มจธ.แจงเหตุแก๊สระเบิดคาห้องทดลอง แค่หลอดทดลองแตกจากแรงดันแก๊สเฉื่อย ระบุ นศ.วิศวะไฟฟ้าประมาท ไม่สังเกตตัววัดแรงดัน ยันมหา'ลัยเข้มงวดเรื่องความปลอดภัย นศ.ทุกคนต้องผ่านการอบรมและต้องมีเซฟตี้การ์ด จึงใช้ห้องทดลองได้ ระบุ นศ.2 รายที่บาดเจ็บต้องอบรมใหม่

วันนี้ (12 พ.ย.) ผศ.สุชาดา ไชยสวัสดิ์ ผู้จัดการศูนย์การจัดการด้านพลังงาน ความปลอดภัยและอาชีวอนามัย (EESH) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุแก๊สระเบิดที่ห้องทดลองปฏิบัติการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาไฟฟ้า มจธ. เป็นเหตุให้นักศึกษาชาย 2 คนที่ทำการทดลองได้รับบาดเจ็บว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 17.00 น.ของวานนี้ (11 พ.ย.) สาเหตุของการเกิดแก๊สระเบิดนั้นมาจากที่ นักศึกษาทั้ง 2 รายได้ทำการทดลองแก๊สเฉื่อย ซึ่งแก๊สดังกล่าวไม่ได้เป็นอันตรายและไม่ติดไฟ โดยการทดลองดังกล่าวนักศึกษาจะทำการทดลองเพื่อทดสอบแรงดันแก๊สที่อัดในหลอดทดลองอะคริริก ที่โดยปกติแรงดันมาตรฐานอยู่ที่ 2 มิลลิบาร์ แต่เนื่องจากระหว่างทดลองนักศึกษาไม่ได้สังเกตุเกจ์วัดว่าแรงดันเกินมาตรฐานจึงทำให้หลอกอะคริริกที่ทำการทดลองแตกและกระจายในรัศมีประมาณครึ่งเมตร เป็นเหตุให้เศษอะคริริกกระเด็นโดนนักศึกษาทั้ง 2 คนได้รับบาดเจ็บ โดยรายหนึ่งได้รับบาดเจ็บที่มือและอีกรายได้รับบาดเจ็บที่ขา ส่วนความเสียหายอื่นๆ ไม่มี ทั้งนี้ ทันทีที่เกิดเหตุทางมหาวิทยาลัยได้แจ้งรถพยาบาลให้มารับ แต่เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่การจราจรติดขัดจึงต้องขอให้หน่วยกู้ชีพที่อยู่บริเวณนั้นนำนักศึกษาทั้ง 2 คนส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลบางปะกอก 1 โดยมีหัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้าไปคอยดูแลนักศึกษาอย่างใกล้ชิด
“เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากความประมาทซึ่งนักศึกษาทั้ง 2 รายก็ยอมรับว่าระหว่างทดลองไม่ได้สังเกตเกจ์วัดให้ดีจนหลอดอะคริลิกระเบิดเพราะแรงดันเกิน และระหว่างการทดลองนั้นนักศึกษาไม่ได้อยู่ลำพังเพียง 2 คนแต่มีอาจารย์คอยดูแลใกล้ชิด ทั้งนี้ ในเรื่องของมาตรการควบคุมความปลอดภัยนั้น มจธ.มีมาตรการเข้มข้นโดยกำหนดให้นักศึกษาของ มจธ.ทุกคนต้องเข้ารับการอบรมความปลอดภัยและมีการทดสอบให้ผ่านตามมาตรฐานที่กำหนดจึงได้รับบัตรเซฟตี้การ์ด (Safty Card) ซึ่งจะมีอายุ 2 ปี โดยนักศึกษาที่จะเข้าห้องทดลองปฏิบัติการได้ก็ต้องมีบัตรดังกล่าว และนักศึกษาทั้ง 2 คนนี้ก็ผ่านการอบรมและได้รับบัตรนี้แล้วเช่นกัน แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ทั้ง 2 คนก็ต้องมาเข้ารับการอบรมใหม่อีกครั้งด้วย” ผศ.สุชาดากล่าว และว่า อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่ามหาวิทยาลัยให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยของนักศึกษาและบุคลากร ทั้งนี้จะให้อาจารย์กำชับกับนักศึกษาให้เข้มข้นขึ้นอีก
