สถานการณ์ “อีโบลา” ในแอฟริกาดีขึ้น พบผู้ป่วยลดลง สธ. จ่อถอนชื่อ “ประเทศมาลี” ออกจากเขตติดโรคตามองค์การอนามัยโลก ระบุยังคงมาตรการเฝ้าระวังตรวจคัดกรองผู้เดินทางต่อเนื่อง พร้อมจับมือมหาวิทยาลัย และกองทัพ พัฒนาเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล
วันนี้ (26 ม.ค.) ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาะารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สถานการณ์โรคอีโบลามีแนวโน้มดีขึ้น จำนวนผู้ป่วยลดลง โดยข้อมูลองค์การอนามัยโลกรายงานเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2558 พบผู้ป่วย 21,724 ราย เสียชีวิต 8,641 ราย ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาพบผู้ป่วยใน 3 ประเทศแอฟริกาตะวันตก ได้แก่ กินี 20 ราย ไลบีเรีย 8 ราย และเซียร์ราลีโอน 117 ราย โดยล่าสุดองค์การอนามัยโลก ได้ประกาศให้ประเทศมาลีเป็นประเทศปลอดโรคอีโบลาแล้ว ซึ่ง สธ. จะดำเนินการออกประกาศยกเลิกประเทศมาลีเป็นเขตติดโรคต่อต่อไป
“อย่างไรก็ตาม ได้ให้ทุกหน่วยงานคงมาตรการเฝ้าระวังกลุ่มผู้เดินทางจากประเทศเขตติดโรคต่อไป ทั้งด่านควบคุมโรคทางบก น้ำ และอากาศ รวมทั้งในชุมชน พัฒนาระบบการดูแลรักษา ป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาลในสังกัด และประสานความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย กองทัพ ในการพัฒนาศักยภาพโรงพยาบาลที่อยู่ในสังกัด การพัฒนาห้องปฏิบัติการ รวมทั้งมอบให้วอร์รูมกรมควบคุมโรค ติดตามสถานการณ์ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องต่อไป และรายงานจนกว่าองค์การอนามัยโลกจะประกาศยุติการระบาดของโรคนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 - 9 เดือน” รมว.สาธารณสุข กล่าวและว่า สำหรับการป้องกันควบคุมโรคอีโบลาในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของไทย ทำได้ดี เป็นการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ให้พร้อมรับสถานการณ์โรคอีโบลาและโรคอุบัติใหม่อื่นๆที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ด้าน นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า มาตรการตรวจคัดกรองเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ระบาดในระยะ 21 วัน ที่ผ่านมา สามารถดำเนินการได้เป็นอย่างดี ขณะนี้มีประมาณวันละ 10 คน ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 8 มิ.ย. 2557 - 25 ม.ค. 2558 คัดกรองไปแล้ว 3,930 คน สามารถติดตามอาการได้ครบทุกคน ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติที่เดินทางไปทำงานใน 3 ประเทศเขตติดโรค จนถึงขณะนี้ยังไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลาในไทย ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คร.ได้ประชุมร่วมกับกับมหาวิทยาลัย และกระทรวงกลาโหม ทั้ง 3 เหล่าทัพได้ข้อสรุปว่า จะจัดทีมหลักร่วมกันเพื่อพัฒนาศักยภาพในภาคการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลในสังกัด 3 หน่วยงานประมาณ 17 แห่ง โดยให้ทุกโรงพยาบาลจัดซ้อมแผนในการดูแล กรณีพบผู้ป่วยสงสัยติดเชื้อไวรัสอีโบลา และจะส่งทีมตรวจเยี่ยมแต่ละโรงพยาบาล เพื่อสร้างความมั่นใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการดูแลผู้ป่วย
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (26 ม.ค.) ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาะารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สถานการณ์โรคอีโบลามีแนวโน้มดีขึ้น จำนวนผู้ป่วยลดลง โดยข้อมูลองค์การอนามัยโลกรายงานเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2558 พบผู้ป่วย 21,724 ราย เสียชีวิต 8,641 ราย ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาพบผู้ป่วยใน 3 ประเทศแอฟริกาตะวันตก ได้แก่ กินี 20 ราย ไลบีเรีย 8 ราย และเซียร์ราลีโอน 117 ราย โดยล่าสุดองค์การอนามัยโลก ได้ประกาศให้ประเทศมาลีเป็นประเทศปลอดโรคอีโบลาแล้ว ซึ่ง สธ. จะดำเนินการออกประกาศยกเลิกประเทศมาลีเป็นเขตติดโรคต่อต่อไป
“อย่างไรก็ตาม ได้ให้ทุกหน่วยงานคงมาตรการเฝ้าระวังกลุ่มผู้เดินทางจากประเทศเขตติดโรคต่อไป ทั้งด่านควบคุมโรคทางบก น้ำ และอากาศ รวมทั้งในชุมชน พัฒนาระบบการดูแลรักษา ป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาลในสังกัด และประสานความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย กองทัพ ในการพัฒนาศักยภาพโรงพยาบาลที่อยู่ในสังกัด การพัฒนาห้องปฏิบัติการ รวมทั้งมอบให้วอร์รูมกรมควบคุมโรค ติดตามสถานการณ์ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องต่อไป และรายงานจนกว่าองค์การอนามัยโลกจะประกาศยุติการระบาดของโรคนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 - 9 เดือน” รมว.สาธารณสุข กล่าวและว่า สำหรับการป้องกันควบคุมโรคอีโบลาในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของไทย ทำได้ดี เป็นการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ให้พร้อมรับสถานการณ์โรคอีโบลาและโรคอุบัติใหม่อื่นๆที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ด้าน นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า มาตรการตรวจคัดกรองเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ระบาดในระยะ 21 วัน ที่ผ่านมา สามารถดำเนินการได้เป็นอย่างดี ขณะนี้มีประมาณวันละ 10 คน ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 8 มิ.ย. 2557 - 25 ม.ค. 2558 คัดกรองไปแล้ว 3,930 คน สามารถติดตามอาการได้ครบทุกคน ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติที่เดินทางไปทำงานใน 3 ประเทศเขตติดโรค จนถึงขณะนี้ยังไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลาในไทย ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คร.ได้ประชุมร่วมกับกับมหาวิทยาลัย และกระทรวงกลาโหม ทั้ง 3 เหล่าทัพได้ข้อสรุปว่า จะจัดทีมหลักร่วมกันเพื่อพัฒนาศักยภาพในภาคการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลในสังกัด 3 หน่วยงานประมาณ 17 แห่ง โดยให้ทุกโรงพยาบาลจัดซ้อมแผนในการดูแล กรณีพบผู้ป่วยสงสัยติดเชื้อไวรัสอีโบลา และจะส่งทีมตรวจเยี่ยมแต่ละโรงพยาบาล เพื่อสร้างความมั่นใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการดูแลผู้ป่วย
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
