กีฬาซีเกมส์ที่สิงคโปร์เพิ่งเสร็จสิ้นไป สร้างรอยยิ้มให้คนไทยทั้งประเทศ เพราะสามารถครองเจ้าเหรียญทองได้เป็นสมัยที่ 13 และยังได้เหรียญทองแห่งศักดิ์ศรี คือ ฟุตบอลชายมาครองอีกด้วยในวันรองสุดท้าย ถือเป็นการปิดฉากที่สวยงามอย่างยิ่ง
ช่วงเวลาที่มีการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ เป็นช่วงเวลาที่หลอมรวมใจของคนไทย ทั้งที่อยู่ในและต่างประเทศที่พร้อมใจกันเชียร์ทัพนักกีฬาไทย และมีความสุขทุกครั้งที่ได้ยินเสียงเพลงชาติไทย พร้อมกับการเชิญธงขึ้นเสา เมื่อนักกีฬาไทยได้เหรียญทอง
ความจริงแทบไม่ต้องสาธยายถึงประโยชน์ที่ได้จากกีฬาเลย แม้แต่คนดูกีฬาก็ยังได้ประโยชน์เลย
แต่ในความเป็นจริง เรากลับพบว่า เด็กรุ่นนี้และรุ่นหน้ามีแนวโน้มไม่ได้เล่นกีฬา หรือออกกำลังกายโดยเฉพาะกลางแจ้งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องเพราะวิถีชีวิตของเด็กและเยาวชนเปลี่ยนไปมาก
ไลฟ์สไตล์ของเด็กจำนวนมากถูกกำหนดโดยโลกแห่งเทคโนโลยี เด็กจะหมกอยู่กับเครื่องมือสื่อสารเทคโนโลยีที่มีอยู่รอบตัวทั้งที่บ้าน โรงเรียน ชุมชน และกับตัวเอง ทำให้พฤติกรรมของเด็กๆ เปลี่ยนไป พวกเขามักจะเก็บตัวอยู่ในบ้าน อยู่กับบรรดาเครื่องมือเทคโนโลยีมากมาย ซึ่งเป็นที่มาของการติดเกม ติดคอมพิวเตอร์ ติดสมาร์ทโฟน ฯลฯ
ขอนำข้อมูลที่น่าสนใจมาตอกย้ำอีกครั้งจาก The American College of Sports Medicine, The International Council of Science & Physical Education ที่ทำการศึกษาวิจัยร่วมกับค่ายกีฬา NIKE ว่า สาเหตุหลักของการเสียชีวิตของมนุษย์ เกิดจากการเสื่อมสมรรถนะทางร่างกาย และ 5 อันดับโรคที่คร่าชีวิตมนุษย์ไปกว่า 6.2 หมื่นล้านคน ก็เป็นผลมาจากร่างกายที่ไม่มีประสิทธิภาพ โดยที่ในช่วง 10 ขวบแรกของชีวิต จะเป็นช่วงสร้างรากฐานความแข็งแรงให้แก่ร่างกายในช่วงต่อไปของชีวิต แต่ด้วยเทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวกในโลกยุคดิจิตอล ทำให้วัยเด็กตอนต้นมีกิจกรรมที่ใช้การเคลื่อนไหวของร่างกายน้อยลง เช่น การดูทีวี เล่นอินเทอร์เน็ต
นอกจากนี้ เด็กๆ ยุคใหม่ยังให้ความสนใจในกิจกรรมกีฬาน้อยลง โดยหันไปสนใจเกมหรือกีฬาที่อยู่ในรูปแบบของเกมคอมพิวเตอร์แทน
จากข้อมูลพบว่า เด็กวัย 9 - 15 ปี ในอเมริกามีกิจกรรมที่ใช้ร่างกายน้อยลงถึง 50 - 75% และเด็กกว่า 92% ในจีน ไม่มีกิจกรรมที่ใช้ร่างกายเลยเมื่ออยู่นอกโรงเรียน การศึกษาวิจัยยังวิเคราะห์ถึงผลกระทบเมื่อเด็กมีกิจกรรมทางด้านร่างกายน้อยลง ทั้งการเรียน สังคม การดำรงชีวิต การเงิน ไปจนถึงอนาคตที่อาจมีผลถึงการเจ็บป่วย จึงทำให้เด็กในรุ่นนี้มีอายุขัยเฉลี่ยน้อยกว่ารุ่นพ่อแม่ถึง 5 ปี