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (12 พ.ย.) ผศ.สุชาดา ไชยสวัสดิ์ ผู้จัดการศูนย์การจัดการด้านพลังงาน ความปลอดภัยและอาชีวอนามัย (EESH) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุแก๊สระเบิดที่ห้องทดลองปฏิบัติการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาไฟฟ้า มจธ. เป็นเหตุให้นักศึกษาชาย 2 คนที่ทำการทดลองได้รับบาดเจ็บว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 17.00 น.ของวานนี้ (11 พ.ย.) สาเหตุของการเกิดแก๊สระเบิดนั้นมาจากที่ นักศึกษาทั้ง 2 รายได้ทำการทดลองแก๊สเฉื่อย ซึ่งแก๊สดังกล่าวไม่ได้เป็นอันตรายและไม่ติดไฟ โดยการทดลองดังกล่าวนักศึกษาจะทำการทดลองเพื่อทดสอบแรงดันแก๊สที่อัดในหลอดทดลองอะคริริก ที่โดยปกติแรงดันมาตรฐานอยู่ที่ 2 มิลลิบาร์ แต่เนื่องจากระหว่างทดลองนักศึกษาไม่ได้สังเกตุเกจ์วัดว่าแรงดันเกินมาตรฐานจึงทำให้หลอกอะคริริกที่ทำการทดลองแตกและกระจายในรัศมีประมาณครึ่งเมตร เป็นเหตุให้เศษอะคริริกกระเด็นโดนนักศึกษาทั้ง 2 คนได้รับบาดเจ็บ โดยรายหนึ่งได้รับบาดเจ็บที่มือและอีกรายได้รับบาดเจ็บที่ขา ส่วนความเสียหายอื่นๆ ไม่มี ทั้งนี้ ทันทีที่เกิดเหตุทางมหาวิทยาลัยได้แจ้งรถพยาบาลให้มารับ แต่เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่การจราจรติดขัดจึงต้องขอให้หน่วยกู้ชีพที่อยู่บริเวณนั้นนำนักศึกษาทั้ง 2 คนส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลบางปะกอก 1 โดยมีหัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้าไปคอยดูแลนักศึกษาอย่างใกล้ชิด
“เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากความประมาทซึ่งนักศึกษาทั้ง 2 รายก็ยอมรับว่าระหว่างทดลองไม่ได้สังเกตเกจ์วัดให้ดีจนหลอดอะคริลิกระเบิดเพราะแรงดันเกิน และระหว่างการทดลองนั้นนักศึกษาไม่ได้อยู่ลำพังเพียง 2 คนแต่มีอาจารย์คอยดูแลใกล้ชิด ทั้งนี้ ในเรื่องของมาตรการควบคุมความปลอดภัยนั้น มจธ.มีมาตรการเข้มข้นโดยกำหนดให้นักศึกษาของ มจธ.ทุกคนต้องเข้ารับการอบรมความปลอดภัยและมีการทดสอบให้ผ่านตามมาตรฐานที่กำหนดจึงได้รับบัตรเซฟตี้การ์ด (Safty Card) ซึ่งจะมีอายุ 2 ปี โดยนักศึกษาที่จะเข้าห้องทดลองปฏิบัติการได้ก็ต้องมีบัตรดังกล่าว และนักศึกษาทั้ง 2 คนนี้ก็ผ่านการอบรมและได้รับบัตรนี้แล้วเช่นกัน แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ทั้ง 2 คนก็ต้องมาเข้ารับการอบรมใหม่อีกครั้งด้วย” ผศ.สุชาดากล่าว และว่า อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่ามหาวิทยาลัยให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยของนักศึกษาและบุคลากร ทั้งนี้จะให้อาจารย์กำชับกับนักศึกษาให้เข้มข้นขึ้นอีก
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่