กรมแพทย์แผนไทย ชี้ ใบทุเรียนเทศมีทั้งประโยชน์และโทษ กินใบสดเกิดพิษ ทำสมองเสื่อม พบต้านมะเร็งได้ แต่ไม่สามารถทำเป็นยาสูตรเดี่ยว
นพ.ธวัชชัย กมลธรรม อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการเผยแพร่สูตรน้ำต้มใบทุเรียนเทศเพื่อรักษาโรคมะเร็งนั้น จากงานวิจัยของกรมฯ มีการวิเคราะห์ถึงประโยชน์มาอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่า ใบทุเรียนเทศนั้นมีทั้งประโยชน์และโทษ คือ หากกินใบสดจะทำให้เกิดพิษและอาจทำให้เกิดกลุ่มโรคสมองเสื่อมได้ ส่วนประโยชน์นั้นทางวิทยาศาสตร์ตรวจสอบพบการต้านพิษของมะเร็งได้ แต่ไม่สามารถนำมาเป็นยาสูตรเดี่ยวได้ ต้องเป็นสารประกอบกับสารตัวอื่น ส่วนการกินสดนั้น ยังไม่มีงานวิจัยรองรับและต้องคำนึงถึงปริมาณสารที่จะได้รับ
นพ.ธวัชชัย กล่าวว่า ยาสมุนไพรนั้น พบว่ามีฤทธิ์ต้านมะเร็งหลายชนิด โดยเฉพาะประเภทที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงๆ แต่สิ่งสำคัญที่สุดนอกเหนือจากชนิดของสมุนไพรที่มีฤทธิ์ คือ ปริมาณของสารสำคัญที่เพียงพอต่อการกำจัดเซลล์มะเร็ง ซึ่งการหาค่าดังกล่าวเป็นสิ่งจำเป็น หากต้องใช้ปริมาณสารสูงมาก ก็จะทำลายเนื้อเยื่อและเซลล์ที่ดีในร่างกายไปด้วย คล้ายกับการทำคีโมที่ทราบแน่ชัดว่าสามารถทำลายเซลล์มะเร็งได้ แต่ก็ทำลายเซลล์ดีไปด้วย การวิจัยหาค่าปริมาณสารสำคัญจึงเป็นสิ่งที่จะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการกำจัดเซลล์ และไม่ถูกทำลายเซลล์ที่ดีไปด้วย ซึ่งปัจจุบันกรมแพทย์แผนไทยฯ ได้เร่งศึกษาและรวบรวมตำรับยา ในปีนี้ได้แล้ว 6 ตำรับ และจะเผยแพร่ให้ภาคธุรกิจได้นำไปต่อยอดการผลิตและต้องขออนุญาต และขึ้นทะเบียนกับกรมก่อน เพื่อให้ตำรับแพทย์แผนไทยได้รับการพัฒนาต่อไป
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.ธวัชชัย กมลธรรม อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการเผยแพร่สูตรน้ำต้มใบทุเรียนเทศเพื่อรักษาโรคมะเร็งนั้น จากงานวิจัยของกรมฯ มีการวิเคราะห์ถึงประโยชน์มาอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่า ใบทุเรียนเทศนั้นมีทั้งประโยชน์และโทษ คือ หากกินใบสดจะทำให้เกิดพิษและอาจทำให้เกิดกลุ่มโรคสมองเสื่อมได้ ส่วนประโยชน์นั้นทางวิทยาศาสตร์ตรวจสอบพบการต้านพิษของมะเร็งได้ แต่ไม่สามารถนำมาเป็นยาสูตรเดี่ยวได้ ต้องเป็นสารประกอบกับสารตัวอื่น ส่วนการกินสดนั้น ยังไม่มีงานวิจัยรองรับและต้องคำนึงถึงปริมาณสารที่จะได้รับ
นพ.ธวัชชัย กล่าวว่า ยาสมุนไพรนั้น พบว่ามีฤทธิ์ต้านมะเร็งหลายชนิด โดยเฉพาะประเภทที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงๆ แต่สิ่งสำคัญที่สุดนอกเหนือจากชนิดของสมุนไพรที่มีฤทธิ์ คือ ปริมาณของสารสำคัญที่เพียงพอต่อการกำจัดเซลล์มะเร็ง ซึ่งการหาค่าดังกล่าวเป็นสิ่งจำเป็น หากต้องใช้ปริมาณสารสูงมาก ก็จะทำลายเนื้อเยื่อและเซลล์ที่ดีในร่างกายไปด้วย คล้ายกับการทำคีโมที่ทราบแน่ชัดว่าสามารถทำลายเซลล์มะเร็งได้ แต่ก็ทำลายเซลล์ดีไปด้วย การวิจัยหาค่าปริมาณสารสำคัญจึงเป็นสิ่งที่จะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการกำจัดเซลล์ และไม่ถูกทำลายเซลล์ที่ดีไปด้วย ซึ่งปัจจุบันกรมแพทย์แผนไทยฯ ได้เร่งศึกษาและรวบรวมตำรับยา ในปีนี้ได้แล้ว 6 ตำรับ และจะเผยแพร่ให้ภาคธุรกิจได้นำไปต่อยอดการผลิตและต้องขออนุญาต และขึ้นทะเบียนกับกรมก่อน เพื่อให้ตำรับแพทย์แผนไทยได้รับการพัฒนาต่อไป
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่