ในขณะที่รุ่นพ่อแม่ของเรามีแนวโน้มที่จะมีอายุขัยที่มากขึ้น เนื่องเพราะจากการดูแลและใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น คนรุ่นพ่อแม่ของเราหันมาออกกำลังกายและใส่ใจเรื่องอาหารสุขภาพมากขึ้น
ซึ่งตรงข้ามกับไลฟ์สไตล์ของเด็กรุ่นใหม่โดยสิ้นเชิง
ความจริงประโยชน์ของกีฬามีมากมายบรรยายไม่หมดจริงๆ ที่ดิฉันหยิบตัวอย่างของกีฬาซีเกมส์ส่วนหนึ่งซึ่งเป็นส่วนใหญ่เป็นผู้ชมผู้เชียร์ เรายังมีความสุข สนุกเพลิดเพลินที่ได้ดู
แต่ที่จริงถ้าเราออกแบบโจทย์ประเทศสนับสนุนให้คนในชาติรักกีฬา รักการออกกำลังกาย สนับสนุนให้คนในชาติหันมาออกกำลังกายและเล่นกีฬามากขึ้น เชื่อไหม..ว่าสามารถแก้ปัญหาชาติได้มากมายทีเดียว
เด็กที่ได้รับการปลูกฝังและส่งเสริมให้เล่นกีฬาตั้งแต่เล็ก และมีความต่อเนื่องมาโดยตลอด ส่วนใหญ่จะเติบโตขึ้นไปเห็นความสำคัญของสุขภาพร่างกาย จะใส่ใจเรื่องอาหารการกินมากขึ้น และจะดูแลสุขภาพมากขึ้น ที่สำคัญจะพยายามหาเวลาออกกำลังกายจนได้
ฉะนั้น เรื่องการสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนเข้าสู่โลกแห่งกีฬาอย่างสร้างสรรค์ น่าจะเป็นเป้ากลยุทธ์ที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของวัยรุ่นในยุคนี้ เพราะทุกวันนี้ มีสิ่งล่อตาล่อใจ รวมถึงแหล่งอบายมุขมากมายที่พร้อมจะล่อให้เด็กและเยาวชนตกเข้าไปในบ่วงมาร
ในขณะที่ถ้าเราปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนเล่นกีฬา นอกจากจะปลูกฝังให้เด็กได้ทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ ยังสามารถใส่ทักษะความเป็นนักกีฬา ให้รู้จักการแพ้ชนะ เรียนรู้เกมกีฬาในมิติสุภาพบุรุษ สุภาพสตรี ก็จะนำไปสู่การเรียนรู้ชีวิตในมิติอื่นๆ ได้ด้วย
และเมื่อร่างกายแข็งแรง สมองปลอดโปร่ง การรังสรรค์งานดีๆ ก็เกิดขึ้น เท่ากับช่วยสังคมได้ด้วย
แต่สิ่งที่สำคัญต้องมีนโยบายช่วยกระตุ้นให้เด็กและเยาวชนหันมาเล่นกีฬาและออกกำลังกายด้วย
ข้อแรกสร้างพื้นที่สาธารณะที่ดี
ถึงเวลาแล้วที่ภาครัฐต้องหันมาใส่ใจเรื่องพื้นที่ดี พื้นที่สาธารณะสำหรับเด็กและเยาวชนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในเวลานี้เพื่อให้เด็ก ๆ ได้มีพื้นที่ดีในการออกกำลังกาย มีสนามกีฬากระจายไปทุกพื้นที่ ให้ทุกชุมชนได้มีส่วนร่วม ซึ่งเท่ากับเป็นการสนับสนุนให้เกิดชุมชนคนรักกีฬาในแต่ละพื้นที่
