"หมอรัชตะ" หารือร่วมจีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย เน้นสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า แก้ปัญหาผู้สูงอายุ การรับมือภัยพิบัติ การสร้างโรงงานผลิตวัคซีน การพัฒนาวัคซีน รองรับมือการระบาดของโรคติดเชื้ออุบัติใหม่ และปัญหาแรงงานต่างด้าว
มีรายงานว่า ในการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียน ครั้งที่ 12 ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้หารือทวิภาคีกับ 3 ประเทศคือ จีน ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ในประเด็นการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ผู้สูงอายุ การรับมือภัยพิบัติ การสร้างโรงงานผลิตวัคซีน การพัฒนาวัคซีน การรองรับการระบาดของโรคติดเชื้ออุบัติใหม่ที่เกิดขึ้นในภูมิภาค และปัญหาการจัดการสุขภาพแรงงานต่างด้าว ซึ่งประเด็นการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้านั้น จีนอยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อเข้าสู่ระบบหลักประกันฯมากว่า 10 ปี เนื่องจากมีประชากรและพื้นที่มากที่สุดในโลก
ทั้งนี้ จีนพร้อมสนับสนุนการดำเนินการของไทยที่เป็นแกนนำสร้างเครือข่ายหลักประกันสุขภาพในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งล่าสุดประเทศสมาชิกอาเซียนหลายประเทศก็ได้ให้การสนับสนุนผลักดันประเด็น “หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” เข้าสู่การประชุมสุดยอดอาเซียน ที่จะจัดขึ้นใน พ.ย.2557 ที่เมืองเนปิดอร์ สหภาพพม่า ส่วนญี่ปุ่นให้ความสนใจเป็นพิเศษในการแก้ไขปัญหาผู้สูงอายุ การเข้าถึงหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และการรับมือภัยพิบัติ โดยญี่ปุ่นได้สนับสนุนไทยในการเดินหน้าสร้างโรงงานผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ รองรับการระบาดของโรคติดเชื้ออุบัติใหม่ที่เกิดขึ้นในภูมิภาค พร้อมร่วมกันคิดค้นพัฒนาวัคซีนไข้เลือดออกที่กำลังเป็นปัญหาในญี่ปุ่นเช่นกัน
สำหรับมาเลเซียคือการแก้ไขปัญหาสุขภาพแรงงานต่างด้าว ซึ่งทั้ง 2 ประเทศมีสภาพปัญหาคล้ายกัน โดยเฉพาะแรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย อาจทำให้เกิดปัญหาโรคติดต่อข้ามพรมแดน ทั้งมาลาเรีย วัณโรค และเอดส์ รวมทั้งการคลอดบุตรโดยไม่ผ่านการดูแลอนามัยแม่และเด็ก จึงเห็นตรงกันว่า จะเป็นการร่วมกันพัฒนาระบบสุขภาพในภูมิภาคได้เข้มแข็งขึ้น และการจัดการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้ประชากรของอาเซียนได้รับสิทธิ์การรักษาพยาบาลอย่างทั่วถึง จะสามารถจัดการปัญหาสุขภาพแรงงานต่างด้าวได้อย่างยั่งยืน
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
มีรายงานว่า ในการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียน ครั้งที่ 12 ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้หารือทวิภาคีกับ 3 ประเทศคือ จีน ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ในประเด็นการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ผู้สูงอายุ การรับมือภัยพิบัติ การสร้างโรงงานผลิตวัคซีน การพัฒนาวัคซีน การรองรับการระบาดของโรคติดเชื้ออุบัติใหม่ที่เกิดขึ้นในภูมิภาค และปัญหาการจัดการสุขภาพแรงงานต่างด้าว ซึ่งประเด็นการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้านั้น จีนอยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อเข้าสู่ระบบหลักประกันฯมากว่า 10 ปี เนื่องจากมีประชากรและพื้นที่มากที่สุดในโลก
ทั้งนี้ จีนพร้อมสนับสนุนการดำเนินการของไทยที่เป็นแกนนำสร้างเครือข่ายหลักประกันสุขภาพในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งล่าสุดประเทศสมาชิกอาเซียนหลายประเทศก็ได้ให้การสนับสนุนผลักดันประเด็น “หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” เข้าสู่การประชุมสุดยอดอาเซียน ที่จะจัดขึ้นใน พ.ย.2557 ที่เมืองเนปิดอร์ สหภาพพม่า ส่วนญี่ปุ่นให้ความสนใจเป็นพิเศษในการแก้ไขปัญหาผู้สูงอายุ การเข้าถึงหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และการรับมือภัยพิบัติ โดยญี่ปุ่นได้สนับสนุนไทยในการเดินหน้าสร้างโรงงานผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ รองรับการระบาดของโรคติดเชื้ออุบัติใหม่ที่เกิดขึ้นในภูมิภาค พร้อมร่วมกันคิดค้นพัฒนาวัคซีนไข้เลือดออกที่กำลังเป็นปัญหาในญี่ปุ่นเช่นกัน
สำหรับมาเลเซียคือการแก้ไขปัญหาสุขภาพแรงงานต่างด้าว ซึ่งทั้ง 2 ประเทศมีสภาพปัญหาคล้ายกัน โดยเฉพาะแรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย อาจทำให้เกิดปัญหาโรคติดต่อข้ามพรมแดน ทั้งมาลาเรีย วัณโรค และเอดส์ รวมทั้งการคลอดบุตรโดยไม่ผ่านการดูแลอนามัยแม่และเด็ก จึงเห็นตรงกันว่า จะเป็นการร่วมกันพัฒนาระบบสุขภาพในภูมิภาคได้เข้มแข็งขึ้น และการจัดการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้ประชากรของอาเซียนได้รับสิทธิ์การรักษาพยาบาลอย่างทั่วถึง จะสามารถจัดการปัญหาสุขภาพแรงงานต่างด้าวได้อย่างยั่งยืน
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
