พศ.เผยสำนักสงฆ์ป่าสามแยก ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นสำนักสงฆ์ พร้อมมอบ พศจ.เพชรบูรณ์ ประสานกรมป่าไม้ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
นายพนม ศรศิลป์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวว่า สำนักสงฆ์ป่าสามแยกนั้น พศ.ได้ดำเนินการตรวจสอบแล้ว พบว่า ไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นสำนักสงฆ์ หรือขอตั้งวัด ต่อพศ. ดังนั้น จะต้องเรียกว่า ที่พักสงฆ์ป่าสามแยก และพศ.ทราบว่า ได้ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่า อย่างไรก็ตาม สำหรับ ที่พักสงฆ์ หมายถึง สถานที่พำนักพักพิงชั่วคราวของพระภิกษุสามเณร ซึ่งยังมิได้เป็นวัด หรือ สำนักสงฆ์ ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ที่พักสงฆ์ จึงไม่มีสิทธิใช้คำว่า สำนักสงฆ์ หรือ วัด นำหน้าชื่อสถานที่ แต่หากดำเนินการขอสร้างวัด และตั้งวัดตามระเบียบของทางราชการ เมื่อได้รับอนุญาตให้สร้างวัด และตั้งวัดโดยถูกต้องตามกฎหมาย จึงจะถือว่าเป็นวัดหรือสำนักสงฆ์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย
อย่างไรก็ดี การตั้งที่พักสงฆ์ หรือสำนักสงฆ์ ในพื้นที่เขตป่า หรือพื้นที่ป่าสงวน จะต้องได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องถูกดำเนินการตามกฏหมาย ส่วนกรณีที่มีการขออนุญาตอย่างถูกต้อง หากทางราชการสั่งให้มีการรื้อถอนทางที่พักสงฆ์จะเรียกร้องค่าชดเชย ก็ต้องไปดูในรายละเอียดของหนังสืออนุญาตว่า ได้มีการระบุเงื่อนไขดังกล่าวไว้หรือไม่ ทั้งนี้ พศ.ได้มอบหมายให้ พศจ.เพชรบูรณ์ ให้ติดตามข้อมูลพร้อมร่วมประสานกับหน่วยงาน เช่น กรมป่าไม้ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบเรื่องนี้ ซึ่งการดำเนินการจะออกมาเป็นอย่างไร ก็ต้องให้เป็นอำนาจของหน่วยงานด้านป่าไม้ที่ดูแลพื้นที่ตั้งของที่พักสงฆ์ดังกล่าว หากมีความคืบหน้าอย่างไร ให้ พศจ.เพชรบูรณ์ รายงานมายัง พศ.
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นายพนม ศรศิลป์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวว่า สำนักสงฆ์ป่าสามแยกนั้น พศ.ได้ดำเนินการตรวจสอบแล้ว พบว่า ไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นสำนักสงฆ์ หรือขอตั้งวัด ต่อพศ. ดังนั้น จะต้องเรียกว่า ที่พักสงฆ์ป่าสามแยก และพศ.ทราบว่า ได้ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่า อย่างไรก็ตาม สำหรับ ที่พักสงฆ์ หมายถึง สถานที่พำนักพักพิงชั่วคราวของพระภิกษุสามเณร ซึ่งยังมิได้เป็นวัด หรือ สำนักสงฆ์ ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ที่พักสงฆ์ จึงไม่มีสิทธิใช้คำว่า สำนักสงฆ์ หรือ วัด นำหน้าชื่อสถานที่ แต่หากดำเนินการขอสร้างวัด และตั้งวัดตามระเบียบของทางราชการ เมื่อได้รับอนุญาตให้สร้างวัด และตั้งวัดโดยถูกต้องตามกฎหมาย จึงจะถือว่าเป็นวัดหรือสำนักสงฆ์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย
อย่างไรก็ดี การตั้งที่พักสงฆ์ หรือสำนักสงฆ์ ในพื้นที่เขตป่า หรือพื้นที่ป่าสงวน จะต้องได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องถูกดำเนินการตามกฏหมาย ส่วนกรณีที่มีการขออนุญาตอย่างถูกต้อง หากทางราชการสั่งให้มีการรื้อถอนทางที่พักสงฆ์จะเรียกร้องค่าชดเชย ก็ต้องไปดูในรายละเอียดของหนังสืออนุญาตว่า ได้มีการระบุเงื่อนไขดังกล่าวไว้หรือไม่ ทั้งนี้ พศ.ได้มอบหมายให้ พศจ.เพชรบูรณ์ ให้ติดตามข้อมูลพร้อมร่วมประสานกับหน่วยงาน เช่น กรมป่าไม้ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบเรื่องนี้ ซึ่งการดำเนินการจะออกมาเป็นอย่างไร ก็ต้องให้เป็นอำนาจของหน่วยงานด้านป่าไม้ที่ดูแลพื้นที่ตั้งของที่พักสงฆ์ดังกล่าว หากมีความคืบหน้าอย่างไร ให้ พศจ.เพชรบูรณ์ รายงานมายัง พศ.
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
กำลังโหลดเครื่อง oncothermia ความหวังใหม่รักษามะเร็งเต้านม-ตับระยะท้าย ใช้คลื่นวิทยุยิงเฉพาะจุดมะเร็งจนเกิดความร้อน เอื้อยาเคมีบำบัดเข้าถึงมะเร็งง่ายขึ้น ผลศึกษาก้แนมะเร็งเต้านมยุบทั้งหมด 22% ผู้ป่วยมะเร็งตับอายุยืนขึ้น