กลุ่มคนรักหลักประกันฯ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวปรับทัศนคติ “บิ๊กตู่” เสนอคนรวยสละสิทธิ์บัตรทองช่วยคนจน ไม่หวั่นถูกเรียกพบ บอกยินดีให้ข้อมูล ชี้ระบบบัตรทองไม่ใช่ระบบอนาถาเฉพาะคนจน แต่เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของคนไทยทุกคน ย้ำคนรวยป่วยโรครักษายาก ก็มีสิทธิล้มละลาย จี้พัฒนาระบบภายใต้งบที่มี ลดความเหลื่อมล้ำ
วันนี้ (27 เม.ย.) ที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ แถลงข่าวปรับทัศนคติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หลังกล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ เมื่อวันที่ 24 เม.ย. ที่ผ่านมา ที่ขอให้คนรวยเสียสละไม่ใช้สิทธิ์ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) เพื่อทำกุศลให้คนจน และให้สิทธิ์นี้มีไว้เพื่อคนจนเท่านั้น โดย นายจอน อึ๊งภากรณ์ ที่ปรึกษากลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ กล่าวว่า นายกฯ ออกมาพูดเช่นนี้ เพราะไม่เคยต้องมาใช้สิทธิบัตรทอง เลยไม่เข้าใจเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของคนไทยทุกคน ไม่ใช่สิทธิสงเคราะห์คนยากจน ถึงแม้จะเป็นคนรวยก็ตาม แต่หากต้องรักษาโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง ก็ทำให้กลายเป็นคนจนได้เหมือนกัน ดังนั้น ถ้าเอาคนรวยออกจากระบบจะทำให้งบค่าหัวผู้ป่วยส่วนหนึ่งหายไป ตรงนี้ที่จะทำให้ระบบลำบาก และขาดประสิทธิภาพ
“วันนี้งบรายหัวบัตรทองอยู่ที่ 3 พันกว่าบาท แต่ถูกนำมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ และครอบคลุมประชากรกว่า 49 ล้านคน ดีกว่าประกันสังคมถึง 5 เท่า ดังนั้น ถ้าจะพัฒนา หรือลดค่าใช้จ่ายจริงๆ ก็เอาข้าราชการมาอยู่ในสิทธิบัตรทองแทน ขณะเดียวกัน ก็ต้องทำให้งบที่มีอยู่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ลดความเหลื่อมล้ำ” นายจอน กล่าว
ด้าน นายนิมิตร์ เทียนอุดม ผอ.มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ กล่าวว่า ระบบบัตรทองประกันได้ว่าผู้ป่วยจะได้รับการรักษาโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ทั้งยังเป็นต้นแบบให้กับสิทธิอื่นๆ ทั้งประกันสังคม และสวัสดิการข้าราชการได้เดินตามทั้งเรื่องของสิทธิ สวัสดิการ และการชดเชยความเสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข ตามมาตรา 41 พ.ร.บ. หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ดังนั้น รัฐบาลต้องฉลาดและมีวิสัยทัศน์ในการบริหารงบที่มีอยู่อย่างจำกัดนี้ให้มีประสิทธิภาพ ต้องลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นให้ได้ อย่างไรก็ตาม เครือข่ายฯ คงไม่ไปยื่นหนังสือหรือดำเนินการใดๆ แค่อยากให้ทราบถึงแนวคิดของระบบ แต่หากนายกจะเรียกเครือข่ายฯ เข้าไปพูดคุยให้ข้อมูลก็ยินดี
น.ส.บุญยืน ศิริธรรม ประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค กล่าวว่า อย่ามองว่าระบบบัตรทองเป็นงานประชานิยมที่มีพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งเป็นคนดูแล แต่นี่คือสิทธิขั้นพื้นฐานของคนที่เสียภาษีทุกคน และเป็นเรื่องที่ผู้นำประเทศจะแก้ปัญหาให้ระบบมีประสิทธิภาพ มีมาตรฐาน ลดความเหลื่อมล้ำสร้างมาตรฐานเดียว ไม่ใช่มองแต่เรื่องเงิน สิ่งที่ต้องทำคือการส่งเสริมป้องกันโรคเพื่อลดปัญหาการเจ็บป่วย ลดการนอนโรงพยาบาล
