“กมล” เล็งทบทวนโครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม ของ สพฐ. โดยเฉพาะโครงการที่เกณฑ์ครู - นร. เข้าวัดพระธรรมกาย พร้อมทำหนังสือเวียนแจ้ง ร.ร. ทั่วประเทศสนับสนุนครู บุคลากร และนร. เข้าร่วมกิจกรรมทางพุทธศาสนาโดยเน้นเข้าร่วมที่วัดใกล้บ้าน
นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขอความร่วมมือกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้เป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาคุณภาพประชาชน และเป็นหน่วยงานหลักในการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ให้กับเยาวชนของประเทศไทย ดังนั้น สพฐ. จึงจะใช้โอกาสในช่วงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา มาพลิกฟื้นขนบธรรมเนียม ประเพณีวิถีชีวิตไทยๆ เหมือนในอดีต โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ได้ส่งหนังสือเวียนไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทั่วประเทศ เพื่อขอความร่วมมือให้โรงเรียน และหน่วยงานในสังกัด สพฐ. จัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาร่วมกับภาคส่วนอื่นๆ โดยเฉพาะในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา อาทิ วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา โดยการรณรงค์ให้ประชาชนมาร่วมกิจกรรมในวัด รวมถึงเชิญชวนบุคลากรแต่งชุดขาวหรือชุดสุภาพเข้าวัดทุกวันพระ ประดับธงธรรมจักรรอบหน่วยงาน และเชิญชวนให้โรงเรียนพานักเรียนไปบำเพ็ญประโยชน์ในวัด เช่น กวาดลานวัด เป็นต้น โดยเน้นให้เป็นการบำเพ็ญประโยชน์ที่วัดใกล้บ้านเท่านั้น และจากนี้ขอให้โรงเรียนสนับสนุนให้นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา อย่างต่อเนื่อง
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวถึงกรณีที่ก่อนหน้านี้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ว่า สพฐ. มีการเกณฑ์ครูและบุคลากรและสนับสนุนให้โรงเรียนพานักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาในวัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี ว่า เรื่องนี้ตนต้องหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง ยอมรับว่า ในอดีต สพฐ. จะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนาเป็นระยะ และบางช่วงก็มีการร่วมกิจกรรมกับวัดสำคัญบางวัด แต่จะเป็นโครงการระยะสั้นปีต่อปี โดยปีนี้ สพฐ. จะขอทบทวนเรื่องเหล่านี้และคิดว่าสิ่งที่เหมาะสมที่สุด คือ การส่งเสริมให้นักเรียนและบุคลากรของ สพฐ. ไปร่วมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนากับวัดใกล้บ้านประจำท้องถิ่น เนื่องจากเจ้าคณะจังหวัดทั้งหลายล้วนเป็นพระในสังกัดมหาเถรสมาคม และมีมหาวิทยาลัยสงฆ์เป็นผู้ดูแลหลักสูตรการอบรม ดังนั้น โดยหลักตนคิดว่า เราความต้องทำงานร่วมกับสำนักงานเลขาธิการมหาเถรสมาคม และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นหลัก
“ผมจะลงไปหารือรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมในปีนี้ เบื้องต้นจะยึดหลักให้จัดกิจกรรมที่วัดใกล้บ้าน เพราะสะดวกกับการเดินทาง รวมถึงคงต้องลงไปดูแผนงานโครงการเดิมที่มีอยู่ ว่า ได้กำหนดแผนอะไรไว้บ้าง ถ้าเงื่อนไขอะไรที่ผูกพัน และสามารถปรับเปลี่ยนได้ก็จะปรับเปลี่ยนให้เกิดความสะดวกกับครูและบุคลากรให้มากที่สุดแต่โดยระบบทำงานควรจะใช้วัดสำคัญในพื้นที่เป็นหลัก เพราะสะดวกกับการเดินทาง และเป็นที่เคารพของคนในท้องถิ่นอยู่แล้ว” นายกมล กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขอความร่วมมือกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้เป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาคุณภาพประชาชน และเป็นหน่วยงานหลักในการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ให้กับเยาวชนของประเทศไทย ดังนั้น สพฐ. จึงจะใช้โอกาสในช่วงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา มาพลิกฟื้นขนบธรรมเนียม ประเพณีวิถีชีวิตไทยๆ เหมือนในอดีต โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ได้ส่งหนังสือเวียนไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทั่วประเทศ เพื่อขอความร่วมมือให้โรงเรียน และหน่วยงานในสังกัด สพฐ. จัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาร่วมกับภาคส่วนอื่นๆ โดยเฉพาะในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา อาทิ วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา โดยการรณรงค์ให้ประชาชนมาร่วมกิจกรรมในวัด รวมถึงเชิญชวนบุคลากรแต่งชุดขาวหรือชุดสุภาพเข้าวัดทุกวันพระ ประดับธงธรรมจักรรอบหน่วยงาน และเชิญชวนให้โรงเรียนพานักเรียนไปบำเพ็ญประโยชน์ในวัด เช่น กวาดลานวัด เป็นต้น โดยเน้นให้เป็นการบำเพ็ญประโยชน์ที่วัดใกล้บ้านเท่านั้น และจากนี้ขอให้โรงเรียนสนับสนุนให้นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา อย่างต่อเนื่อง
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวถึงกรณีที่ก่อนหน้านี้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ว่า สพฐ. มีการเกณฑ์ครูและบุคลากรและสนับสนุนให้โรงเรียนพานักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาในวัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี ว่า เรื่องนี้ตนต้องหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง ยอมรับว่า ในอดีต สพฐ. จะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนาเป็นระยะ และบางช่วงก็มีการร่วมกิจกรรมกับวัดสำคัญบางวัด แต่จะเป็นโครงการระยะสั้นปีต่อปี โดยปีนี้ สพฐ. จะขอทบทวนเรื่องเหล่านี้และคิดว่าสิ่งที่เหมาะสมที่สุด คือ การส่งเสริมให้นักเรียนและบุคลากรของ สพฐ. ไปร่วมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนากับวัดใกล้บ้านประจำท้องถิ่น เนื่องจากเจ้าคณะจังหวัดทั้งหลายล้วนเป็นพระในสังกัดมหาเถรสมาคม และมีมหาวิทยาลัยสงฆ์เป็นผู้ดูแลหลักสูตรการอบรม ดังนั้น โดยหลักตนคิดว่า เราความต้องทำงานร่วมกับสำนักงานเลขาธิการมหาเถรสมาคม และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นหลัก
“ผมจะลงไปหารือรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมในปีนี้ เบื้องต้นจะยึดหลักให้จัดกิจกรรมที่วัดใกล้บ้าน เพราะสะดวกกับการเดินทาง รวมถึงคงต้องลงไปดูแผนงานโครงการเดิมที่มีอยู่ ว่า ได้กำหนดแผนอะไรไว้บ้าง ถ้าเงื่อนไขอะไรที่ผูกพัน และสามารถปรับเปลี่ยนได้ก็จะปรับเปลี่ยนให้เกิดความสะดวกกับครูและบุคลากรให้มากที่สุดแต่โดยระบบทำงานควรจะใช้วัดสำคัญในพื้นที่เป็นหลัก เพราะสะดวกกับการเดินทาง และเป็นที่เคารพของคนในท้องถิ่นอยู่แล้ว” นายกมล กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