ที่ผ่านมา เมื่อพื้นที่สาธารณะไม่เพียงพอ เด็กและเยาวชนก็ต้องไปหาพื้นที่โล่งกว้าง ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นพื้นที่เขตก่อสร้าง หรือพื้นที่ใกล้ถนนหนทาง ซึ่งต้องถือว่าเป็นเขตไม่ปลอดภัย บรรดาพ่อแม่ที่มีลูกเล็กก็ไม่กล้าปล่อยให้ไปเล่นในบริเวณดังกล่าว
ข้อที่สองจัดศูนย์กีฬาชุมชนให้มีประสิทธิภาพ
ปัจจุบันมีศูนย์กีฬาอยู่มากมายกระจายไปหลายพื้นที่ แต่ก็ไม่ค่อยได้ถูกใช้ประโยชน์จริง ไม่ได้รับการดูแล และไม่ได้มาตราฐาน ทำให้ผู้คนไม่ค่อยได้ไปใช้ประโยชน์ บางแห่งกลายเป็นแหล่งมั่วสุมไปอีกต่างหาก ฉะนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเริ่มจากสิ่งที่มีอยู่ แล้วพัฒนาให้มันเกิดประโยชน์และสามารถใช้งานได้จริง
ข้อที่สามให้ความสำคัญในหลักสูตร
ระบบโครงสร้างการศึกษาบ้านเราไม่เอื้อหรือไม่สนับสนุนให้เด็กๆ เข้าสู่โลกแห่งกีฬาเท่าที่ควร เป็นเพียงการให้เด็กเข้าไปแตะถึงกีฬาแต่ละประเภทอย่างน้อยนิด หรือเพียงให้รู้ว่ามีกีฬาชนิดนี้ในโลกใบนี้ แต่ไม่ได้ส่งเสริม หรือให้เด็กได้เรียนรู้ว่าเขาชอบหรือเหมาะกับกีฬาประเภทไหน
ส่วนใหญ่รูปแบบกีฬาในโรงเรียนจะถูกออกแบบในหลักสูตรหนึ่งเทอมก็จะมีหนึ่งชนิดกีฬา เรียนสัปดาห์ละวัน สัปดาห์ไหนครูพละไม่อยู่ สัปดาห์นั้นก็งดเรียน สุดท้ายเด็กก็ไม่สนใจวิชานี้เท่าใดนัก
ข้อที่สี่โรงเรียนต้องมีพื้นที่เล่นกีฬา
โรงเรียนในยุคสมัยนี้เน้นเรื่องอาคารเรียนเป็นสำคัญ เน้นไปทางตัวตึกซะเป็นส่วนใหญ่ อย่าว่าแต่พื้นที่สนามให้เด็กได้วิ่งเล่นออกกำลังกายเลย พื้นที่สำหรับต้นไม้ใหญ่ก็แทบไม่เหลือ โรงเรียนบางแห่งมีจำนวนนักเรียนหลายพันคน แต่มีสนามกีฬาแห่งเดียวเล่นทุกชนิดกีฬา จึงทำให้ต้องเกิดระบบแย่งกันจองพื้นที่เพื่อที่จะได้เล่นกีฬา ใครเบื่อหน่ายขี้เกียจต้องแย่งกันจองพื้นที่ก็เลิกเล่นกีฬาไปโดยปริยาย
ถึงเวลาที่ควรมีข้อบังคับโรงเรียนในการกำหนดจำนวนนักเรียนให้สัมพันธ์กับพื้นที่สำหรับให้เด็กเล่นกีฬาได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีนโยบายมาช่วยเหลือ สิ่งสำคัญก็ต้องเริ่มต้นจากพ่อแม่ก่อน
ประการแรกเป็นแบบอย่าง
เริ่มจากพ่อแม่ต้องลุกขึ้นมาเล่นกีฬาเป็นแบบอย่าง ถือโอกาสปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองไปเลย ใช้ความรักที่มีต่อลูก ด้วยการทำเพื่อลูกแต่ตัวเองก็ได้ด้วย
ประการที่สองเลือกชนิดกีฬาโปรดให้ได้
ชักจูงลูกเล่นกีฬาให้ได้หนึ่งอย่าง ในที่นี้คือให้ลูกได้ลองเล่นกีฬาหลากหลายชนิด แต่ให้สังเกตว่าลูกถนัดกีฬาชนิดไหน หรือชอบเล่นกีฬาประเภทไหนมากเป็นพิเศษ และพ่อแม่ก็ส่งเสริมสนับสนุนกีฬาชนิดนั้น เพราะการให้เขาได้เล่นกีฬาที่เขาถนัดหรือชอบจะทำให้เขาเล่นติดตัวไปจนโต
