xs
xsm
sm
md
lg

ปลัด สธ.ปลุกใจ “เสื้อกาวน์” กอบกู้ศักดิ์ศรี ขรก.ขอช่วยวางระบบ สธ.มีธรรมาภิบาล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ปลัด สธ. ปลุกใจวงการเสื้อกาวน์กอบกู้ศักดิ์ศรีข้าราชการ วอนออกมาช่วยวางระบบสาธารณสุขให้โปร่งใส เข้มแข็ง ย้ำธรรมาภิบาลต้องเริ่มจากตัวทุกคน ฝากถึงผู้บริหารระดับสูงต้องมีจุดยืน เชื่อทุกอย่างจะดีขึ้น ระบุเรื่องใน สธ. ต้องเดินต่อในรูปประชาคม

ในการประชุมโครงการพัฒนาส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างธรรมาภิบาลในกลไกอภิบาลระบบในกระทรวงสาธารณสุข​ (สธ.) ที่ รร.อุบลบุรี รีสอร์ท จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ที่ผ่านมา นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ. ได้มีการปลุกใจเรื่องธรรมาภิบาลและศักดิ์ศรีของข้าราชการ ว่า เรื่องของกระทรวง อยู่ที่บุคลากร สธ. โดยเฉพาะระดับภูมิภาคที่เป็นคนเห็นปัญหา ส่วนเรื่องธรรมาภิบาลต้องเริ่มจากตัวเราเองทุกคน เพื่อทำให้ระบบสาธารณสุขเดินหน้าได้อย่างถูกต้อง อย่างสมัยตนเป็น สสจ.พิจิตร เมื่อปี 2541 มีเหตุการณ์ทุจริตซื้อยา 1,400 ล้านบาท มีผู้บริหารกระทรวง โทร.หาตนว่าจะมีงบประมาณมาที่ จ.พิจิตร 6 ล้านบาท และจะมีบริษัทตามมาขายยาเพื่อเก็บงบนั้น เชื่อว่าทุกคนคงเคยเจอ วันนั้นได้ตอบผู้บริหารคนนั้นไปว่าไม่เอา ดังนั้น ธรรมาภิบาลต้องเริ่มต้นที่ตัวเองก่อนที่จะวางอะไรในหัวใจเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้

เรื่องนี้ผู้บริหารต้องเป็นคนวางระบบ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตั้งโยกย้าย การจัดซื้อจัดจ้าง เป็นต้น หากมีการแทรกแซงจากการเมือง ระบบที่วางไว้ก็จะเป็นตัวปกป้องเอง ซึ่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สาธารณสุขก็เริ่มมีการวางระบบและ​ปกป้องระบบโดย​ประชาคมสาธารณสุข และวันนี้การรวมตัวของประชาคมในระดับประเทศเริ่มต้นแล้ว อยากเห็นการรวมตัวในระดับเขต ระดับจังหวัด และระดับอำเภอ การรวมตัวของวิชาชีพมันทำให้ไม่กลัวต่ออำนาจในการบริหาร หากรวมกันได้ทุกวิชาชีพก็ยิ่งเข้มแข็ง“ ปลัด สธ. กล่าวและว่า อยากให้มีการรวมตัวของวิชาชีพ เพื่อมาวางกติการ่วมกัน ไม่ได้มาเพื่อปลุกระดมอะไร เพียงแต่อยากให้คนสาธารณสุขตื่นอย่างเต็มระบบ ว่า จะเป็นหัวขบวนของระบบราชการ ให้เป็นเสาหลักของประเทศ อยากเห็นข้าราชการเป็นบุคคลที่ไม่ถูกมองข้ามและเหยียดหยาม ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องช่วยกันเอาศักดิ์ศรีข้าราชการกลับมา

