สมาคมประมงไทย เสนอ รมว.แรงงาน นำเข้าแรงงานข้ามชาติแบบรัฐต่อรัฐ แก้ปัญหาหลบหนีภายหลัง - ค้ามนุษย์ ทั้งขอให้เพิ่มศูนย์ประสานงานประมง ใน 22 จังหวัดชายทะเล ที่มีอยู่แค่ 7 แห่ง “สุรศักดิ์” เผยต้องคิดระบบนำเข้าเตรียมพร้อมให้มีทักษะจากประเทศต้นทางก่อนรับเข้าไทย ชี้เรื่องแก้ค้ามนุษย์หลายหน่วยงานต้องร่วมกันกับ พม. ที่เป็นเจ้าภาพ
วันนี้ (20 ต.ค.) พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลัง นายภูเบศ จันทนิมิ ประธานสมาคมประมงแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบเพื่อหารือเรื่องสถานการณ์แรงงานประมงว่า ทางสมาคมเสนอ ให้นำเข้าแรงงานต่างประเทศในลักษณะรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ซึ่งทางกระทรวงแรงงานต้องคิดระบบในการนำเข้าและทำอย่างไรให้เกิดการเตรียมพร้อมแรงงานด้านทักษะการทำประมงจากประเทศต้นทาง ว่า จะต้องเข้ามาทำงานในลักษณะใดบ้าง เพื่อป้องกันปัญหาแรงงานหลบหนี รวมทั้งศูนย์ประสานแรงงานประมง 7 แห่ง ที่มีอยู่นั้นยังไม่ครอบคลุมต่อความต้องการของภาคเอกชน ที่ต้องการให้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ ส่วนปัญหาค้ามนุษย์ในแรงงานประมงเป็นสิ่งที่สมาคมประมงต้องการให้แก้ปัญหาเพราะมีผลกระทบ แต่เรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน
นอกจากนี้ เหตุผลของการถูกลดระดับการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ คือ การที่ผู้กระทำผิดไม่ถูกลงโทษ ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องร่วมมือกันกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่เป็นหน่วยงานหลักในการแก้ปัญหา ขณะเดียวกัน สมาคมประมงอยากให้แก้ปัญหาการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวในกลุ่มแรงงานประมงที่ออกไปทำประมงนอกน่านน้ำ ซึ่งยังไม่สามารถกลับมาขึ้นทะเบียนได้ ทั้งนี้ ตนมองว่าแรงงานประมงกลุ่มนี้ไม่น่าจะมีปัญหาเพราะได้แจ้งชื่อไว้ทั้งหมดแล้ว แต่ก็ต้องหาแนวทางรองรับเมื่อกลับเข้าฝั่ง
นายภูเบศ กล่าวว่า ปัจจุบันมีแรงงานประมงที่ขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวแล้วมีประมาณ 90,000 คน เหลืออีกประมาณ 10,000 - 20,000 คน ที่แจ้งชื่อไว้แล้วแต่ยังไม่สามารถมาดำเนินการตามขั้นตอน เช่นการพิมพ์ลายนิ้วมือ การตรวจโรค ได้ เนื่องจากขณะนี้ยังอยู่บนเรือประมงที่ทำการประมงนอกน่านน้ำ ในอนาคตอยากให้การนำเข้าแรงงานประมงเป็นแบบจีทูจีทั้งหมด และให้สมาคมเป็นศูนย์กลางที่รับแรงงานจากหน่วยงานราชการเพื่อกระจายแรงงานไปยังผู้ประกอบการรายอื่นๆ ขณะเดียวกัน อยากให้เพิ่มศูนย์ประสานแรงงานประมงเป็น 22 จังหวัดชายทะเล จากเดิม 7 จังหวัด เพื่อความสะดวกในการติดต่อประสานงาน รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพของศูนย์ เช่น สามารถแจ้งความต้องการแรงงานได้ เป็นต้น
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (20 ต.ค.) พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลัง นายภูเบศ จันทนิมิ ประธานสมาคมประมงแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบเพื่อหารือเรื่องสถานการณ์แรงงานประมงว่า ทางสมาคมเสนอ ให้นำเข้าแรงงานต่างประเทศในลักษณะรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ซึ่งทางกระทรวงแรงงานต้องคิดระบบในการนำเข้าและทำอย่างไรให้เกิดการเตรียมพร้อมแรงงานด้านทักษะการทำประมงจากประเทศต้นทาง ว่า จะต้องเข้ามาทำงานในลักษณะใดบ้าง เพื่อป้องกันปัญหาแรงงานหลบหนี รวมทั้งศูนย์ประสานแรงงานประมง 7 แห่ง ที่มีอยู่นั้นยังไม่ครอบคลุมต่อความต้องการของภาคเอกชน ที่ต้องการให้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ ส่วนปัญหาค้ามนุษย์ในแรงงานประมงเป็นสิ่งที่สมาคมประมงต้องการให้แก้ปัญหาเพราะมีผลกระทบ แต่เรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน
นอกจากนี้ เหตุผลของการถูกลดระดับการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ คือ การที่ผู้กระทำผิดไม่ถูกลงโทษ ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องร่วมมือกันกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่เป็นหน่วยงานหลักในการแก้ปัญหา ขณะเดียวกัน สมาคมประมงอยากให้แก้ปัญหาการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวในกลุ่มแรงงานประมงที่ออกไปทำประมงนอกน่านน้ำ ซึ่งยังไม่สามารถกลับมาขึ้นทะเบียนได้ ทั้งนี้ ตนมองว่าแรงงานประมงกลุ่มนี้ไม่น่าจะมีปัญหาเพราะได้แจ้งชื่อไว้ทั้งหมดแล้ว แต่ก็ต้องหาแนวทางรองรับเมื่อกลับเข้าฝั่ง
นายภูเบศ กล่าวว่า ปัจจุบันมีแรงงานประมงที่ขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวแล้วมีประมาณ 90,000 คน เหลืออีกประมาณ 10,000 - 20,000 คน ที่แจ้งชื่อไว้แล้วแต่ยังไม่สามารถมาดำเนินการตามขั้นตอน เช่นการพิมพ์ลายนิ้วมือ การตรวจโรค ได้ เนื่องจากขณะนี้ยังอยู่บนเรือประมงที่ทำการประมงนอกน่านน้ำ ในอนาคตอยากให้การนำเข้าแรงงานประมงเป็นแบบจีทูจีทั้งหมด และให้สมาคมเป็นศูนย์กลางที่รับแรงงานจากหน่วยงานราชการเพื่อกระจายแรงงานไปยังผู้ประกอบการรายอื่นๆ ขณะเดียวกัน อยากให้เพิ่มศูนย์ประสานแรงงานประมงเป็น 22 จังหวัดชายทะเล จากเดิม 7 จังหวัด เพื่อความสะดวกในการติดต่อประสานงาน รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพของศูนย์ เช่น สามารถแจ้งความต้องการแรงงานได้ เป็นต้น
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
Loadingเครื่อง oncothermia ความหวังใหม่รักษามะเร็งเต้านม-ตับระยะท้าย ใช้คลื่นวิทยุยิงเฉพาะจุดมะเร็งจนเกิดความร้อน เอื้อยาเคมีบำบัดเข้าถึงมะเร็งง่ายขึ้น ผลศึกษาก้แนมะเร็งเต้านมยุบทั้งหมด 22% ผู้ป่วยมะเร็งตับอายุยืนขึ้น