สธ. เตรียมเพิ่มศักยภาพ รพช. 20 แห่ง ที่จะยกระดับเป็น รพท. จ่อประชุม 18 พ.ย. นี้ ขีดเส้นให้ชัดเพิ่มการทำงานด้านใดบ้าง ระบุค้างจ่ายค่าตอบแทนเหมาจ่ายแค่บางโรงพยาบาลที่ขาดสภาพคล่อง เชื่อปรับวิธีจ่ายเงินเกลี่ยกันภายในเขต แก้ปัญหาได้
นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ ประธานคณะทำงานพิจารณาปรับโครงสร้างและตำแหน่งบุคลากรของโรงพยาบาลชุมชม (รพช.) ที่ยกสถานะเป็นโรงพยาบาลทั่วไป (รพท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการยกระดับ รพช. 20 แห่ง เป็น รพท. ว่า โรงพยาบาลทั้ง 20 แห่งยังคงทำงานเหมือนเดิม แต่จะต้องเพิ่มศักยภาพให้ได้ตามระดับของ รพท. ซึ่งยังขาดประเด็นอะไรก็ให้ทำข้อเสนอมา หรือบางเรื่องคณะทำงานฯ จะเป็นผู้กำหนดให้โรงพยาบาลต้องพัฒนาให้ได้ตามนั้น เช่น การสร้างธนาคารเลือด ซึ่งจำเป็นต้องมี ก็ทำเรื่องเสนอตามหลักเกณฑ์การของบประมาณในปีถัดไป เป็นต้น โดยวันที่ 18 พ.ย. นี้ ตนจะเชิญคณะทำงานฯ มาประชุม เพื่อหารือถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างและกรอบอัตรากำลังคนของโรงพยาบาลทั้ง 20 แห่ง อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเห็นว่าไม่มีใครคัดค้านการยกระดับ เพราะเป็นเรื่องปกติในการพัฒนาระบบให้ประชาชนได้รับบริการที่ดีขึ้น ไม่เกี่ยวกับเรื่องค่าตอบแทนที่ลดลงแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการค้างจ่ายเงินเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายให้กับบุคลากรบางที่ซึ่งค้างนาน 2 - 3 เดือน นพ.ธงชัย กล่าวว่า เป็นเพียงบางแห่งที่มีปัญหาสภาพคล่อง โดยปัจจุบันมีโรงพยาบาลขาดสภาพคล่องประมาณ 160 แห่ง ซึ่งจริงๆ มีปัญหามาตลอดในบางโรงพยาบาลที่มีเงินไม่พอ โดยอยู่ระหว่างการหาวิธีบริหารจัดการ อย่างกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ก็พยายามจะปรับระบบการจ่ายเงินให้กับหน่วยบริการ โดยให้มีการปรับเกลี่ยเงินกันในเขตจะทำให้สภาพคล่องของโรงพยาบาลดีขึ้น เพราะการจัดสรรเงินแบบปัจจุบัน โรงพยาบาลที่ขาดสภาพคล่องก็จะขาดสภาพคล่องซ้ำซาก ขณะที่โรงพยาบาลที่มีเงินเหลือเยอะก็จะเหลืออยู่อย่างนั้น ถ้าปรับเกลี่ยกันก็จะช่วยเหลือกันได้ภายในเขต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รพช. 20 แห่ง ที่จะถูกยกระดับเป็น รพท. ประกอบด้วย 1. รพ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ 2. รพ.ฝาง จ.เชียงใหม่ 3. รพ.บางพลี จ.สมุทรปราการ 4. รพ.บางละมุง จ.ชลบุรี 5. รพ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี 6. รพ.แกลง จ.ระยอง 7. รพ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว 8. รพ.มาบตาพุด จ.ระยอง 9. รพ.สมเด็จพระยุพราชสว่างแดนดิน จ.สกลนคร 10. รพ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น 11. รพ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี 12. รพ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ 13. รพ.เทพรัตน์นครราชสีมา จ.นครราชสีมา 14. รพ.ปากช่องนานา จ.นครราชสีมา 15. รพ.ปราสาท จ.สุรินทร์ 16. รพ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี 17. รพ.สมเด็จพระยุพราชเดชอุดม จ.อุบลราชธานี 18. รพ. 50 พรรษา มหาวชิราลงกรณ จ.