อย. ชี้สูตรกวนครีมกิโลผสมน้ำยาซักผ้าขาว - น้ำยาล้างห้องน้ำ ทำได้ยาก เหตุเคมีไม่เข้ากับเนื้อครีม และไม่คงตัวเมื่อถูกความร้อน เผยที่ผ่านมายังไม่มีการตรวจจับครีมดังกล่าวได้ เตือนอย่าหลงเชื่อเครื่องสำอางช่วยผิวขาว เหตุแค่ลอกผิวชั้นนอก ไม่ช่วยขาวถาวร

ภก.ประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และโฆษก อย. กล่าวถึงกรณีสังคมออนไลน์เผยแพร่ข้อมูลสูตรกวนครีมกิโลที่มีการลักลอบผสมน้ำยาซักผ้าขาว และน้ำยาล้างห้องน้ำ ว่า ประเด็นดังกล่าวมีการเผยแพร่มา 1 - 2 ปีแล้ว ซึ่ง อย. มีการเฝ้าระวังมาตลอด แต่ยังตรวจไม่พบผลิตภัณฑ์ลักษณะดังกล่าว ซึ่งที่จริงแล้วมีความเป็นไปได้น้อยที่จะเอามาต้มและกวนตามสูตร เพราะน้ำยาซักผ้าขาว มีสารออกฤทธิ์ คือ โซเดียมไฮโปคลอไรท์ และไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ส่วนน้ำยาล้างห้องน้ำ มีไฮโดรคลอริคแอซิด ซึ่งทั้งหมดเป็นกรดที่มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรง มีกลิ่นฉุน หากโดนผิวหนังจะทำให้ระคายเคือง แสบร้อน ผื่นแดง กัดจนผิวหนังเป็นแผล แต่ฤทธิ์ของเคมีไม่สามารถเข้ากับเนื้อครีมได้ และไม่คงตัวเมื่อถูกความร้อน
“สำหรับเครื่องสำอางที่มีสรรพคุณลักษณะคล้ายๆ ลอกเซลล์ผิวหนังด้านบนออก ส่วนใหญ่จะใช้เป็นกรดผลไม้ เป็นสารที่อนุญาตให้ใส่ได้ แต่การใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวควรปรึกษาแพทย์ สำหรับการโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณว่าทำให้ผิวขาวใสด้วยการลอกผิวนั้น แท้จริงแล้วเป็นเพียงการลอกผิวชั้นนอกออกไป ทำให้ดูขาวขึ้น แต่เม็ดสีจะอยู่ในผิวชั้นใน เมื่อเวลาผ่านไปสีผิวก็จะกลับมาเป็นเช่นเดิม จึงไม่ควรหลงเชื่อ เพราะไม่มีผลิตภัณฑ์ใดทำให้ผิวขาวขึ้นได้อย่างถาวร” รองเลขาธิการ อย. กล่าว
ภก.ประพนธ์ กล่าวว่า การมีสีผิวตามธรรมชาตินั้น เม็ดสีเมลานินจะทำหน้าที่ดูดกลืนรังสี UV เอาไว้ไม่ให้ผ่านมาทำอันตรายถึงผิวชั้นในและอวัยวะภายใน ทั้งยังช่วยป้องกันมะเร็งผิวหนัง และป้องกันใยคอลลาเจนไม่ให้ถูกทำลาย การทำให้ผิวขาวจะเป็นการกำจัดปริมาณเม็ดสี ซึ่งถือว่าเป็นเกราะคุ้มกันตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม หากตรวจพบมีการลักลอบใส่สารต้องห้าม จะต้องถูกระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท ส่วนการเลือกซื้อเครื่องสำอาง ควรเลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และสามารถตรวจสอบเลขที่ใบรับแจ้ง 10 หลักของเครื่องสำอางได้ทางเว็บไซต์ อย. www.fda.moph.go.th หรือที่ Oryor Smart Application
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
ภก.ประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และโฆษก อย. กล่าวถึงกรณีสังคมออนไลน์เผยแพร่ข้อมูลสูตรกวนครีมกิโลที่มีการลักลอบผสมน้ำยาซักผ้าขาว และน้ำยาล้างห้องน้ำ ว่า ประเด็นดังกล่าวมีการเผยแพร่มา 1 - 2 ปีแล้ว ซึ่ง อย. มีการเฝ้าระวังมาตลอด แต่ยังตรวจไม่พบผลิตภัณฑ์ลักษณะดังกล่าว ซึ่งที่จริงแล้วมีความเป็นไปได้น้อยที่จะเอามาต้มและกวนตามสูตร เพราะน้ำยาซักผ้าขาว มีสารออกฤทธิ์ คือ โซเดียมไฮโปคลอไรท์ และไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ส่วนน้ำยาล้างห้องน้ำ มีไฮโดรคลอริคแอซิด ซึ่งทั้งหมดเป็นกรดที่มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรง มีกลิ่นฉุน หากโดนผิวหนังจะทำให้ระคายเคือง แสบร้อน ผื่นแดง กัดจนผิวหนังเป็นแผล แต่ฤทธิ์ของเคมีไม่สามารถเข้ากับเนื้อครีมได้ และไม่คงตัวเมื่อถูกความร้อน
“สำหรับเครื่องสำอางที่มีสรรพคุณลักษณะคล้ายๆ ลอกเซลล์ผิวหนังด้านบนออก ส่วนใหญ่จะใช้เป็นกรดผลไม้ เป็นสารที่อนุญาตให้ใส่ได้ แต่การใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวควรปรึกษาแพทย์ สำหรับการโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณว่าทำให้ผิวขาวใสด้วยการลอกผิวนั้น แท้จริงแล้วเป็นเพียงการลอกผิวชั้นนอกออกไป ทำให้ดูขาวขึ้น แต่เม็ดสีจะอยู่ในผิวชั้นใน เมื่อเวลาผ่านไปสีผิวก็จะกลับมาเป็นเช่นเดิม จึงไม่ควรหลงเชื่อ เพราะไม่มีผลิตภัณฑ์ใดทำให้ผิวขาวขึ้นได้อย่างถาวร” รองเลขาธิการ อย. กล่าว
ภก.ประพนธ์ กล่าวว่า การมีสีผิวตามธรรมชาตินั้น เม็ดสีเมลานินจะทำหน้าที่ดูดกลืนรังสี UV เอาไว้ไม่ให้ผ่านมาทำอันตรายถึงผิวชั้นในและอวัยวะภายใน ทั้งยังช่วยป้องกันมะเร็งผิวหนัง และป้องกันใยคอลลาเจนไม่ให้ถูกทำลาย การทำให้ผิวขาวจะเป็นการกำจัดปริมาณเม็ดสี ซึ่งถือว่าเป็นเกราะคุ้มกันตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม หากตรวจพบมีการลักลอบใส่สารต้องห้าม จะต้องถูกระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท ส่วนการเลือกซื้อเครื่องสำอาง ควรเลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และสามารถตรวจสอบเลขที่ใบรับแจ้ง 10 หลักของเครื่องสำอางได้ทางเว็บไซต์ อย. www.fda.moph.go.th หรือที่ Oryor Smart Application
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่