ปัญหาด้านแรงงานไม่ว่าจะทิศทางใดถือว่าเป็นภารกิจที่สำคัญของกระทรวงแรงงานเพราะตัวแรงงานถือเป็นกลไกสำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ คนเหล่านี้ควรจะต้องได้รับการพัฒนาทักษะรอบด้านทั้งมาตรฐานฝีมือและภาษาเพื่อการแข่งขันกับต่างชาติพร้อมสวัสดิการที่พึงได้รับ และอีกภารกิจหนึ่งที่ต้องจัดการควบคู่กันคือการบริหารจัดการต่างด้าวตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
ภายหลังที่ประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ได้แต่งตั้ง พล.อ. สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้แก้ไขสารพัดปัญหาของแรงงานเช่น ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ปัญหาค้ามนุษย์ และการจัดการต่างด้าว ที่ดำเนินการไประดับหนึ่งแล้ว รมว.แรงงาน เปิดเผยว่า ปี 58 จะเดินหน้าเรื่องใหญ่ ๆ ให้เห็นเป็นรูปธรรมและชัดเจนมากที่สุด คือ การทำให้คนไทยมีงานทำซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุดที่จะต้องดูแล ,การแก้ปัญหาด้านแรงงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ,การบริหารจัดการแรงานต่างด้าวซึ่งมีหลายส่วนเช่น แรงงานต่างด้าวที่สนับสนุนบีโอไอ, แรงงานต่างด้าวที่สนับสนุนในภาคอุสาหกรรมในแต่ละประเภท ,แรงงานต่างด้าวที่สนับสนุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ 5 จังหวัด
สำหรับแนวทางหนุนให้คนไทยมีงานทำ พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า จำเป็นต้องอบรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยเฉพาะในปี 58 จะมีการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) และมีการเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างเสรี ซึ่งการเปิดเออีซีคือการกระตุ้นให้คนไทยต้องมีทักษะที่สูงขึ้นแต่ก็จะมาพร้อมกันทั้งโอกาสและวิกฤต หากคนไทยไม่พัฒนาฝีมือตนเอง ตรงจุดนี้จะนำไปสู่วิกฤติด้านแรงงาน เพราะหากงานใดที่คนไทยทำไม่ได้ก็จำเป็นต้องเปิดรับต่างชาติเข้ามาทำแทนส่งผลให้เม็ดเงินก็จะไหลออกนอกประเทศ กระทรวงแรงงานจึงมีหน้าที่ต้องกระตุ้นและพัฒนาให้คนไทยอยู่ในระดับหัวหน้างาน ส่วนงานที่ไม่เน้นทักษะก็จะใช้แรงงานต่างด้าว อันที่จริงแล้วต้องทำในหลายเรื่องควบคู่กันทั้งพัฒนาทักษาฝีมือ และรณรงค์สร้างทัศนะคติพัฒนาตัวเองสู่แรงงานที่มีฝีมือด้วย
ซึ่งตามนโยบายรัฐบาลที่ให้ส่งเสริมบทบาทการใช้โอกาสในประชาคมอาเซียนนั้น เป็นหน้าที่ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) ในการกำกับดูแล ม.ล. ปุณฑริก สมิติ อธิบดีกพร. ชี้แจงว่า กพร.มีการวางแผนกำหนดยุทธศาสตร์บริหาร เช่น ยุทธศาสตร์ การเสริมสร้างขีดความสามารถที่เข้มข้นขึ้น ใน 3 โครงการหลัก คือ 1. เพิ่มผลิตภาพแรงงานตามความต้องการสถานประกอบการซึ่งถือเป็นวิตามินเม็ดใหญ่ ที่จะช่วยสร้างความเข้มแข็งด้านแรงงาน การอบรมให้รู้ขั้นตอนการทำงานเพื่อช่วยลดการสูญเสียและได้ผลผลิตที่เพิ่มขึ้นในระยะเวลาที่น้อยลง 2.จะต้องมีระบบมาตรฐานฝีมือแรงงานของตัวเองอิงสมรรถนะตำแหน่งงาน 3.เพิ่มศักยภาพแรงงานในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน สู่การเป็นแรงงานฝีมือ ทั้ง ภาษา เทคโนโลยี โลจิสติกส์