ประการที่สามอดทนและสม่ำเสมอ
พ่อแม่ผู้ปกครองต้องทำเป็นประจำ ต้องอดทนและสม่ำเสมอจึงจะได้ผล แรกเริ่มอาจจะลำบาก แต่ถ้าเรากำหนดให้เป็นกิจกรรมสำหรับครอบครัวทุกสัปดาห์ก็ได้ เด็กๆ ก็จะเรียนรู้เรื่องกฎกติกา การมีวินัย และได้ออกกำลังกายแบบสม่ำเสมอด้วย เรื่องนี้อยู่ที่การให้ความสำคัญจริงๆ ค่ะ
ประการที่สี่ต้องไม่ให้เรื่องเรียนมาเป็นอุปสรรค
อุปสรรคอีกประการก็คือพ่อแม่มักมีทัศนคติว่าเรื่องเรียนวิชาการสำคัญกว่า ช่วงนี้ใกล้สอบ งดออกกำลังกาย หรือให้หยุดเล่นกีฬาเพื่อดูหนังสือเรียน เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำยิ่งนัก แท้จริงแล้ว การเล่นกีฬาช่วยผ่อนคลายสมอง จากการอ่านหนังสือ เมื่อออกกำลังกายทำให้ร่างกายสดชื่น สมองปลอดโปร่ง สามารถเรียนรู้ได้ดีอีกต่างหาก
ประโยชน์ที่นอกเหนือจากร่างกายที่ดีแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดที่อยากจะเน้นก็คือสัมพันธภาพภายในครอบครัว กิจกรรมที่ได้ทำร่วมกัน การเล่นกีฬาร่วมกัน ทำให้เราได้พัฒนาทักษะชีวิตได้มากมายเหลือเกิน ที่สำคัญสามารถป้องกันพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมได้อีกมากมายจากการที่ให้ลูกรักการกีฬา
เริ่มต้นให้ลูกสัมผัสกีฬาและออกกำลังกายเพื่อสร้างภูมิต้านทานชีวิตกันเถอะค่ะ
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
ช่วงเวลาที่มีการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ เป็นช่วงเวลาที่หลอมรวมใจของคนไทย ทั้งที่อยู่ในและต่างประเทศที่พร้อมใจกันเชียร์ทัพนักกีฬาไทย และมีความสุขทุกครั้งที่ได้ยินเสียงเพลงชาติไทย พร้อมกับการเชิญธงขึ้นเสา เมื่อนักกีฬาไทยได้เหรียญทอง
ความจริงแทบไม่ต้องสาธยายถึงประโยชน์ที่ได้จากกีฬาเลย แม้แต่คนดูกีฬาก็ยังได้ประโยชน์เลย
แต่ในความเป็นจริง เรากลับพบว่า เด็กรุ่นนี้และรุ่นหน้ามีแนวโน้มไม่ได้เล่นกีฬา หรือออกกำลังกายโดยเฉพาะกลางแจ้งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องเพราะวิถีชีวิตของเด็กและเยาวชนเปลี่ยนไปมาก
ไลฟ์สไตล์ของเด็กจำนวนมากถูกกำหนดโดยโลกแห่งเทคโนโลยี เด็กจะหมกอยู่กับเครื่องมือสื่อสารเทคโนโลยีที่มีอยู่รอบตัวทั้งที่บ้าน โรงเรียน ชุมชน และกับตัวเอง ทำให้พฤติกรรมของเด็กๆ เปลี่ยนไป พวกเขามักจะเก็บตัวอยู่ในบ้าน อยู่กับบรรดาเครื่องมือเทคโนโลยีมากมาย ซึ่งเป็นที่มาของการติดเกม ติดคอมพิวเตอร์ ติดสมาร์ทโฟน ฯลฯ
