นักวิจัยชี้ เขตสุขภาพของ สธ. ทำดีแล้ว มาถูกทาง แต่ต้องเพิ่มงานส่งเสริมป้องกันโรค เหตุยังขาดบุคลากรเชี่ยวชาญด้านนี้ แนะตั้งกลไกกลางพัฒนาระบบบริการสุขภาพ ดูแลงานบริการทุกโรงพยาบาลทุกสังกัด ไม่เฉพาะ สธ. ช่วยการแชร์ทรัพยากรมีประสิทธิภาพ
ศ.นพ.ไพบูลย์ สุริยะวงศ์ไพศาล นักวิชาการศูนย์เวชศาสตร์ชุมชน โรงพยาบาลรามาธิบดี ในฐานะนักวิจัยติดตามการทำงานเขตสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากการติดตามเขตสุขภาพของ สธ. ซึ่งเริ่มในปี 2556 พบว่า สธ. เดินมาถูกทางแล้ว เนื่องจากการทำงานรูปแบบพื้นที่เป็นเรื่องดี เพราะคนในพื้นที่จะเข้าใจระบบมากกว่าส่วนกลาง แต่สิ่งที่ต้องเพิ่มเติม คือ การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ที่ยังขาดบุคลากรเชี่ยวชาญด้านนี้อยู่ สธ. จึงควรหาบุคลากรที่เก่งๆ ซึ่งเชื่อว่ากระจายอยู่ตามที่ต่างๆ อยู่แล้ว เพราะเรื่องการส่งเสริมป้องกันโรคต้องอาศัยคนที่สามารถประสานหน่วยงานต่างๆ ได้ และทำงานร่วมกันเพื่อชุมชนสุขภาพดี เช่น บางแห่งพยาบาลจะรู้จักคนมากกว่าแพทย์ และสามารถพูดคุยของบประมาณจากองค์การบริหารส่วนตำบลในการก่อสร้างอาคารล้างไต เป็นต้น
ศ.นพ.ไพบูลย์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการใช้ทรัพยากรร่วมกัน ทั้งแพทย์ เครื่องมือแพทย์ ห้องผ่าตัด เป็นต้น เป็นหลักการที่ดี แต่ไม่ควรจำกัดแค่โรงพยาบาลสังกัด สธ. เท่านั้น ควรดำเนินการร่วมกับโรงพยาบาลสังกัดอื่น เช่น โรงเรียนแพทย์ ซึ่งจะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาก อาจมีการร่วมมือกันในเรื่องการส่งต่อผู้ป่วย ทั้งนี้ สิ่งสำคัญคือยังขาดกลไกกลางเรื่องการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ หมายถึงการดูแลการบริการของโรงพยาบาลทุกสังกัด ไม่ใช่แค่สังกัด สธ. จึงควรมีกลไกกลางนี้ เพื่อให้การจัดสรรงบประมาณไม่ทับซ้อน คือ หากโรงพยาบาลใดมีเครื่องมือแพทย์ราคาแพงแล้ว โรงพยาบาลใกล้เคียงก็ไม่ควรมี แต่ควรพัฒนาด้านอื่น แล้วมาแชร์ทรัพยากรร่วมกัน ซึ่งอาจต้องให้ สธ. เป็นเจ้าภาพ หรือเดินหน้าเรื่องนี้
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่