นพ.ณรงค์ กล่าวว่า ระบบในอดีตอาจทำให้เราท้อแท้ แต่ต้องช่วยกันสร้างใหม่ ทำให้เดินไปอย่างมีคุณธรรม จริยธรรม ส่วนประชาคม ควรเข้ามาเฝ้าระวังการทุจริตประพฤติมิชอบ และเป็นกลไกตรวจสอบเฝ้าระวัง ถ้าจะปลุกระดม ก็จะปลุกให้ข้าราชการช่วยกันออกมาช่วยกันวางระบบ ให้เปิดเผย โปร่งใส ส่วนระดับผู้บริหาร ก็คาดหวังเช่นกัน ที่ผ่านมาระบบราชการทำให้ราชการอ่อนแอ และที่ผ่านมาก็มีทั้งข้าราชการวิ่งหานักการเมืองและนักการเมืองวิ่งหาข้าราชการ จึงต้องทำระบบคัดเลือกให้เข้มแข็งเช่นกัน

การได้เป็นข้าราชการระดับสูง เพื่อเกียรติยศวงศ์ตระกูลไม่มีประโยชน์ มันมีทั้งได้เป็นและเป็นได้ ได้เป็นคงไม่ยากถ้าวิ่งเต้น แต่เป็นได้ก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง จึงต้องเริ่มที่ตัวเองว่าคิดอะไร การเดินต่อจะทำเพื่ออะไร ผู้บริหารต้องมีจุดยืนให้ชัดเจนและเดินตามนั้น ผมเชื่อว่าฟ้ามีตา มองโดยรวมแล้วถ้าประชาคมเข้มแข็ง และผู้บริหารที่มีพยายามจะจัดระบบผู้บริหารในชั้นถัดไปให้ดีที่สุด ก็คงดีขึ้นเรื่อยๆ เวทีวันนี้ยังเป็นความหวังของระบบราชการ ถ้าเราสามารถทำให้ข้าราชการเข้มแข็ง รวมกลุ่มวิชาชีพให้ดี มองธรรมาภิบาลในระบบให้ดี การปฏิรูปต้องระเบิดจากภายในจะเป็นทางออกของประเทศ” นพ.ณรงค์ กล่าว

นพ.ณรงค์ กล่าวว่า เหตุการณ์ในกระทรวงนั้น วันที่นายกฯ ออกมาปฏิวัติท่านกล้าเสี่ยง ไม่รู้จะเจออะไรข้างหน้า ไม่อยากเห็นคนไม่ได้คิด ไม่ได้ทำอะไรเลย เข้ามาเสวยอำนาจ ทำลายนายกฯ การปฏิรูประบบการเงินการคลังต้องเดินต่อ แต่ต้องไม่กระทบรัฐบาล เพราะมีคนกำลังเอาเหตุการณ์นี้มาแสวงผลอื่นต่อ รัฐบาลมีปัญหาเยอะอยู่แล้ว แต่เรื่องภายในกระทรวงสาธารณสุข ต้องได้รับการแก้ไข การเดินต่อในรูปของประชาคม เพื่อทำให้เกิดธรรมาภิบาลในทุกระดับ แน่ใจว่าเป็นเรื่องถูกต้อง และจะกลายเป็นกระทรวงต่างๆ ให้เดินหน้าต่อ เพื่อให้ข้าราชการเป็นเสาหลัก เป็นองค์ประกอบหนึ่งของประเทศ ไม่ใช่มีแค่นักการเมือง นักวิชาการ

“ในอนาคตนั้นเรื่องส่วนตัวสบายใจแล้ว อีก 2 - 3 เดือน ก็จะอายุครบ 60 ปี และคงเป็นปลัดที่มันที่สุดในโลก เพราะเจออะไรมาเยอะในชีวิต ตั้งแต่เริ่มราชการโดยเป็นหมอใช้ทุน ผอ.รพ.ชุมชน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ก็คิดถึงการทำงานในแต่ละตำแหน่ง ซึ่งมีทั้งเรื่องที่อยากแก้ไขและเก็บไว้” นพณรงค์ กล่าว

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่



กำลังโหลดความคิดเห็น