ขอนำข้อมูลที่น่าสนใจมาตอกย้ำอีกครั้งจาก The American College of Sports Medicine, The International Council of Science & Physical Education ที่ทำการศึกษาวิจัยร่วมกับค่ายกีฬา NIKE ว่า สาเหตุหลักของการเสียชีวิตของมนุษย์ เกิดจากการเสื่อมสมรรถนะทางร่างกาย และ 5 อันดับโรคที่คร่าชีวิตมนุษย์ไปกว่า 6.2 หมื่นล้านคน ก็เป็นผลมาจากร่างกายที่ไม่มีประสิทธิภาพ โดยที่ในช่วง 10 ขวบแรกของชีวิต จะเป็นช่วงสร้างรากฐานความแข็งแรงให้แก่ร่างกายในช่วงต่อไปของชีวิต แต่ด้วยเทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวกในโลกยุคดิจิตอล ทำให้วัยเด็กตอนต้นมีกิจกรรมที่ใช้การเคลื่อนไหวของร่างกายน้อยลง เช่น การดูทีวี เล่นอินเทอร์เน็ต
นอกจากนี้ เด็กๆ ยุคใหม่ยังให้ความสนใจในกิจกรรมกีฬาน้อยลง โดยหันไปสนใจเกมหรือกีฬาที่อยู่ในรูปแบบของเกมคอมพิวเตอร์แทน
จากข้อมูลพบว่า เด็กวัย 9 - 15 ปี ในอเมริกามีกิจกรรมที่ใช้ร่างกายน้อยลงถึง 50 - 75% และเด็กกว่า 92% ในจีน ไม่มีกิจกรรมที่ใช้ร่างกายเลยเมื่ออยู่นอกโรงเรียน การศึกษาวิจัยยังวิเคราะห์ถึงผลกระทบเมื่อเด็กมีกิจกรรมทางด้านร่างกายน้อยลง ทั้งการเรียน สังคม การดำรงชีวิต การเงิน ไปจนถึงอนาคตที่อาจมีผลถึงการเจ็บป่วย จึงทำให้เด็กในรุ่นนี้มีอายุขัยเฉลี่ยน้อยกว่ารุ่นพ่อแม่ถึง 5 ปี
ในขณะที่รุ่นพ่อแม่ของเรามีแนวโน้มที่จะมีอายุขัยที่มากขึ้น เนื่องเพราะจากการดูแลและใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น คนรุ่นพ่อแม่ของเราหันมาออกกำลังกายและใส่ใจเรื่องอาหารสุขภาพมากขึ้น
ซึ่งตรงข้ามกับไลฟ์สไตล์ของเด็กรุ่นใหม่โดยสิ้นเชิง
ความจริงประโยชน์ของกีฬามีมากมายบรรยายไม่หมดจริงๆ ที่ดิฉันหยิบตัวอย่างของกีฬาซีเกมส์ส่วนหนึ่งซึ่งเป็นส่วนใหญ่เป็นผู้ชมผู้เชียร์ เรายังมีความสุข สนุกเพลิดเพลินที่ได้ดู
แต่ที่จริงถ้าเราออกแบบโจทย์ประเทศสนับสนุนให้คนในชาติรักกีฬา รักการออกกำลังกาย สนับสนุนให้คนในชาติหันมาออกกำลังกายและเล่นกีฬามากขึ้น เชื่อไหม..ว่าสามารถแก้ปัญหาชาติได้มากมายทีเดียว
เด็กที่ได้รับการปลูกฝังและส่งเสริมให้เล่นกีฬาตั้งแต่เล็ก และมีความต่อเนื่องมาโดยตลอด ส่วนใหญ่จะเติบโตขึ้นไปเห็นความสำคัญของสุขภาพร่างกาย จะใส่ใจเรื่องอาหารการกินมากขึ้น และจะดูแลสุขภาพมากขึ้น ที่สำคัญจะพยายามหาเวลาออกกำลังกายจนได้
ฉะนั้น เรื่องการสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนเข้าสู่โลกแห่งกีฬาอย่างสร้างสรรค์ น่าจะเป็นเป้ากลยุทธ์ที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของวัยรุ่นในยุคนี้ เพราะทุกวันนี้ มีสิ่งล่อตาล่อใจ รวมถึงแหล่งอบายมุขมากมายที่พร้อมจะล่อให้เด็กและเยาวชนตกเข้าไปในบ่วงมาร