การพัฒนาฝีมือจะรวมถึงแรงงานนอกระบบ โดยจะเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพและปรับเปลี่ยนอาชีพ สนับสนุนให้สถานประกอบการฝึกอบรมแรงงานของตนเอง ทั้งนี้เรื่องของฝีมือแรงงานจะต้องมีการทดสอบมาตรฐานเพื่อยกระดับเทียบเท่ามาตรฐานสากล ทั้งความปลอดภัย ประหยัด ถูกต้องตามขั้นตอน ที่สำคัญจะนำไปสู่การประเมินค่าจ้าง นอกจากนี้ยังมีการเปิดอบรมฝีมือแรงงานรองรับการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ และอาจมีการเชื่อมโยงเรื่องของการท่องเที่ยว ซึ่งแผนงานนี้จะมีการนำเข้าสู่คณะกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพแห่งชาติ (กพร.ปช.) ในเดือนมกราคม 2558 เพื่อพิจารณาต่อไป
กรณีการรับต่างชาติเข้าทำงานแทนคนไทยในบางตำแหน่งนั้น นายอดิศร เกิดมงคล เครือข่ายผู้ทำงานด้านประชากรข้ามชาติ ให้ความเห็นว่า การเปิดเออีซี ในช่วงแรกอาจจะไม่ได้รับผลกระทบมากนักเพราะเชื่อว่าจะต้องมีข้อจำกัดในการนำเข้าอยู่แล้ว ไม่ได้เปิดรับอย่างเต็มรูปแบบ แต่หลังจาก 3-5 ปี จะต้องมีการปรับแผนใหม่เพราะแต่ละประเทศมีการปรับตัวเพื่อแข่งขันกันแน่นอน โดยมีค่าจ้างเป็นปัจจัยในการคัดเลือกแรงงาน ปัจจุบันค่าจ้างคนไทยค่อนข้างสูงหากมีฝีมือที่เท่ากันผู้ประกอบการอาจเบนเข็มจ้างต่างเช้าเข้ามาทำแทน จุดนี้จะส่งผลกระทบต่อแรงงาน ดังนั้นไทยจะต้องมีการกำหนดเงื่อนไขและมีแผนพัฒนาฝีมือแรงงานให้รอบด้าน ออกกฎหมาย และนโยบายที่ชัดเจนว่าไทยจะมุ่งเน้นเรื่องของอุตสาหกรรมหรือ แรงงานที่ใช้มันสมอง ทั้งนี้เชื่อว่าปัญหาหลักอยู่ที่แผนการบริหารจัดการมากกว่าการเคลื่อนย้ายแรงงานแบบเสรีเมื่อเข้าสู่เออีซี
ขณะที่การจัดการแรงงานต่างด้าวซึ่งนับวันยิ่งทุกลักทุเล ข้าราชการหลายคนถูกเด้งเป็นว่าเล่น อีกทั้งเรื่องกินหัวคิวที่พยายามแก้ไข ดูจะไม่หมดไปง่าย ๆ และล่าสุด รมว.แรงงาน โอนงานบริหารแรงงานต่างด้าว ไปให้แรงงานจังหวัดที่ขึ้นตรงกับสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงานเป็นฝ่ายดูแล พร้อมปรับโครงสร้างกรมการจัดหางานให้เน้นการบริหารงานในส่วนของการหางานให้คนไทยทำ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยจะใช้ตึกหลากสีหน้ากระทรวงเป็นศูนย์บริการจัดหางานครบวงจร (Smart Job Center) ที่จะเปิดให้บริการในวันที่ 19 ม.ค. 2558
การจัดการต่างด้าวจะมีการศึกษาวิธีการที่จะนำไปสู่การลดจำนวนแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ ทั้งที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย โดยที่มีอยู่ในไทยต้องนำมาวิเคราะห์ว่าเพียงพอกับความต้องการแล้วหรือไม่ เพราะมีผลกับความมั่นคงของประเทศ โดยจะจัดการให้เหลือน้อยที่สุด ทั้งนี้ จะมีการเร่งดำเนินการให้เห็นเป็นรูปธรรมหลังปีใหม่ และจะมีการเสนอให้ออกเป็นประกาศ คสช. เพื่อให้มีผลบังคับใช้เร็วที่สุด
ภารกิจ ก.แรงงาน เร่งด่วนที่ต้องสะสางปัญหา คนไทยตกงานจำนวนมาก คงต้องจับตาดูว่าจะออกนโยบายอะไรเพื่อให้คนไทยไม่แตะฝุ่น
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
กำลังโหลดเครื่อง oncothermia ความหวังใหม่รักษามะเร็งเต้านม-ตับระยะท้าย ใช้คลื่นวิทยุยิงเฉพาะจุดมะเร็งจนเกิดความร้อน เอื้อยาเคมีบำบัดเข้าถึงมะเร็งง่ายขึ้น ผลศึกษาก้แนมะเร็งเต้านมยุบทั้งหมด 22% ผู้ป่วยมะเร็งตับอายุยืนขึ้น
