 1 ราย
ส่วนผู้เสียชีวิตจำนวน 8 รายนั้น กระจายอยู่ที่ รพ.จุฬาฯ 3 ราย รพ.ตำรวจ 4 ราย และ รพ.กลาง 1 ราย
ต่อมา เมื่อเวลา 10.40 น. โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้ออกแถลงการณ์รายงานสถานการณ์ข่าวฉบับที่ 2 กรณีให้ความช่วยเหลือในการรักษาพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ระเบิด ณ บริเวณศาลพระพรหม แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2558 โดยระบุว่า จากการดำเนินการให้ความช่วยเหลือขณะนี้สรุปได้ที่จำนวน 27 ราย เป็นชาย 14 ราย หญิง 10 ราย และเด็กผู้หญิง 3 ราย จำแนกเป็น 1. คนไทย จำนวน 9 ราย 2. ชาวต่างชาติ จำนวน 10 ราย และ 3. ไม่ทราบชื่อสกุลและสัญชาติ จำนวน 8 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการรักษาจำนวน 18 ราย กลับบ้านแล้ว 6 ราย และเสียชีวิต 3 ราย โดยเป็นผู้หญิง 2 ราย และ เด็กหญิง 1 ราย ไม่ทราบชื่อสกุลและสัญชาติ สภาพอาการโดยรวมของผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่ เกิดจากโดนสะเก็ดระเบิดตามร่างกาย ซึ่งทางโรงพยาบาลได้ระดมทีมแพทย์และพยาบาล พร้อมด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย ให้การดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดและเต็มสรรพกำลัง ส่วนความคืบหน้าจะแจ้งเป็นลำดับต่อไป
ทั้งนี้ ก่อนหน้านั้น รพ.จุฬาฯ ออกแถลงการณ์ฉบับ 1 รายงานผู้เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าวมีจำนวน 2 ราย เป็นผู้หญิง 1 ราย และเด็กหญิง 1 ราย
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่