ก.แรงงาน เผย 3 สัปดาห์ ปชช. ใช้บริการ 6 พันคน ระบุจำนวนคนได้งานไม่เข้าเป้า ขณะที่ จนท. น้อยไม่เพียงพอให้บริการ ประสานสถานศึกษาส่ง นศ. มาฝึกงานด้านเอกสาร คัดแยกข้อมูล เล็งช่วยเด็กจบเกรดน้อยมีงานทำ
วันนี้ (9 ก.พ.) นายนพดล กรรณิกา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังการตรวจผลการดำเนินการศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย (สมาร์ทจ๊อบเซ็นเตอร์) ที่เปิดให้บริการมาแล้ว 3 สัปดาห์ ว่า มีผู้เข้ามาติดต่อใช้บริการที่ศูนย์ประมาณ 6,000 คน ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตกว่า 1,800 คน แต่ปัญหาที่พบขณะนี้ คือ อัตรากำลังข้าราชการไม่เพียงพอ จำเป็นต้องขอความร่วมมือไปยังสถานศึกษาเพื่อให้ส่งนิสิต - นักศึกษา ที่มีต้องการจะฝึกงานกับกระทรวงแรงงาน มาเป็นผู้ช่วย จำนวน 30 คน ทำหน้าที่บันทึกและคัดแยกข้อมูล เนื่องจากขณะนี้มีสถานประกอบการกว่า 180 แห่งติดต่อเข้ามา เพื่อหาแรงงานไปทำงาน ทั้งนี้ ที่ผ่านมา มีคนเข้ามาหางานจำนวน 517 คน ได้รับการบรรจุงานร้อยละ 25 ซึ่งต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ที่ร้อยละ 50
นายนพดล กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม จากระบบการประมวลผลของศูนย์ พบว่า กลุ่มเป้าหมายระดับล่างคือผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีแต่มีผลการศึกษาในระดับคาบเส้นกำลังประสบปัญหาตกงานจำนวนมากขึ้น จึงได้เตรียมจะประสานความร่วมมือกับสถานศึกษาเข้าไปแนะแนวภายในสถานศึกษา เพื่อให้แนวโน้มการมีงานทำเพิ่มขึ้น โดยจะให้มีการสำรวจว่ากลุ่มดังกล่าวอยู่ในสถานศึกษารัฐ หรือเอกชนมากน้อยเพียงใด ตนเชื่อมั่นว่าสามารถฝึกให้มีความสามารถได้หากมีโอกาส
“ได้สั่งการให้จัดทำฐานข้อมูลของกลุ่มคนที่หางานทำยาก เช่น กลุ่มคนที่มีคะแนนจบการศึกษาเกรดเฉลี่ย 2 นิดๆ ซึ่งหางานที่ไหนก็ยาก และเป็นกลุ่มคนที่ต้องเข้าไปช่วยเหลือเป็นกลุ่มแรกๆ หากทำสำเร็จจะทำให้ประชาชนเชื่อมั่นและเข้ามาใช้บริการมากยิ่งขึ้น” นายนภดล กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (9 ก.พ.) นายนพดล กรรณิกา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังการตรวจผลการดำเนินการศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย (สมาร์ทจ๊อบเซ็นเตอร์) ที่เปิดให้บริการมาแล้ว 3 สัปดาห์ ว่า มีผู้เข้ามาติดต่อใช้บริการที่ศูนย์ประมาณ 6,000 คน ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตกว่า 1,800 คน แต่ปัญหาที่พบขณะนี้ คือ อัตรากำลังข้าราชการไม่เพียงพอ จำเป็นต้องขอความร่วมมือไปยังสถานศึกษาเพื่อให้ส่งนิสิต - นักศึกษา ที่มีต้องการจะฝึกงานกับกระทรวงแรงงาน มาเป็นผู้ช่วย จำนวน 30 คน ทำหน้าที่บันทึกและคัดแยกข้อมูล เนื่องจากขณะนี้มีสถานประกอบการกว่า 180 แห่งติดต่อเข้ามา เพื่อหาแรงงานไปทำงาน ทั้งนี้ ที่ผ่านมา มีคนเข้ามาหางานจำนวน 517 คน ได้รับการบรรจุงานร้อยละ 25 ซึ่งต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ที่ร้อยละ 50
นายนพดล กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม จากระบบการประมวลผลของศูนย์ พบว่า กลุ่มเป้าหมายระดับล่างคือผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีแต่มีผลการศึกษาในระดับคาบเส้นกำลังประสบปัญหาตกงานจำนวนมากขึ้น จึงได้เตรียมจะประสานความร่วมมือกับสถานศึกษาเข้าไปแนะแนวภายในสถานศึกษา เพื่อให้แนวโน้มการมีงานทำเพิ่มขึ้น โดยจะให้มีการสำรวจว่ากลุ่มดังกล่าวอยู่ในสถานศึกษารัฐ หรือเอกชนมากน้อยเพียงใด ตนเชื่อมั่นว่าสามารถฝึกให้มีความสามารถได้หากมีโอกาส
“ได้สั่งการให้จัดทำฐานข้อมูลของกลุ่มคนที่หางานทำยาก เช่น กลุ่มคนที่มีคะแนนจบการศึกษาเกรดเฉลี่ย 2 นิดๆ ซึ่งหางานที่ไหนก็ยาก และเป็นกลุ่มคนที่ต้องเข้าไปช่วยเหลือเป็นกลุ่มแรกๆ หากทำสำเร็จจะทำให้ประชาชนเชื่อมั่นและเข้ามาใช้บริการมากยิ่งขึ้น” นายนภดล กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