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (27 เม.ย.) ที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ แถลงข่าวปรับทัศนคติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หลังกล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ เมื่อวันที่ 24 เม.ย. ที่ผ่านมา ที่ขอให้คนรวยเสียสละไม่ใช้สิทธิ์ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) เพื่อทำกุศลให้คนจน และให้สิทธิ์นี้มีไว้เพื่อคนจนเท่านั้น โดย นายจอน อึ๊งภากรณ์ ที่ปรึกษากลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ กล่าวว่า นายกฯ ออกมาพูดเช่นนี้ เพราะไม่เคยต้องมาใช้สิทธิบัตรทอง เลยไม่เข้าใจเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของคนไทยทุกคน ไม่ใช่สิทธิสงเคราะห์คนยากจน ถึงแม้จะเป็นคนรวยก็ตาม แต่หากต้องรักษาโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง ก็ทำให้กลายเป็นคนจนได้เหมือนกัน ดังนั้น ถ้าเอาคนรวยออกจากระบบจะทำให้งบค่าหัวผู้ป่วยส่วนหนึ่งหายไป ตรงนี้ที่จะทำให้ระบบลำบาก และขาดประสิทธิภาพ
“วันนี้งบรายหัวบัตรทองอยู่ที่ 3 พันกว่าบาท แต่ถูกนำมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ และครอบคลุมประชากรกว่า 49 ล้านคน ดีกว่าประกันสังคมถึง 5 เท่า ดังนั้น ถ้าจะพัฒนา หรือลดค่าใช้จ่ายจริงๆ ก็เอาข้าราชการมาอยู่ในสิทธิบัตรทองแทน ขณะเดียวกัน ก็ต้องทำให้งบที่มีอยู่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ลดความเหลื่อมล้ำ” นายจอน กล่าว
ด้าน นายนิมิตร์ เทียนอุดม ผอ.มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ กล่าวว่า ระบบบัตรทองประกันได้ว่าผู้ป่วยจะได้รับการรักษาโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ทั้งยังเป็นต้นแบบให้กับสิทธิอื่นๆ ทั้งประกันสังคม และสวัสดิการข้าราชการได้เดินตามทั้งเรื่องของสิทธิ สวัสดิการ และการชดเชยความเสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข ตามมาตรา 41 พ.ร.บ. หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ดังนั้น รัฐบาลต้องฉลาดและมีวิสัยทัศน์ในการบริหารงบที่มีอยู่อย่างจำกัดนี้ให้มีประสิทธิภาพ ต้องลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นให้ได้ อย่างไรก็ตาม เครือข่ายฯ คงไม่ไปยื่นหนังสือหรือดำเนินการใดๆ แค่อยากให้ทราบถึงแนวคิดของระบบ แต่หากนายกจะเรียกเครือข่ายฯ เข้าไปพูดคุยให้ข้อมูลก็ยินดี
น.ส.บุญยืน ศิริธรรม ประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค กล่าวว่า อย่ามองว่าระบบบัตรทองเป็นงานประชานิยมที่มีพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งเป็นคนดูแล แต่นี่คือสิทธิขั้นพื้นฐานของคนที่เสียภาษีทุกคน และเป็นเรื่องที่ผู้นำประเทศจะแก้ปัญหาให้ระบบมีประสิทธิภาพ มีมาตรฐาน ลดความเหลื่อมล้ำสร้างมาตรฐานเดียว ไม่ใช่มองแต่เรื่องเงิน สิ่งที่ต้องทำคือการส่งเสริมป้องกันโรคเพื่อลดปัญหาการเจ็บป่วย ลดการนอนโรงพยาบาล
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
