ปลัด ศธ. มอบการบ้าน ศธภ. คิดโครงการ เพิ่มขีดความสามารถในการทำงาน พร้อมเน้นย้ำเดินหน้าปฏิรูปการศึกษา
รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายการหลังประชุมร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการสำนักงานปลัด ศธ. และผู้อำนวยการสำนักงานศึกษาธิการภาค (ศธภ.) 13 ภาค ว่า ตนได้กำชับให้หัวหน้าส่วนราชการ และผู้อำนวยการ ศธภ. เร่งดำเนินการเดินหน้าผลักดันงานต่างๆ เพื่อพัฒนาการศึกษา และเดินหน้าในเรื่องการปฏิรูปการศึกษาให้ประสบความสำเร็จ โดยขอให้ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับหน่วยงานของตนเอง และ ศธ. รวมทั้งขอให้ข้าราชการทุกคนมีจิตสำนึก และให้ความสำคัญกับการบริการประชาชน ซึ่งรวมถึงนักเรียน นักศึกษาที่อยู่ในความดูแลของ ศธ. ด้วย ทั้งนี้ นอกจากการปฏิบัติหน้าที่ที่ดำเนินการอยู่ให้ดีแล้ว ตนยังขอให้แต่ละส่วนราชการไปคิดโครงการที่จะปรับเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการประชาชนได้มาขึ้นมา อีกคนละ 1 โครงการ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการทำงานของแต่ละหน่วยงานให้มากขึ้น ซึ่งหากดูจากตัวชี้วัดด้านงบประมาณการจัดการศึกษาของประเทศไทย ในมุมมองของต่างประเทศ ได้ผลตอบรับค่อนข้างดี เพราะมีการลงทุนด้านการศึกษาค่อนข้างสูง แต่ต้องปรับปรุงเรื่องคุณภาพในการจัดการศึกษา ซึ่งตนก็ได้ขอให้ทุกหน่วยงานร่วมแรงร่วมใจ เพื่อพัฒนาการจัดการศึกษาให้เห็นผลในทางปฏิบัติให้มากขึ้น
“ในที่ประชุมผมยังได้กำชับด้วยว่าต่อไป ศธ. จะต้องปราศจากปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน หรือ ถ้ารู้ว่าใครกระทำการทุจริต ก็สามารถให้เบาะแส หรือแจ้งมาได้ที่ผมโดยตรง และได้ย้ำชัดเจนในที่ประชุมว่า ถ้าใครทำเรื่องทุจริต ผมจะไม่ช่วยใครทั้งนั้น และจะไม่ทำไปตามน้ำ ไม่ต้องมาจ่ายค่าน้ำร้อนน้ำชา” รศ.นพ.กำจร กล่าวและว่า ส่วน ศธภ. ทั้ง 13 ภาคก็ขอให้ไปดูการดำเนินงานเพื่อเตรียมจัดตั้งศูนย์รวบรวมข้อมูลด้านการศึกษาทั่วประเทศ
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายการหลังประชุมร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการสำนักงานปลัด ศธ. และผู้อำนวยการสำนักงานศึกษาธิการภาค (ศธภ.) 13 ภาค ว่า ตนได้กำชับให้หัวหน้าส่วนราชการ และผู้อำนวยการ ศธภ. เร่งดำเนินการเดินหน้าผลักดันงานต่างๆ เพื่อพัฒนาการศึกษา และเดินหน้าในเรื่องการปฏิรูปการศึกษาให้ประสบความสำเร็จ โดยขอให้ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับหน่วยงานของตนเอง และ ศธ. รวมทั้งขอให้ข้าราชการทุกคนมีจิตสำนึก และให้ความสำคัญกับการบริการประชาชน ซึ่งรวมถึงนักเรียน นักศึกษาที่อยู่ในความดูแลของ ศธ. ด้วย ทั้งนี้ นอกจากการปฏิบัติหน้าที่ที่ดำเนินการอยู่ให้ดีแล้ว ตนยังขอให้แต่ละส่วนราชการไปคิดโครงการที่จะปรับเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการประชาชนได้มาขึ้นมา อีกคนละ 1 โครงการ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการทำงานของแต่ละหน่วยงานให้มากขึ้น ซึ่งหากดูจากตัวชี้วัดด้านงบประมาณการจัดการศึกษาของประเทศไทย ในมุมมองของต่างประเทศ ได้ผลตอบรับค่อนข้างดี เพราะมีการลงทุนด้านการศึกษาค่อนข้างสูง แต่ต้องปรับปรุงเรื่องคุณภาพในการจัดการศึกษา ซึ่งตนก็ได้ขอให้ทุกหน่วยงานร่วมแรงร่วมใจ เพื่อพัฒนาการจัดการศึกษาให้เห็นผลในทางปฏิบัติให้มากขึ้น
“ในที่ประชุมผมยังได้กำชับด้วยว่าต่อไป ศธ. จะต้องปราศจากปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน หรือ ถ้ารู้ว่าใครกระทำการทุจริต ก็สามารถให้เบาะแส หรือแจ้งมาได้ที่ผมโดยตรง และได้ย้ำชัดเจนในที่ประชุมว่า ถ้าใครทำเรื่องทุจริต ผมจะไม่ช่วยใครทั้งนั้น และจะไม่ทำไปตามน้ำ ไม่ต้องมาจ่ายค่าน้ำร้อนน้ำชา” รศ.นพ.กำจร กล่าวและว่า ส่วน ศธภ. ทั้ง 13 ภาคก็ขอให้ไปดูการดำเนินงานเพื่อเตรียมจัดตั้งศูนย์รวบรวมข้อมูลด้านการศึกษาทั่วประเทศ
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่