“หมอรัชตะ” ชี้ตั้งกองทุนวิจัยสุขภาพใหม่ ไม่ซ้ำซ้อน เน้นงานวิจัยทั้งระบบสาธารณสุขและเชิงคลินิก เพื่อกำหนดนโยบาย ยันหน่วยงานสนับสนุนเดิม ทั้ง สกว. สสส. ยังทำหน้าที่ตามเดิม ย้ำการบริหารงบเป็นหน้าที่ของหน่วยงานให้ทุน
วันนี้ (28 ม.ค.) ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีการยกร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยสุขภาพ พ.ศ. ... ซึ่งจะมีการตั้งสำนักงาน 1 แห่ง และมีกองทุนเฉพาะได้รับงบประมาณปีละไม่ต่ำกว่า 2-3 พันล้านบาท เพื่อการศึกษาวิจัยด้านสุขภาพของประเทศไทย ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ ที่ตั้งขึ้นมานั้นเพื่อให้การวิจัยด้านสุขภาพไม่กระจัดกระจายเหมือนเบี้ยหัวแตก โดยหน่วยงานใหม่จะดูแลในเชิงนโยบายสุขภาพที่มีองค์รวมชัดเจน ทำให้เห็นทิศทางว่าจะมุ่งเน้นไปในทิศทางใด เพื่อทำให้เกิดการสร้างองค์ความรู้ที่จำเป็นมาเสนอระบบสุขภาพได้อย่างเต็มที่ ซึ่งงานวิจัยที่หน่วยงานใหม่รับผิดชอบ จะรวมทั้งระบบสาธารณสุขและการวิจัยเชิงคลินิก โดยจะเป็นการมุ่งเน้นการดูเชิงนโยบาย
“หน่วยงานเดิมที่สนับสนุนเรื่องของการวิจัยอยู่แล้ว ทั้งสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) หรือสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จะทำหน้าที่สนับสนุนเหมือนเดิม คณะกรรมการส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยสุขภาพที่จะเกิดขึ้นตามร่าง พ.ร.บ. นี้ไม่ได้ทำหน้าในการพิจารณาจัดสรรทุนการวิจัย” รมว.สาธารณสุข กล่าว
เมื่อถามถึงงบประมาณที่จะมีการใช้มากกว่า 2 พันล้านบาทนั้น ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า เป็นงบปกติที่ต้องใช้ในงานวิจัยที่กระจายอยู่ตามงานที่ให้การวิจัยอยู่แล้ว ทั้งนี้ งบเชิงวิจัยและพัฒนาก็มีความจำเป็นที่ต่อไปต้องมีการจัดสรรให้พอเหมาะหรือเพิ่มขึ้น เนื่องจากการสร้างองค์ความรู้เป็นหลักการที่สำคัญที่ต้องใช้ในการพัฒนาประเทศต่อไป ส่วนงบประมาณที่ใช้ในการตั้งกองทุนวิจัยใหม่นั้นจะมาจากงบประมาณของแผ่นดิน สำหรับข้อกังวลว่าจะดำเนินงานโดยคนกลุ่มเดิมๆ นั้น การบริหารงบประมาณเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่จะให้ทุนอยู่แล้ว กองทุนวิจัยนี้จะออกมาในรูปของการดูภาพของการวิจัยเป็นหลัก จะทำให้การทำงานด้านการวิจัย ไม่เกิดความซ้ำซ้อนและให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่เรื่องใดที่ควรทำก็จะกระตุ้นให้เกิดการทำ เพื่อนำความรู้ที่ได้มาพัฒนาระบบสุขภาพไทยต่อไป
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (28 ม.ค.) ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีการยกร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยสุขภาพ พ.ศ. ... ซึ่งจะมีการตั้งสำนักงาน 1 แห่ง และมีกองทุนเฉพาะได้รับงบประมาณปีละไม่ต่ำกว่า 2-3 พันล้านบาท เพื่อการศึกษาวิจัยด้านสุขภาพของประเทศไทย ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ ที่ตั้งขึ้นมานั้นเพื่อให้การวิจัยด้านสุขภาพไม่กระจัดกระจายเหมือนเบี้ยหัวแตก โดยหน่วยงานใหม่จะดูแลในเชิงนโยบายสุขภาพที่มีองค์รวมชัดเจน ทำให้เห็นทิศทางว่าจะมุ่งเน้นไปในทิศทางใด เพื่อทำให้เกิดการสร้างองค์ความรู้ที่จำเป็นมาเสนอระบบสุขภาพได้อย่างเต็มที่ ซึ่งงานวิจัยที่หน่วยงานใหม่รับผิดชอบ จะรวมทั้งระบบสาธารณสุขและการวิจัยเชิงคลินิก โดยจะเป็นการมุ่งเน้นการดูเชิงนโยบาย
“หน่วยงานเดิมที่สนับสนุนเรื่องของการวิจัยอยู่แล้ว ทั้งสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) หรือสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จะทำหน้าที่สนับสนุนเหมือนเดิม คณะกรรมการส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยสุขภาพที่จะเกิดขึ้นตามร่าง พ.ร.บ. นี้ไม่ได้ทำหน้าในการพิจารณาจัดสรรทุนการวิจัย” รมว.สาธารณสุข กล่าว
เมื่อถามถึงงบประมาณที่จะมีการใช้มากกว่า 2 พันล้านบาทนั้น ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า เป็นงบปกติที่ต้องใช้ในงานวิจัยที่กระจายอยู่ตามงานที่ให้การวิจัยอยู่แล้ว ทั้งนี้ งบเชิงวิจัยและพัฒนาก็มีความจำเป็นที่ต่อไปต้องมีการจัดสรรให้พอเหมาะหรือเพิ่มขึ้น เนื่องจากการสร้างองค์ความรู้เป็นหลักการที่สำคัญที่ต้องใช้ในการพัฒนาประเทศต่อไป ส่วนงบประมาณที่ใช้ในการตั้งกองทุนวิจัยใหม่นั้นจะมาจากงบประมาณของแผ่นดิน สำหรับข้อกังวลว่าจะดำเนินงานโดยคนกลุ่มเดิมๆ นั้น การบริหารงบประมาณเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่จะให้ทุนอยู่แล้ว กองทุนวิจัยนี้จะออกมาในรูปของการดูภาพของการวิจัยเป็นหลัก จะทำให้การทำงานด้านการวิจัย ไม่เกิดความซ้ำซ้อนและให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่เรื่องใดที่ควรทำก็จะกระตุ้นให้เกิดการทำ เพื่อนำความรู้ที่ได้มาพัฒนาระบบสุขภาพไทยต่อไป
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่