ปลัด ศธ.ลงพื้นที่ตรวจสนามสอบคัดเลือก ผอ.เขตฯ ย้ำเน้นความโปร่งใสทุกขั้นตอน เตือนอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้างช่วยสอบผ่าน
วันนี้ (21 มิ.ย.) ที่โรงเรียนหอวัง กรุงเทพฯ นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พร้อมด้วย นางศิริพร กิจเกื้อกูล เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ผู้บริหารสำนักงาน ก.ค.ศ.เดินทางตรวจเยี่ยมสนามสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่มีตำแหน่งว่างบรรจุเป็นผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) 36 ตำแหน่ง และผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) 14 ตำแหน่ง
โดยนางสุทธศรีกล่าวภายหลังตรวจสนามสอบว่า การสอบในวันนี้เป็นการสอบภาค ก และภาค ข ของผู้สมัครกลุ่มทั่วไป ส่วนผู้สมัครกลุ่มประสบการณ์จะสอบเฉพาะภาค ก เบื้องต้นทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีผู้สมัครที่มีคุณสมบัติเข้าสอบรวม 942 ราย จากจำนวนสมัคร 1,117 ราย แยกเป็นผู้มีสิทธิ์สอบคัดเลือก ผอ.สพป. 749 ราย และ ผอ.สพม.193 ราย โดย การสมัครคัดเลือกจะแบ่งออกเป็นผู้สมัครกลุ่มทั่วไปและกลุ่มประสบการณ์ ซึ่งการดำเนินการทุกขั้นตอนเน้นความโปร่งใสเป็นธรรมตรวจสอบได้ทุกขั้นตอนเพื่อให้การสอบมีความสุจริต ยุติธรรม หากมีใครมาแอบอ้างว่าจะช่วยเหลือให้ได้รับการบรรจุแต่งตั้งให้ปฏิเสธและอย่าหลงเชื่อและหากพบว่าใครกระทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องจะมีมาตรการการลงโทษอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้หลังจากการสอบในวันนี้ แล้วจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสอบในภายในวันที่ 25 มิถุนายน เพื่อเข้ารับการสอบภาค ค
ทั้งนี้ ในวันที่ 6-7 กรกฎาคมจะเป็นการสอบภาค ค การประเมินสมรรถนะทางการบริหาร ประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่ง ของกลุ่มทั่วไป ส่วนกลุ่มประสบการณ์จะมีการสอบภาค ข การประเมินสมรรถนะทางการบริหาร การประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่งในวันเดียวกัน หลังจากนั้นจะมีการประมวลผลคะแนนเพื่อประกาศผลการคัดเลือกภายในวันที่ 15 กรกฎาคม โดยจะมีการขึ้นบัญชีผู้สอบคัดเลือกได้ไว้ 2 ปี นับตั้งแต่วันประกาศผลการคัดเลือก ทั้งนี้ หากภายหลังว่าผู้ผ่านการสอบคัดเลือกขาดคุณสมบัติหรือให้ข้อมูลเป็นเท็จจะหมดสิทธิ์หรือถูกยกเลิกหรือถูกเพิกถอนสิทธิ์ในการบรรจุและแต่งตั้งโดยไม่มีสิทธิ์เรียกร้องใดๆ รวมทั้งจะถูกดำเนินการทางวินัยในกรณีให้ข้อมูลเป็นเท็จด้วย
นางศิริพรกล่าวว่า การดำเนินการของ ก.ค.ศ.เป็นไปอย่างรัดกุม ตั้งแต่การตั้งกรรมการออกข้อสอบ การรับส่งข้อสอบจากโรงพิมพ์จะถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐานทุกขั้นตอน นอกจากนี้ในการบรรจุข้อสอบจะมีกรรมการกลางเข้าไปตรวจสอบเพื่อความโปร่งใสด้วย นอกจากนี้ ในช่วงการสอบจะห้ามนำเครื่องมือสื่อสารติดตัวเข้าไปทั้งผู้สอบและผู้คุมสอบ ส่วนข้อสอบนั้นจะมีเจ้าหน้าที่คุมสอบคอยดูเพื่อไม่ให้มีการนำออกจากห้องสอบโดยจะใส่หมายเลขข้อสอบเอาไว้ทุกฉบับหากพบว่าข้อสอบไหนหายจะสามารถตรวจสอบได้ว่าหายไปจากชุดใด และก่อนนำข้อสอบเก็บจะตรวจสอบทุกแผ่นด้วย