ในขณะที่ถ้าเราปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนเล่นกีฬา นอกจากจะปลูกฝังให้เด็กได้ทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ ยังสามารถใส่ทักษะความเป็นนักกีฬา ให้รู้จักการแพ้ชนะ เรียนรู้เกมกีฬาในมิติสุภาพบุรุษ สุภาพสตรี ก็จะนำไปสู่การเรียนรู้ชีวิตในมิติอื่นๆ ได้ด้วย
และเมื่อร่างกายแข็งแรง สมองปลอดโปร่ง การรังสรรค์งานดีๆ ก็เกิดขึ้น เท่ากับช่วยสังคมได้ด้วย
แต่สิ่งที่สำคัญต้องมีนโยบายช่วยกระตุ้นให้เด็กและเยาวชนหันมาเล่นกีฬาและออกกำลังกายด้วย
ข้อแรกสร้างพื้นที่สาธารณะที่ดี
ถึงเวลาแล้วที่ภาครัฐต้องหันมาใส่ใจเรื่องพื้นที่ดี พื้นที่สาธารณะสำหรับเด็กและเยาวชนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในเวลานี้เพื่อให้เด็ก ๆ ได้มีพื้นที่ดีในการออกกำลังกาย มีสนามกีฬากระจายไปทุกพื้นที่ ให้ทุกชุมชนได้มีส่วนร่วม ซึ่งเท่ากับเป็นการสนับสนุนให้เกิดชุมชนคนรักกีฬาในแต่ละพื้นที่
ที่ผ่านมา เมื่อพื้นที่สาธารณะไม่เพียงพอ เด็กและเยาวชนก็ต้องไปหาพื้นที่โล่งกว้าง ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นพื้นที่เขตก่อสร้าง หรือพื้นที่ใกล้ถนนหนทาง ซึ่งต้องถือว่าเป็นเขตไม่ปลอดภัย บรรดาพ่อแม่ที่มีลูกเล็กก็ไม่กล้าปล่อยให้ไปเล่นในบริเวณดังกล่าว
ข้อที่สองจัดศูนย์กีฬาชุมชนให้มีประสิทธิภาพ
ปัจจุบันมีศูนย์กีฬาอยู่มากมายกระจายไปหลายพื้นที่ แต่ก็ไม่ค่อยได้ถูกใช้ประโยชน์จริง ไม่ได้รับการดูแล และไม่ได้มาตราฐาน ทำให้ผู้คนไม่ค่อยได้ไปใช้ประโยชน์ บางแห่งกลายเป็นแหล่งมั่วสุมไปอีกต่างหาก ฉะนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเริ่มจากสิ่งที่มีอยู่ แล้วพัฒนาให้มันเกิดประโยชน์และสามารถใช้งานได้จริง
ข้อที่สามให้ความสำคัญในหลักสูตร
ระบบโครงสร้างการศึกษาบ้านเราไม่เอื้อหรือไม่สนับสนุนให้เด็กๆ เข้าสู่โลกแห่งกีฬาเท่าที่ควร เป็นเพียงการให้เด็กเข้าไปแตะถึงกีฬาแต่ละประเภทอย่างน้อยนิด หรือเพียงให้รู้ว่ามีกีฬาชนิดนี้ในโลกใบนี้ แต่ไม่ได้ส่งเสริม หรือให้เด็กได้เรียนรู้ว่าเขาชอบหรือเหมาะกับกีฬาประเภทไหน
ส่วนใหญ่รูปแบบกีฬาในโรงเรียนจะถูกออกแบบในหลักสูตรหนึ่งเทอมก็จะมีหนึ่งชนิดกีฬา เรียนสัปดาห์ละวัน สัปดาห์ไหนครูพละไม่อยู่ สัปดาห์นั้นก็งดเรียน สุดท้ายเด็กก็ไม่สนใจวิชานี้เท่าใดนัก
ข้อที่สี่โรงเรียนต้องมีพื้นที่เล่นกีฬา