อุบลฯ 19. รพ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช และ 20. รพ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ ประธานคณะทำงานพิจารณาปรับโครงสร้างและตำแหน่งบุคลากรของโรงพยาบาลชุมชม (รพช.) ที่ยกสถานะเป็นโรงพยาบาลทั่วไป (รพท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการยกระดับ รพช. 20 แห่ง เป็น รพท. ว่า โรงพยาบาลทั้ง 20 แห่งยังคงทำงานเหมือนเดิม แต่จะต้องเพิ่มศักยภาพให้ได้ตามระดับของ รพท. ซึ่งยังขาดประเด็นอะไรก็ให้ทำข้อเสนอมา หรือบางเรื่องคณะทำงานฯ จะเป็นผู้กำหนดให้โรงพยาบาลต้องพัฒนาให้ได้ตามนั้น เช่น การสร้างธนาคารเลือด ซึ่งจำเป็นต้องมี ก็ทำเรื่องเสนอตามหลักเกณฑ์การของบประมาณในปีถัดไป เป็นต้น โดยวันที่ 18 พ.ย. นี้ ตนจะเชิญคณะทำงานฯ มาประชุม เพื่อหารือถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างและกรอบอัตรากำลังคนของโรงพยาบาลทั้ง 20 แห่ง อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเห็นว่าไม่มีใครคัดค้านการยกระดับ เพราะเป็นเรื่องปกติในการพัฒนาระบบให้ประชาชนได้รับบริการที่ดีขึ้น ไม่เกี่ยวกับเรื่องค่าตอบแทนที่ลดลงแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการค้างจ่ายเงินเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายให้กับบุคลากรบางที่ซึ่งค้างนาน 2 - 3 เดือน นพ.ธงชัย กล่าวว่า เป็นเพียงบางแห่งที่มีปัญหาสภาพคล่อง โดยปัจจุบันมีโรงพยาบาลขาดสภาพคล่องประมาณ 160 แห่ง ซึ่งจริงๆ มีปัญหามาตลอดในบางโรงพยาบาลที่มีเงินไม่พอ โดยอยู่ระหว่างการหาวิธีบริหารจัดการ อย่างกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ก็พยายามจะปรับระบบการจ่ายเงินให้กับหน่วยบริการ โดยให้มีการปรับเกลี่ยเงินกันในเขตจะทำให้สภาพคล่องของโรงพยาบาลดีขึ้น เพราะการจัดสรรเงินแบบปัจจุบัน โรงพยาบาลที่ขาดสภาพคล่องก็จะขาดสภาพคล่องซ้ำซาก ขณะที่โรงพยาบาลที่มีเงินเหลือเยอะก็จะเหลืออยู่อย่างนั้น ถ้าปรับเกลี่ยกันก็จะช่วยเหลือกันได้ภายในเขต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รพช. 20 แห่ง ที่จะถูกยกระดับเป็น รพท. ประกอบด้วย 1. รพ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ 2. รพ.ฝาง จ.เชียงใหม่ 3. รพ.บางพลี จ.สมุทรปราการ 4. รพ.บางละมุง จ.ชลบุรี 5. รพ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี 6. รพ.แกลง จ.ระยอง 7. รพ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว 8. รพ.มาบตาพุด จ.ระยอง 9. รพ.สมเด็จพระยุพราชสว่างแดนดิน จ.สกลนคร 10. รพ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น 11. รพ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี 12. รพ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ 13. รพ.เทพรัตน์นครราชสีมา จ.นครราชสีมา 14. รพ.ปากช่องนานา จ.นครราชสีมา 15. รพ.ปราสาท จ.สุรินทร์ 16. รพ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี 17. รพ.สมเด็จพระยุพราชเดชอุดม จ.อุบลราชธานี 18. รพ. 50 พรรษา มหาวชิราลงกรณ จ.อุบลฯ 19. รพ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช และ 20. รพ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่