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (21 มิ.ย.) ที่โรงเรียนหอวัง กรุงเทพฯ นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พร้อมด้วย นางศิริพร กิจเกื้อกูล เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ผู้บริหารสำนักงาน ก.ค.ศ.เดินทางตรวจเยี่ยมสนามสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่มีตำแหน่งว่างบรรจุเป็นผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) 36 ตำแหน่ง และผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) 14 ตำแหน่ง
โดยนางสุทธศรีกล่าวภายหลังตรวจสนามสอบว่า การสอบในวันนี้เป็นการสอบภาค ก และภาค ข ของผู้สมัครกลุ่มทั่วไป ส่วนผู้สมัครกลุ่มประสบการณ์จะสอบเฉพาะภาค ก เบื้องต้นทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีผู้สมัครที่มีคุณสมบัติเข้าสอบรวม 942 ราย จากจำนวนสมัคร 1,117 ราย แยกเป็นผู้มีสิทธิ์สอบคัดเลือก ผอ.สพป. 749 ราย และ ผอ.สพม.193 ราย โดย การสมัครคัดเลือกจะแบ่งออกเป็นผู้สมัครกลุ่มทั่วไปและกลุ่มประสบการณ์ ซึ่งการดำเนินการทุกขั้นตอนเน้นความโปร่งใสเป็นธรรมตรวจสอบได้ทุกขั้นตอนเพื่อให้การสอบมีความสุจริต ยุติธรรม หากมีใครมาแอบอ้างว่าจะช่วยเหลือให้ได้รับการบรรจุแต่งตั้งให้ปฏิเสธและอย่าหลงเชื่อและหากพบว่าใครกระทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องจะมีมาตรการการลงโทษอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้หลังจากการสอบในวันนี้ แล้วจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสอบในภายในวันที่ 25 มิถุนายน เพื่อเข้ารับการสอบภาค ค
ทั้งนี้ ในวันที่ 6-7 กรกฎาคมจะเป็นการสอบภาค ค การประเมินสมรรถนะทางการบริหาร ประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่ง ของกลุ่มทั่วไป ส่วนกลุ่มประสบการณ์จะมีการสอบภาค ข การประเมินสมรรถนะทางการบริหาร การประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่งในวันเดียวกัน หลังจากนั้นจะมีการประมวลผลคะแนนเพื่อประกาศผลการคัดเลือกภายในวันที่ 15 กรกฎาคม โดยจะมีการขึ้นบัญชีผู้สอบคัดเลือกได้ไว้ 2 ปี นับตั้งแต่วันประกาศผลการคัดเลือก ทั้งนี้ หากภายหลังว่าผู้ผ่านการสอบคัดเลือกขาดคุณสมบัติหรือให้ข้อมูลเป็นเท็จจะหมดสิทธิ์หรือถูกยกเลิกหรือถูกเพิกถอนสิทธิ์ในการบรรจุและแต่งตั้งโดยไม่มีสิทธิ์เรียกร้องใดๆ รวมทั้งจะถูกดำเนินการทางวินัยในกรณีให้ข้อมูลเป็นเท็จด้วย
นางศิริพรกล่าวว่า การดำเนินการของ ก.ค.ศ.เป็นไปอย่างรัดกุม ตั้งแต่การตั้งกรรมการออกข้อสอบ การรับส่งข้อสอบจากโรงพิมพ์จะถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐานทุกขั้นตอน นอกจากนี้ในการบรรจุข้อสอบจะมีกรรมการกลางเข้าไปตรวจสอบเพื่อความโปร่งใสด้วย นอกจากนี้ ในช่วงการสอบจะห้ามนำเครื่องมือสื่อสารติดตัวเข้าไปทั้งผู้สอบและผู้คุมสอบ ส่วนข้อสอบนั้นจะมีเจ้าหน้าที่คุมสอบคอยดูเพื่อไม่ให้มีการนำออกจากห้องสอบโดยจะใส่หมายเลขข้อสอบเอาไว้ทุกฉบับหากพบว่าข้อสอบไหนหายจะสามารถตรวจสอบได้ว่าหายไปจากชุดใด และก่อนนำข้อสอบเก็บจะตรวจสอบทุกแผ่นด้วย
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