โรงเรียนในยุคสมัยนี้เน้นเรื่องอาคารเรียนเป็นสำคัญ เน้นไปทางตัวตึกซะเป็นส่วนใหญ่ อย่าว่าแต่พื้นที่สนามให้เด็กได้วิ่งเล่นออกกำลังกายเลย พื้นที่สำหรับต้นไม้ใหญ่ก็แทบไม่เหลือ โรงเรียนบางแห่งมีจำนวนนักเรียนหลายพันคน แต่มีสนามกีฬาแห่งเดียวเล่นทุกชนิดกีฬา จึงทำให้ต้องเกิดระบบแย่งกันจองพื้นที่เพื่อที่จะได้เล่นกีฬา ใครเบื่อหน่ายขี้เกียจต้องแย่งกันจองพื้นที่ก็เลิกเล่นกีฬาไปโดยปริยาย
ถึงเวลาที่ควรมีข้อบังคับโรงเรียนในการกำหนดจำนวนนักเรียนให้สัมพันธ์กับพื้นที่สำหรับให้เด็กเล่นกีฬาได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีนโยบายมาช่วยเหลือ สิ่งสำคัญก็ต้องเริ่มต้นจากพ่อแม่ก่อน
ประการแรกเป็นแบบอย่าง
เริ่มจากพ่อแม่ต้องลุกขึ้นมาเล่นกีฬาเป็นแบบอย่าง ถือโอกาสปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองไปเลย ใช้ความรักที่มีต่อลูก ด้วยการทำเพื่อลูกแต่ตัวเองก็ได้ด้วย
ประการที่สองเลือกชนิดกีฬาโปรดให้ได้
ชักจูงลูกเล่นกีฬาให้ได้หนึ่งอย่าง ในที่นี้คือให้ลูกได้ลองเล่นกีฬาหลากหลายชนิด แต่ให้สังเกตว่าลูกถนัดกีฬาชนิดไหน หรือชอบเล่นกีฬาประเภทไหนมากเป็นพิเศษ และพ่อแม่ก็ส่งเสริมสนับสนุนกีฬาชนิดนั้น เพราะการให้เขาได้เล่นกีฬาที่เขาถนัดหรือชอบจะทำให้เขาเล่นติดตัวไปจนโต
ประการที่สามอดทนและสม่ำเสมอ
พ่อแม่ผู้ปกครองต้องทำเป็นประจำ ต้องอดทนและสม่ำเสมอจึงจะได้ผล แรกเริ่มอาจจะลำบาก แต่ถ้าเรากำหนดให้เป็นกิจกรรมสำหรับครอบครัวทุกสัปดาห์ก็ได้ เด็กๆ ก็จะเรียนรู้เรื่องกฎกติกา การมีวินัย และได้ออกกำลังกายแบบสม่ำเสมอด้วย เรื่องนี้อยู่ที่การให้ความสำคัญจริงๆ ค่ะ
ประการที่สี่ต้องไม่ให้เรื่องเรียนมาเป็นอุปสรรค
อุปสรรคอีกประการก็คือพ่อแม่มักมีทัศนคติว่าเรื่องเรียนวิชาการสำคัญกว่า ช่วงนี้ใกล้สอบ งดออกกำลังกาย หรือให้หยุดเล่นกีฬาเพื่อดูหนังสือเรียน เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำยิ่งนัก แท้จริงแล้ว การเล่นกีฬาช่วยผ่อนคลายสมอง จากการอ่านหนังสือ เมื่อออกกำลังกายทำให้ร่างกายสดชื่น สมองปลอดโปร่ง สามารถเรียนรู้ได้ดีอีกต่างหาก
ประโยชน์ที่นอกเหนือจากร่างกายที่ดีแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดที่อยากจะเน้นก็คือสัมพันธภาพภายในครอบครัว กิจกรรมที่ได้ทำร่วมกัน การเล่นกีฬาร่วมกัน ทำให้เราได้พัฒนาทักษะชีวิตได้มากมายเหลือเกิน ที่สำคัญสามารถป้องกันพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมได้อีกมากมายจากการที่ให้ลูกรักการกีฬา
เริ่มต้นให้ลูกสัมผัสกีฬาและออกกำลังกายเพื่อสร้างภูมิต้านทานชีวิตกันเถอะค่ะ
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่